สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ขุมทรัพย์ ช่อง 3 รับเม็ดเงินโฆษณาหน่วยงานรัฐ 309 ล้าน

ขุมทรัพย์“ช่อง 3”รับเม็ดเงินโฆษณาหน่วยงานรัฐ 309 ล้าน

จากสำนักข่าวอิสรา

ตีแผ่ขุมทรัพย์ล่าสุดช่อง 3 รวยทะลุเมฆรับอัดฉีดโฆษณาจากหน่วยงานรัฐ 39 สัญญา 309 ล้าน ปตท.ยังครองแชมป์ คนละก้อนกับ บ.ไร่ส้ม-สรยุทธ สุทัศนะจินดา 

 

     ไม่ ว่าเบื้องหลังการถอดละครดัง เหนือเมฆ 2 ตอนมือปราบจอมขมังเวทย์ มาจากอำนาจรัฐหรือการเซ็นเซอร์ตัวเองหรือไม่? ข้อเท็จจริงที่ยากปฏิเสธก็คือ ช่อง 3 หรือบริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) กวาดเม็ดเงินโฆษณาจากหน่วยงานของรัฐไปกว่า 309 ล้าน 

     สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่านับจากปี 2547 เป็นต้นมาจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม2555 บมจ.บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐทั้งสิ้น 39 สัญญา วงเงิน 309,248,880 บาท (ดูตาราง) หน่วยงานที่เป็นว่าจ้างมากที่สุดคือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จำนวน198 ล้านบาท รองลงมาคือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 41.8 ล้านบาท

     หน่วยงานรัฐที่ว่าจ้าง บมจ.บีอีซี-เทโร ฯ ล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2555 คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จ้างโฆษณาผลิตภัณฑ์น้ำมันใส ปตท.ในรายการโทรทัศน์ “เรื่องเล่าเช้านี้”วงเงิน 7,200,000 บาท เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 55

     ทั้งนี้ การว่าจ้างระหว่างหน่วยงานของรัฐกับ บมจ.บีอีซี-เทโร ฯ เป็นคนละส่วนกับ การทำสัญญาว่าจ้างระหว่าง บมจ.บีอีซี-เทโร ฯ กับ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด หุ้นส่วนธุรกิจของบมจ.บีอีซี-เทโรฯ

     ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2555 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ระหว่างปี 2547 จนถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2555 บมจ.บีอีซี-เทโร ฯเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐอย่างน้อย 34 สัญญา วงเงิน 281,798,984 บาท 

     น่าสังเกตว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2555 ช่อง 3 มียอดโฆษณาจากหน่วยงานภาครัฐเพิ่มขึ้น


เปิดเอกสาร“บิ๊กช่อง 3”-พวก”ร่วมหุ้น“นายทักษิณ ชินวัตร”

จากสำนักข่าวอิสรา

เปิดเอกสารจดทะเบียน“ประชา มาลีนนท์”-พวก ร่วมธุรกิจ “นายทักษิณ ชินวัตร”ก่อนตั้งบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ พบเครือข่ายเพียบ 

     นาย ประชา มาลีนนท์  อดีตรัฐมนตรี 4 กระทรวงในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (ทักษิณ 1-2) ร่วมทำธุรกิจกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนก่อตั้งบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์

     สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า บริษัท บางกะปิ สรรพสินค้า จำกัด ซึ่งจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2525 ด้วยทุนเริ่มแรก 10 ล้านบาท (ต่อมาเพิ่มเป็น 15 ล้านบาท) ประกอบธุรกิจ การค้าและผลิตสินค้าผ้า ด้าย เครื่องนุ่งห่ม เครื่องแต่งกาย ที่ตั้งเลขที่ 166/50 หมู่ที่ 3 ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร นายประชา มาลีนนท์ ร่วมเป็นกรรมการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

     ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า ในช่วงก่อตั้งเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2525 มีกรรมการ 10 คนคือ นายธนากร วิเศษสินธพ  นายสมศักดิ์ พยับเดชาชัย นายโอภาส รางชัยกุล นายเรวัต ฉายะบุระกุลนายมนตรี สุวรรณวนิชกิจ  นางสาวสมใจ เลิศเศรษฐการ นายโกมน บูรณะมนตรี   นายทักษิณ ชินวัตร (มิได้ใช้ยศตำรวจ) นายวิศิษฐ์ มิ่งวัฒนบุญ นายเธียร พรวานิช

     ต่อมามีกรรมการ 14 คนประกอบด้วย 

     นายธนากร วิเศษสินธพ นายสมศักดิ์ พยับเดชาชัย นายโอภาส รางชัยกุล นายเรวัต ฉายะบุระกุลนายมนตรี สุวรรณวนิชกิจ  นางสาวสมใจ เลิศเศรษฐการ นายโกมน บูรณะมนตรี   นายทักษิณ ชินวัตร นายวิศิษฐ์ มิ่งวัฒนบุญ นายเธียร พรวานิช นายสรรเสริญ ธีรสาสน์ นายประชา มาลีนนท์  นางสาวอุษาวดี ทวีวัฒน์ และนางนุชฏา จิตต์เสงี่ยม

     ในบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2525 ระบุทิ่อยู่ นายทักษิณ ชินวัตร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1875/31 ถนนจรัลสนิทวงศ์  ซอย 69 แขวงบางพลัด เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ อาชีพรับราชการ ถือหุ้น 5,000 หุ้น จากทั้งหมด 100,000 หุ้น 

     ต่อมาได้จดทะเบียนเลิกกิจการในปี 2528 ขณะนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีและนายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจาก ทะเบียนเป็นบริษัทร้าง ตามความในมาตรา 1246 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2550

     นายสมศักดิ์ พยับเดชาชัย เป็นเจ้าของธุรกิจบาร์และไนต์คลับ เป็นกรรมการร่วมกับนายประชาอย่างน้อย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท มีเดียโปรโมชั่น จำกัด  ประกอบธุรกิจซื้อและจำหน่ายภาพยนตร์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)  ธุรกิจบันเทิง  บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ประกอบธุรกิจพลังงาน และทำธุรกิจร่วมคนตระกูลมาลีนนท์อื่นอีกนับสิบแห่ง  อาทิ บริษัท ซีวิว รีสอร์ท แอท เขาหลัก จำกัดบริษัท เขาหลัก พลาซ่า จำกัด บริษัท เขาหลัก ซีวิว รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด เป็นต้น 

     น่าสังเกตว่าการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท บางกะปิ สรรพสินค้า จำกัด เกิดขึ้นก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะมาก่อตั้ง  บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด  ปี 2526  บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด  ปี 2528 และบริษัท ชินวัตรแซทเทลไลท์ จำกัด ปี 2534 บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด และเกิดขึ้นหลังก่อตั้งบริษัท วายชินวัตร ในปี 2524 

     บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด เปิดตัวเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2554  มี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานเปิดโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงาน ความร้อนจากแสงอาทิตย์ (Solar Thermal) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าร่วมงาน 

     บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2551 นเปลี่ยนชื่อมาจาก บริษัท สยามโซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2552 ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนแสงอาทิตย์ มีทุนจดทะเบียน 320 ล้านบาท มีบริษัทพี.เอ็ม.เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด   ถือหุ้น 53% และบริษัทเวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ของตระกูลมาลีนนท์ ถือหุ้นประมาณ 30%


ขุมข่ายธุรกิจ“แพตตรีเซียแมรี่”หลังบ้าน“ประชา มาลีนนท์”โยงหุ้นส่วน“พ่อตา”วราเทพ รัตนากร - อดีตบิ๊ก ธอส. ถุงเงินโฆษณา บีอีซีฯ

จากสำนักข่าวอิสรา

     ธุรกิจของนายประชา มาลีนนท์ และ นางแพตตรีเซียแมรี่ มาลีนนท์ ภรรยา นอกจากเชื่อมโยงนักการเมือง ยังเกี่ยวโยงกลุ่มอดีตผู้บริหารของธนาคารใหญ่ของรัฐบางแห่ง  

     สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2534 นายประชา มาลีนนท์ ได้ร่วมกับนายไบร์อัน ลินด์เซย์ มารค์คาร์ ชาวอเมริกันสัญชาติพม่า จัดตั้งบริษัท วินสตัน เฮ้าส์ จำกัด ประกอบกิจการค้าขาย ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป และอื่นๆ ด้วยทุน 5 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 418/15-16-17 หมู่ที่ 5 ถนนศรีนครินทร์ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ นายประชา ถือหุ้น 21,000 หุ้น (ต่อมาปี 2547 ได้โอนหุ้นให้นางแพตตรีเซียแมรี่ มาลีนนท์ ภรรยา) นายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์ ร่วมถือหุ้น 15,000 หุ้น โดยมีนายสังวร เอกบุศย์ ร่วมเป็นกรรมการ 

     ผู้ถือหุ้นคนอื่นประกอบด้วย นางสาวธัญญา โชคศิริกุลชัย นางสาวจิตรสุดา หรือ คริสติน่า โซเฟีย มาร์คาร์ (ลูก สาวนายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์) นายปรีดี โชคศิริกุลชัย นายปรีดา โชคศิริกุลชัย และ นายปรีชา โชคศิริกุลชัย

     จาก การตรวจสอบพบว่า นายปรีดี โชคศิริกุลชัย และ นายปรีดา โชคศิริกุลชัย เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของนายสมชาย ชาติอัปสร พ่อนางอรอุมา ชาติอัปสร ภรรยานายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสมชายเป็นพ่อตานายวราเทพ) ในชื่อบริษัท เรดิแอด จำกัด ทำธุรกิจโฆษณา (เลิกกิจการแล้ว) 

     ขณะที่ นายสังวร เอกบุศย์ มีชื่อเป็นกรรมการ 8 บริษัท ได้แก่ บริษัท วินสตัน เฮ้าส์ จำกัด บริษัท ทีเจ ดิสทริบิวชั่น จำกัด บริษัท ที.อี.โปรโมชั่น จำกัดบริษัท บีเอ็นเค เทรดดิ้ง จำกัดบริษัท เพรสทีจ แบรนด์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ยูทีไอ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท ไทยโทแบคโก้เซลส์แอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ) บริษัท ยูทีไอ โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท สุริวงศ์ โฮลดิ้งส์ จำกัด

     จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท ยูทีไอ โฮลดิ้ง จำกัด จดทะเบียนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2540 ทุนปัจจุบัน 6,800,000 ประกอบธุรกิจ เป็นตัวแทนในการขายสินค้าและจัดจำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ที่ตั้งเลขที่ 1693 ซอยลาดพร้าว 94 ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 30 เมษายน 2553 นายขรรค์ ประจวบเหมาะ อดีตกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พ้นตำแหน่งในปลายปี 2553 อยู่ในตำแหน่ง 7 ปี (นายขรรค์ ทำธุรกิจบุหรี่ร่วมกับนายณรงค์ วงศ์วรรณ) และ นางสาวโชติรส อุตมโชติ ถือหุ้นใหญ่ ผู้ถือหุ้นคนอื่น นายเกษม ศรีพรรธนกุล นายนาวิน บุญทวีลาภ นายสุชัย กีรติสุทธิสาธร นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ และ นายสังวร เอกบุศย์ 

     ตอนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) วันที่ 14 มีนาคม 2548 นายประชาแจ้งว่า นางแพตตรีเซียแมรี่ คู่สมรส มีทรัพย์สิน 34,811,761.90 บาท ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุน บริษัท วินสตัน เฮ้าส์ จำกัด 23,125 หุ้น มูลค่า 2,312,500 บาท บริษัท เอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด 15 หุ้น มูลค่า 3,750 บาท และ บริษัท พีทีพี แลนด์ จำกัด 80,000 หุ้น มูลค่า 7,600,000 บาท 

     ทั้ง นี้ น่าสังเกตว่า งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐที่ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นคู่สัญญาในการว่าจ้างประชาสัมพันธ์ รวม 39 สัญญา วงเงินกว่า 300 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นคู่สัญญากับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ตั้งแต่ ปี 2547-2555 อย่างน้อย 10 สัญญา วงเงิน 41.8 ล้านบาท


ปริศนา!ลูกสาววัย 25 ปีบิ๊กช่อง 3 ยื่นลาออกจากบริษัทประชา มาลีนนท์

จากสำนักข่าวอิสรา

พลิกรายงานประชุมบริษัทประชา มาลีนนท์ ปริศนา!ลูกสาวบิ๊กช่อง 3 วัย 25 ปีขอลาออกจากกรรมการหลังรับตำแหน่ง 6 วัน ให้เหตุผล“ปัญหาละเอียดอ่อน”พบถือพาสปอตสหรัฐเข้าไทยปี28 

 

บริษัท วินสตัน เฮ้าส์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจที่ร่วมหุ้นระหว่างนายประชา มาลีนนท์ (ต่อมาปี 2547 ได้โอนหุ้นให้นางแพตตรีเซียแมรี่ มาลีนนท์ ภรรยา) กับ นายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์ ปัจจุบันเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น บริษัท บีอีซี - เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มีนางสาวจิตรสุดา โซเฟีย มาคา บุตรสาว วัย 25 ปีของนายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์ เป็นกรรมการ แต่ได้ลาออกจากตำแหน่งอย่างรวดเร็ว 

ทั้งนี้ ในรายงานการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 4/2534 จัดขึ้นที่บ้านเลขที่ 418/15-17 หมู่ที่ 5 ถนนศรีนครินทร์ ตำบลสำโรง อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ นางสาวจิตรสุดา โซเฟีย มาคา ประธานในที่ประชุมได้แถลงให้ที่ประชุมทราบว่า ตามที่ประธานได้มารับตำแหน่งกรรมการของบริษัท ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้ง 3/2534 นั้น ไม่สามารถบริหารงานของบริษัทได้เนื่องจากปัญหาบางประการมีความละเอียดอ่อน การตัดสินใจในปัญหาแต่ละครั้งอาจทำให้บริษัทเกิดความเสียหายจึงขอลาออกจาก การเป็นกรรมการของบริษัท โดยทำหนังสือเปลี่ยนแปลงกรรมการเมื่อ วันที่ 15 กรกฎาคม 2534

หลังนางสาวจิตรสุดา โซเฟีย มาคา ลาออก นายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์ เข้ามารับตำแหน่งแทนอีกครั้ง
น่าสังเกตว่านางสาวจิตรสุดา โซเฟีย มาคา รับตำแหน่งกรรมการบริษัท วินสตัน เฮ้าส์ จำกัด เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2534 เท่ากับอยู่ในตำแหน่งเพียง 6 วัน

มีข้อมูลระบุว่า นาง สาวจิตรสุดา โซเฟีย มาคา หรือ คริสตินา โซเฟีย มาคา (CHRISTINA SOPHIA MARCAR) เป็นบุตรนายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์ กับ นางแอนน์มารี มาร์การ์ สัญชาติพม่า ถือหนังสือเดินทางสหรัฐเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2528 ต่อมาได้ยื่นคำร้องของพิสูจน์สัญชาติ ตาม มาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 กรมตำรวจสั่งปล่อยตัวเข้าเมืองเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2532 และขอย้ายเข้าภูมิลำเนาทะเบียนบ้านเลขที่ 161 รามคำแหงซอย7 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ

นายประชา มาลีนนท์ ได้ร่วมกับนายไบร์อัน ลินด์เซย์ มารค์คาร์ ชาวอเมริกันสัญชาติพม่า จัดตั้งบริษัท วินสตัน เฮ้าส์ จำกัด ประกอบกิจการค้าขาย ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป และอื่นๆ ด้วยทุน 5 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 418/15-16-17 หมู่ที่ 5 ถนนศรีนครินทร์ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ นายประชา ถือหุ้น 21,000 หุ้น (ต่อมาปี 2547 ได้โอนหุ้นให้นางแพตตรีเซียแมรี่ มาลีนนท์ ภรรยา) นายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์ ร่วมถือหุ้น 15,000 หุ้น โดยมีนายสังวร เอกบุศย์ ร่วมเป็นกรรมการ

บริษัท วินสตัน เฮ้าส์ จำกัด ประกอบธุรกิจค้าขาย ด้วยทุน 5 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 418/15-16-17 หมู่ที่ 5 ถนนศรีนครินทร์ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ผลประกอบการ แจ้งว่าขาดทุนสะสมปี 2540 จำนวน 45,156,085 บาท ปี 2547 ขาดทุนสะสม 52,768,021 บาท เลิกกิจการในปี 2548

นาย สังวร เอกบุศย์ กรรมการบริษัท วินสตัน เฮ้าส์ จำกัด มีความเกี่ยวโยงทางธุรกิจกับนายขรรค์ ประจวบเหมาะ อดีตกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ขุมทรัพย์ ช่อง 3 เม็ดเงินโฆษณา หน่วยงานรัฐ

view