จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เฉลา กาญจนา

กางปฏิทินดูว่า ช่วงนี้เป็นฤดูกาลโยกย้ายหรือไม่ แต่พลิกไปพลิกมาก็ไม่ใช่ แต่เหตุใดจึงมีข่าวเล็ดลอดออกมาไม่ขาดสาย

ว่า คนนั้นคนนี้จะถูกย้ายถูกปลดหนาหู

หากไล่เรียงดู เห็นมีอยู่หลายคน หลายตำแหน่ง ที่อยู่ในข่าย "ไม่ปลื้ม ไม่ต้องการ" อย่างกรณีผู้ว่าการแบงก์ชาติ ประสาร ไตรรัตน์วรกุล กับ กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง คู่นี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะมีปัญหาเรื่องความคิดไม่ตรงกันในมุมของ"ดอกเบี้ย"

กระทั่งมี "จดหมายน้อย" ส่งผ่าน วีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ไปยังบอร์ดแบงก์ชาติทุกคน ให้รับรู้บทบาทและหน้าที่ ที่ต้องร่วมรับผิดชอบต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นสำคัญ อีกทั้งยังเป็นห่วงภาระหนี้สะสมของแบงก์ชาติที่มียอดติดลบทุกปี

เป้าหมายของฝ่ายการเมือง ที่ต้องการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.75% ในปัจจุบันลง เพื่อให้ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยในประเทศกับต่างประเทศแคบลงและลดกระแสเงินทุนไหลเข้า เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก แต่ ธปท.มองข้ามข้อเสนอ นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผู้ว่าแบงก์ชาติและรองนายกฯกิตติรัตน์ อยู่ในสภาพ "เกาเหลา" อย่างที่ปรากฏ

ความไม่ลงรอยในข้อหา "แข็งข้อ" ไม่ลดอัตราดอกเบี้ยและข้อหาสร้างภาระขาดทุนสะสมกว่า 4 แสนล้านบาท เป็นผลจากการออกพันธบัตรดูดซับสภาพคล่องเงินบาท ทั้งหมดคือข้อหาต่อผู้ว่าการแบงก์ชาติ

แต่มีคนจำนวนไม่น้อยสงสัยว่า ความผิดของผู้ว่าการแบงก์ชาติ เป็นความผิดที่ทำร้ายประเทศชาติ จนทำให้เศรษฐกิจย่อยยับจริงหรือ แล้วจะเป็นต้นตอของฟองสบู่อสังริมทรัพย์ที่กำลังจะผุดขึ้นหรือไม่

แต่ที่แน่ๆ วันนี้นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และผู้ใหญ่ในรัฐบาลรู้ดีว่า สิ่งที่ปรากฏมันยังไม่สอดรับกับนโยบายที่ประกาศไว้ เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังไม่รู้จะหัวทิ่มหรือหัวตำอย่างไร ส่งออกจะลูกผีหรือลูกคน ยังไม่มีใครบอกได้ ฉะนั้นโยนไปที่แบงก์ชาติก็น่าจะเหมาะอยู่

ถ้าเศรษฐกิจยังไม่โงหัว ทางออกตอนนี้ก็ต้อง "ฆ่าแพะ" ให้หมดคอกไปเรื่อยๆ หรือ
ว่ากันว่า งานนี้หากผู้ว่าการแบงก์ชาติไม่ปรับตัว โอกาสที่จะถูกสั่ง "ปลดแบบฟ้าผ่า" อาจเกิดขึ้นในเร็ววันแน่นอน มีข่าวเล็ดลอดออกมาทำนองว่า "เสี่ยใหญ่"เดินสายสาธยายความไม่ชอบขี้หน้าผู้ว่าแบงก์ชาติกับผู้ใหญ่กันแล้ว พร้อมกับเปรยว่าควรจะปลดออกจากตำแหน่ง

ทั้งนี้ การจะปลดผู้ว่าการแบงก์ชาติ ตอนนี้คงทำได้ใน 2 ลักษณะ อย่างแรก รมว.การคลังต้องนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีปลด อย่างนี้นายกฯก็ต้องร่วมรับผิดชอบ หรืออีกทาง อาจกดดันให้บอร์ดแบงก์ชาติพิจารณาแทน หากบอร์ดแบงก์ชาติรับลูกข้อนี้ ต้องตั้งข้อหาดีๆ ต้องควานหาความผิดที่คิดว่าร้ายแรง ปรากฏเด่นชัดให้ได้

นี่คือ !!.. แพะตัวแรก ที่อยู่ในข่ายถูดเชือด
แพะตัวถัดมา ที่พูดกันหน้าหูตอนนี้ คงหนีไม่พ้น สมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่อยู่ๆ ก็ไม่เข้าตา"เสี่ย" เสียอย่างนั้น เลยอยู่ในกลุ่มเป้าหมายเช่นกัน ส่วนข้อหาน่าจะเป็นเพราะความห่างเหิน โดยที่เจ้าตัวก็เริ่มระแคะระคายว่ากำลังจะถูกเชือดสังเวย

สำหรับ สมพล ถือเป็นผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร มีความเชื่อมโยงกับการเมืองไม่น้อย เส้นสายก็ไม่ธรรมดา หากจะปลดออกเพราะไม่ชอบขี้หน้า อาจต้องมีคำตอบที่ชัดเจนพอสมควร

ทว่า..วันนี้ หากฝ่ายการเมือง เลือกที่จะหาแพะสังเวยความชอบธรรมให้กับตัวเองเพื่อความอยู่รอด ก็ไม่แปลก แต่หากวันหนึ่งความชอบธรรมสิ้นสุดลง ก็ระวังจะโดนปลดไปด้วย

นอกเหนือจากที่ว่ามานี้ จะมีอีกสักกี่คน ที่จะเป็นแพะรับบาปให้กับความถดถอยของเศรษฐกิจนับจากนี้ไป หากส่องสปอตไลต์ไปยังผู้บริหารรัฐวิสาหกิจและประธานบอร์ด คงมีหลายคนที่อยู่ในข่ายต้องเปลี่ยนขั้วอำนาจ อย่างน้อยๆ ก็เริ่มมีตัวอย่างให้เห็นแล้ว ทั้ง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่การเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

เฉลา กาญจนา