สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

บริษัทลับ บนเกาะสวรรค์ของกลุ่มทุนมาลีนนท์

บริษัทลับ”บนเกาะสวรรค์ของกลุ่มทุนมาลีนนท์

จากสำนักข่าวอิสรา
เขียนโดย เสนาะ สุขเจริญ


มี ความเห็นว่าบริษัท ทีวีบี(โอเวอร์ซีส์) จำกัดซึ่งจดทะเบียนตั้งอยู่ในอาคารธนาคารแห่งเบอร์มิวด้า ฟร้อนท์ สตีท แฮลมิลตัน ประเทศเบอร์มิวด้า (ต่อมาแจ้งว่าตั้งอยู่ในอาคาร เซด้าร์เฮ้าส์ 41 เซดาร์ อเสนิว แฮลมินตัน เอชเอ็ม 12 ประเทศเบอร์มิวด้า) ตามข้อมูลที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews .org ตีแผ่ก่อนหน้านี้เป็นบริษัทที่จดทะเบียนขึ้น (อย่างลับๆ?)ของคนตระกูลมาลีนนท์

 

คล้ายกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จัดตั้งบริษัท วินมาร์ค ลิมิเต็ด ซึ่งมีที่อยู่เพียงตู้ไปรษณีย์ พี.โอ.3151 โรดทาวน์ ทอร์โตรา ตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน 

ถามว่าเหตุใดถึงเชื่อเช่นนั้น? 

ก็เพราะพิจารณาจากข้อมูลอย่างน้อย 2 ประการ 

ประการ แรก บริษัท ทีวีบี ทรี เน็ตเวิร์ค จำกัด ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งต่อสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2539 โดยนายประชา มาลีนนท์ เป็นผู้ริเริ่มก่อการผู้จดทะเบียน และนายปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย ทนายความ

ประการ ที่สอง บริษัท ทีวีบี ทรี เน็ตเวิร์ค จำกัด มีการประชุมจัดตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2539  เวลา 9.30 นาฬิกา ณ เลขที่ 1126/2 อาคารวานิช ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ โดยนายประชา มาลีนนท์ เป็นประธานที่ประชุม มีผู้ถือหุ้น จำนวน  9 ราย  

1.นายประสาร มาลีนนท์ 1 หุ้น 

2.นายประวิทย์ มาลีนนท์ 1 หุ้น 

3.นายประชา มาลีนนท์ 1 หุ้น 

4.นายประชุม มาลีนนท์ 1 หุ้น  

5.นางสาวรัตนา มาลีนนท์ 1 หุ้น 

6.นางสาวอัมพรมาลีนนท์ 1 หุ้น 

7.นางรัชนี นิพัทธกุศล 1 หุ้น 

8. บริษัท บีอีซี อินเตอร์เนชั่นแนล ดิสทริบิวชั่น จำกัด  599,993 หุ้น (60%ของทุนจดทะเบียน) 

9.บริษัท ทีวีบี (โอเวอร์ซีส์) จำกัด  400,000 หุ้น (40%ของทุนจดทะเบียน) 

บริษัท บีอีซี อินเตอร์เนชั่นแนล ดิสทริบิวชั่น จำกัด  เป็นบริษัทลูกของ บมจ.บีอีซีเวิลด์ (บมจ.บีอีซีเวิลด์ ถือหุ้น 100%) จดทะเบียนวันที่ 11 กันยายน 2538 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ นายประสาร มาลีนนท์ นายประวิทย์ มาลีนนท์ นายประชุม มาลีนนท์  นางสาวรัตนา มาลีนนท์ นางสาวอัมพร มาลีนนท์ เป็นกรรมการ 

น่าสังเกตว่า จู่ๆ บริษัท ทีวีบี (โอเวอร์ซีส์) จำกัด ก็เข้ามาถือหุ้นพร้อมๆกับคนตระกูลมาลีนนท์ในวันจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท 

ประเด็น ที่ต้องพิจารณาต่อมา หาก บริษัท ทีวีบี(โอเวอร์ซีส์) จำกัด เป็นของนายประชา มาลีนนท์  (ไม่ว่านายประชาหรือของภรรยา) แปลกหรือจะผิดอะไร? 

ลองไป พลิกบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายประชาตอนรับตำแหน่งรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์วันที่ 14 มีนาคม 2548  (คณะรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร 2) นายประชาแจ้งว่ามีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 413,374,099.77 บาท หนี้สินรวม 29,291,542.31 บาท และมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 384,082,57.46 บาท ในจำนวนนี้เป็น “เงินลงทุน” ประเภทหลักทรัพย์และเงินลงทุนอื่น 21 แห่ง รวมทั้งสิ้น 148,682,070.00 บาท 

กรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่อง เที่ยวและกีฬา วันที่ 3 สิงหาคม 2548 ระบุมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 413,398,850.09 บาท หนี้สินรวม 27,468,660.90 บาท และมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 385,930,189.19 บาท ขณะที่เงินลงทุนประเภทหลักทรัพย์และเงินลงทุนอื่นทั้ง 21 แห่ง เท่าเดิม 148,682,070.00 บาท

กรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่อง เที่ยวและกีฬาครบ 1 ปี วันที่ 19 กันยายน 2550 ระบุมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 623,983,743.77 บาท หนี้สินรวม 3,722,094.55 บาท และมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 620,261,649.22 บาท ส่วนเงินลงทุนประเภทหลักทรัพย์และเงินลงทุนอื่นทั้ง 21 แห่ง ยังเท่าเดิมคือ 148,682,070 บาท

เห็นได้ว่าทั้ง 3 ครั้ง (ไม่รวมตอนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ครม.ทักษิณ 1) ไม่มีเงินลงทุนบริษัท ทีวีบี(โอเวอร์ซีส์) จำกัด ในรายการทรัพย์สินของนายประชา และนางแพตตรีเซียแมรี่  ภรรยา ในบัญชีทรัพย์สินแต่อย่างใด  

แสดงให้เห็นว่ามีการปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินมาโดยตลอดหรือไม่? 

อย่าง ไรก็ตาม นายประชาพ้นจากดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 ปี (ยื่นบัญชีฯครั้งสุดท้ายวันที่ 19 กันยายน 2550) จึงอาจไม่มีความจำเป็นที่จะมีการตรวจสอบเอาผิดในการซุกหุ้นเบอร์มิวด้า เพราะถ้ามีความผิดโทษ เว้นวรรค 5 ปีนับจากการยื่นบัญชีฯครั้งสุดท้ายก็ต้องถือว่าขาดอายุความไปแล้ว กระนั้นทำให้เห็นเหรียญอีกด้านในการทำธุรกิจของกลุ่มทุนใหญ่นี้ 

ประการต่อมาถ้าถามว่าเบื้องหลังการจัดตั้งบริษัทบนเกาะสวรรค์เบอร์มิวด้าเพื่อวัตถุประสงค์ใด?(ในกรณีเป็นเจ้าของ)  

ขอยก 2 กรณีมาเปรียบเทียบ 

กรณี แรกบริษัท วินมาร์ค ลิมิเต็ด  พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จัดตั้ง บริษัท วินมาร์ค ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทกระดาษขึ้นมาเพื่อมีวัตถุประสงค์ในการหลบการเสียภาษีจากการ ขายหุ้นชินคอร์ปโดยทำนิติกรรมว่ามีการขายหุ้นไปให้บุตรชายผ่านบริษัท วินมาร์ค  ซึ่งแท้ที่จริงเป็นการอำพรางเท่านั้น 

กรณีที่สองนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน ซื้อกิจการน้ำมันเอ็มพีของกลุ่มนายวัฒนา อัศวเหม ซึ่งมีหลักฐานชัดจนว่ามีการโอนหุ้นผ่านบริษัท วิคแฟร์ จำกัดซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งเป็นตู้ไปรษณีย์ 957 โรดทาวน์ ทอร์โตรา บริติชเวอร์

แต่กรณีของบริษัท ทีวีบี(โอเวอร์ซีส์) จำกัด จนถึงขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลที่แน่ชัดว่ามีการซื้อขายโอนหุ้นกลุ่มบีอีซี เวิลด์หรือคนในตระกูลมาลีนนท์ผ่านบริษัทดังกล่าวไปที่เกาะเบอร์มิวด้า 

เพราะฉะนั้นพฤติกรรมจึงยังไม่เหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ  นายสุริยาและนายวัฒนาเสียทีเดียว 

แต่ ถ้าถามว่า การมีบริษัทลับบนเกาะสวรรค์ มีประโยชน์ในการ“ทำธุรกรรม”ทางการเงินนอกประเทศหรือไม่? โดยเฉพาะนายประชากำลังเข้าสู่ธุรกิจพลังงานและคนใกล้ชิดนายประชาร่วมหุ้นกับ ทุนน้ำมันที่จดทะเบียนจัดตั้งบนเกาะเบอร์มิวด้าเช่นกัน  

คงไม่ยากที่ใครสักคนจะอธิบาย

กระนั้นมีข้อคิดอย่างหนึ่งก็คือหากดำเนินธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา  กำไรที่งอกเงยหลายพันล้านในแต่ละปีลดลงบ้าง คงไม่พังครืนในพริบตา? 

 


 

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ สำนักงาน ป.ป.ช.


บริษัทเครือข่าย BEC โยกหุ้นนัวบนเกาะเบอร์มิวด้า

จากสำนักข่าวอิสรา

พบข้อมูลใหม่บริษัทเครือข่ายกลุ่ม BEC โยกหุ้นบนเบอร์มิวด้า “ประสาร-อัมพร มาลีนนท์”ทำหนังสือถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แจ้งโอนเอง 

 

บริษัท ทีวีบี (โอเวอร์ซีส์) จำกัด ซึ่งถือหุ้นในบริษัท ทีวีบี ทรี เน็ตเวอร์ค จำกัด จำนวน 400,000 หุ้น และมีที่ตั้งอยู่ในอาคารธนาคารแห่งเบอร์มิวด้า ฟร้อนท์ สตีท แฮลมิลตัน ประเทศเบอร์มิวด้า ได้โอนหุ้นให้ทีวีบี อินเวสเม้นท์ จำกัด ซึ่งมีที่ตั้งอยู่บนเกาะเดียวกัน 

สำนักข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงก่อตั้งบริษัท ทีวีบี ทรี เน็ตเวอร์ค จำกัด วันที่ 31 มกราคม 2539 - วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2545 มีผู้ถือหุ้นจำนวน 9 ราย (ไม่เปลี่ยนแปลง) คือ

1.นายประสาร มาลีนนท์ 1 หุ้น

2.นายประวิทย์ มาลีนนท์ 1 หุ้น

3.นายประชา มาลีนนท์ 1 หุ้น

4.นายประชุม มาลีนนท์ 1 หุ้น

5.นางสาวรัตนา มาลีนนท์ 1 หุ้น

6.นางสาวอัมพร มาลีนนท์ 1 หุ้น

7.นางรัชนี นิพัทธกุศล 1 หุ้น

8. บริษัท บีอีซี อินเตอร์เนชั่นแนล ดิสทริบิวชั่น จำกัด 599,993 หุ้น (บมจ.บีอีซีเวิลด์ ถือหุ้น 100%)

9.บริษัท ทีวีบี (โอเวอร์ซีส์) จำกัด สัญชาติเบอร์มิวด้า ตั้งอยู่ในอาคารธนาคารแห่งเบอร์มิวด้า ฟร้อนท์ สตีท แฮลมิลตัน ประเทศเบอร์มิวด้า จำนวน 400,000 หุ้น

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 23 เมษายน 2546 นายประสาร มาลีนนท์ และนางสาวอัมพร มาลีนนท์ กรรมการบริษัท ทีวีบี ทรี เน็ตเวอร์ค จำกัด (ทั้งสองคนเป็นกรรมการ บมจ.บีอีซี เวิลด์) ได้ทำหนังสือถึงนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรุงเทพมหานคร (สำนักบริการจดทะเบียนธุรกิจ 1 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าประทับรับหนังสือวันที่ 24 เมษายน 2546) เพื่อส่งบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นฉบับใหม่ลงวันที่ 15 เมษายน 2546 โดยระบุว่า

“ด้วย มีการโอนหุ้นในบริษัทเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2546 พร้อมหนังสือฉบับนี้ ทางบริษัทจึงขอนำส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นฉบับข้างต้นมายังท่าน เพื่อเป็นหลักฐานต่อไป”

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท ทีวีบี ทรี เน็ตเวอร์ค จำกัด ฉบับวันที่ 15 เมษายน 2546 มีผู้ถือหุ้น จำนวน 8 ราย ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในรายที่ 9 บริษัท ทีวีบี อินเวสเม้นท์ จำกัด สัญชาติ เบอร์มิวด้า เข้ามาถือแทน บริษัท ทีวีบี (โอเวอร์ซีส์) จำกัด จำนวน 400,000 หุ้น

ทั้งนี้ สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นฉบับดังกล่าวระบุที่ตั้ง บริษัท ทีวีบี อินเวสเม้นท์ จำกัด ตั้งอยู่ในอาคาร เซด้าร์เฮ้าส์ 41 เซดาร์ อเสนิว แฮลมินตัน เอชเอ็ม 12 ประเทศเบอร์มิวด้า ซึ่ง“แตกต่าง”จากที่ตั้งบริษัท ทีวีบี (โอเวอร์ซีส์) จำกัด ตามที่ระบุก่อนหน้านี้

บริษัท ทีวีบี อินเวสเม้นท์ จำกัด ถือหุ้นเรื่อยมากระทั่งปัจจุบัน

 

อ่านประกอบ

1.ขุมทรัพย์“ช่อง 3”รับเม็ดเงินโฆษณาหน่วยงานรัฐ 309 ล้าน http://www.isranews.org/investigate/item/18620-ขุมทรัพย์ช่อง-3.html

2.พบ หุ้นส่วนใกล้ชิด“ประชา มาลีนนนท์”-บิ๊กกลุ่มบีอีซีฯ โผล่ร่วมธุรกิจอสังหาฯเชียงใหม่ บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ โยงอดีตรมต.ยุคแม้ว

 http://www.isranews.org/investigate/item/18631-คนใกล้ชิดบิ๊กช่อง-3.html

3.“ช่อง 3 -มาลีนนท์”ร่วมหุ้นบริษัทปริศนา!บนเกาะสวรรค์“เบอร์มิวด้า”http://www.isranews.org/investigate/item/18649-เบอร์มิวด้า.html

4.เปิดเอกสาร“บิ๊กช่อง 3”-พวก”ร่วมหุ้น“นายทักษิณ ชินวัตร”http://www.isranews.org/investigate/item/18669-pracha-thaksin.html

5.ไม่พบเงินลงทุนเกาะสวรรค์“เบอร์มิวด้า” ในบัญชีทรัพย์สิน“ประชา มาลีนนท์”http://www.isranews.org/investigate.html?start=10

6.แพตตรีเซียแมรี่”หลังบ้าน“ประชา มาลีนนท์”โยงถุงเงินโฆษณา BEC?

http://www.isranews.org/investigate/item/18709-แพตตรีเซียแมรี่.html

7.บ.ยักษ์น้ำมัน“เบอร์มิวด้า”โผล่ร่วมหุ้นคนใกล้ชิด“ประชา มาลีนนท์”

http://www.isranews.org/investigate/item/18739-ยักษ์น้ำมัน.html

8.4 นักการเมืองดังพัวพันบริษัทบนเกาะ“บริติชเวอร์จินส์-แชนแนล-เบอร์มิวด้า

http://www.isranews.org/investigate/item/18752-การเลือกตั้ง.html

9.ปริศนา!ลูกสาววัย 25 ปีบิ๊กช่อง 3 ยื่นลาออกจากบริษัทประชา มาลีนนท์

http://www.isranews.org/investigate/item/18813-ปริศนา.html


“ช่อง 3 -มาลีนนท์”ร่วมหุ้นบริษัทปริศนา!บนเกาะสวรรค์“เบอร์มิวด้า”

จากสำนักข่าวอิสรา

เจาะกลุ่มบีอีซีเวิลด์พบคนตระกูลมาลีนนท์ร่วมถือหุ้นธุรกิจผลิตรายการ ทีวีกับบริษัทจัดตั้งบนเกาะสวรรค์เบอร์มิวด้า บิ๊กช่อง 3 ถือหุ้นครบ 

    

    บริษัทในเครือบีอีซีเวิลด์กว่า 50 บริษัท ผู้ดำเนินการสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 นอกจากคนในตระกูลมาลีนนท์ถือหุ้นใหญ่เกือบทั้งหมด ในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 1 บริษัทที่“หุ้นส่วน”จดทะเบียนจัดตั้งบนเกาะเบอร์มิวด้า 

    สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า บริษัท ทีวีบี ทรี เน็ตเวอร์ค จำกัด ซึ่งจัดตั้งโดยนายประชา มาลีนนท์ ด้วยทุน 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2539 บริษัท บีอีซี อินเตอร์เนชั่นแนล ดิสทริบิวชั่น จำกัด ถือหุ้นใหญ่ ยังมีบริษัท ทีวีบี (โอเวอร์ซีส์) จำกัด ร่วมถือหุ้น 40%

    ทั้งนี้ สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท ทีวีบี ทรี เน็ตเวอร์ค จำกัด ระบุที่อยู่ของบริษัท ทีวีบี (โอเวอร์ซีส์) จำกัด ตั้งอยู่ในอาคารธนาคารแห่งเบอร์มิวด้า ฟร้อนท์ สตีท แฮลมิลตัน ประเทศเบอร์มิวด้า

    อย่างไรก็ตามในช่วงปีต่อมาแจ้งว่าตั้งอยู่ในอาคาร เซด้าร์เฮ้าส์ 41 เซดาร์ อเสนิว แฮลมินตัน เอชเอ็ม 12 ประเทศเบอร์มิวด้า

    ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 มกราคม 2539 มีจำนวน 9 ราย

    1.นายประสาร มาลีนนท์ 1 หุ้น

    2.นายประวิทย์ มาลีนนท์ 1 หุ้น

    3.นายประชา มาลีนนท์ 1 หุ้น

    4.นายประชุม มาลีนนท์ 1 หุ้น

    5.นางสาวรัตนา มาลีนนท์ 1 หุ้น

    6.นางสาวอัมพรมาลีนนท์ 1 หุ้น

    7.นางรัชนี นิพัทธกุศล 1 หุ้น

    8. บริษัท บีอีซี อินเตอร์เนชั่นแนล ดิสทริบิวชั่น จำกัด 599,993 หุ้น (60%)

    9.บริษัท ทีวีบี (โอเวอร์ซีส์) จำกัด 400,000 หุ้น (40%)

    บริษัท บีอีซี อินเตอร์เนชั่นแนล ดิสทริบิวชั่น จำกัด เป็นบริษัทลูกของบีอีซีเวิลด์ จดทะเบียนวันที่ 11 กันยายน 2538 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 100% นายประสาร มาลีนนท์ นายประวิทย์ มาลีนนท์ นายประชุม มาลีนนท์ นางสาวรัตนา มาลีนนท์ นางสาวอัมพร มาลีนนท์ เป็นกรรมการ 

    บริษัท ทีวีบี ทรี เน็ตเวอร์ค จำกัด ยื่นจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2539 ทุน 10 ล้านบาท ที่ตั้งเดิมเลขที่ 1126/2 อาคารวานิช ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ปัจจุบันเลขที่ 3199 อาคารมาลีนนท์ ทาวเวอร์ ชั้น 9 ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ในช่วงแรกนายประชา มาลีนนท์ เป็นกรรมการ

    ต่อมาวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 นายประชา มาลีนนท์ ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการ (ก่อนรับตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกรรมการหลายครั้ง

    ปัจจุบันนายประสาร มาลีนนท์ น.ส. อัมพร มาลีนนท์ น.ส. แคทลีน มาลีนนท์ นายลี โป ออน สัญชาติอังกฤษ และนายใน แปง ลึง เป็นกรรมการ

    ข้อมูลจาก th.wikipedia.org/wiki และ http://guru.thaibizcenter.com/ระบุว่า เบอร์มิวดา เป็นดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ ในมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาห่างจากรัฐนอร์ทแคโรไลนาไปทาง ตะวันออก 580 ไมล์ และเป็นศูนย์กลางทางการเงินเนื่องจากจัดเก็บภาษีบุคคลและนิติบุคคลอยู่ใน ระดับต่ำ คือแทบจะเป็นศูนย์

     จึงกลายเป็นแหล่งลงทุนในภาคการเงินและประกันภัยของบริษัทต่างชาติอย่างคับคั่งแม้ว่าจะมีตัวตนจริงหรือไม่ก็ตาม

    สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า นอกจากร่วมหุ้นกับบริษัทบนเกาะเบอร์มิวด้า คนใกล้ชิดกลุ่มมาลีนนท์ร่วมหุ้นกับบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศปานามาด้วย


ไม่พบเงินลงทุนเกาะสวรรค์“เบอร์มิวด้า” ในบัญชีทรัพย์สิน“ประชา มาลีนนท์”

จากสำนักข่าวอิสรา

เปิดบัญชีทรัพย์สิน“ประชา มาลีนนท์-เมีย”แจ้งป.ป.ช. มีเงินลงทุน 21 แห่ง 148.6 ล้าน ไร้เงาบริษัทจัดตั้งบนเกาะสวรรค์เบอร์มิวด้า 

 

      กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า บริษัท ทีวีบี ทรี เน็ตเวอร์ค จำกัด ในเครือบีอีซีเวิลด์ (เจ้าของช่อง 3 )ซึ่งจัดตั้งโดย นายประชา มาลีนนท์ ด้วยทุน 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 มกราค 2539 เป็นการร่วมหุ้นระหว่างบริษัท บีอีซี อินเตอร์เนชั่นแนล ดิสทริบิวชั่น จำกัด สัญชาติไทย ถือหุ้น 60% และบริษัท ทีวีบี(โอเวอร์ซีส์) จำกัด ถือหุ้น 40% ซึ่งบริษัท ทีวีบี(โอเวอร์ซีส์) จำกัด แจ้งที่อยู่ เซด้าร์เฮ้าส์ 41 เซดาร์ อเวนิว แฮลมินตัน เอชเอ็ม 12 ประเทศเบอร์มิวด้า 

 

      ผู้สื่อข่าวตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายประชา มาลีนนท์ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์วันที่ 14 มีนาคม 2548 (คณะรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร 2) พบว่านายประชาแจ้งมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 413,374,099.77 บาท หนี้สินรวม 29,291,542.31 บาท และมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 384,082,57.46 บาท

      ในจำนวนนี้เป็น “เงินลงทุน”ประเภทหลักทรัพย์และเงินลงทุนอื่น 21 แห่ง รวมทั้งสิ้น 148,682,070.00 บาท แต่ไม่พบเงินลงทุนบริษัท ทีวีบี(โอเวอร์ซีส์) จำกัด ในรายการทรัพย์สินของนายประชาและนางแพตตรีเซียแมรี่ ภรรยา แต่อย่างใด (ดูตาราง)

 

      และจากการตรวจสอบบัญชีรายการทรัพย์สินนายประชา กรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วันที่ 3 สิงหาคม 2548 ระบุมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 413,398,850.09 บาท หนี้สินรวม 27,468,660.90 บาท และมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 385,930,189.19 บาท ขณะที่เงินลงทุนประเภทหลักทรัพย์และเงินลงทุนอื่นทั้ง 21 แห่ง เท่าเดิม คือ 148,682,070.00 บาท

      ล่าสุดเมื่อพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่า การกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาครบ 1 ปี วันที่ 19 กันยายน 2550 ระบุมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 623,983,743.77 บาท หนี้สินรวม 3,722,094.55 บาท และมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 620,261,649.22 บาท ส่วนเงินลงทุนประเภทหลักทรัพย์และเงินลงทุนอื่นทั้ง 21 แห่ง ยังเท่าเดิม คือ 148,682,070 บาท และไม่พบเงินลงทุน บริษัท ทีวีบี(โอเวอร์ซีส์) จำกัด อีกเช่นกัน 

      อย่าง ไรก็ตาม น่าสังเกตว่า นายประชา มาลีนนท์ เป็นผู้ก่อการจัดตั้งบริษัท ทีวีบี ทรี เน็ตเวอร์ค จำกัด เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2539 และ บริษัท ทีวีบี(โอเวอร์ซีส์) จำกัด ร่วมถือหุ้นในวันดังกล่าวทันที และ นายประชา ได้เป็นประธานที่ประชุมในการจดทะเบียนก่อตั้งและเป็นคนลงลายมาชื่อรับรองการ จดทะเบียนจัดตั้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วย


กลุ่มทุน“อังกฤษ”โอนหุ้น“ไบรอัน มาร์การ์”ผ่องถ่ายให้“มาลีนนท์”

จากสำนักข่าวอิสรา

แกะรอยเครือข่ายทุนนอก“เดอร์มาซาลว์”จากอังกฤษโอนหุ้น“ไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์”บิ๊ก BEC ก่อนโอนต่อให้ 2 มาลีนนท์ 

กลุ่ม ทุนจากประเทศอังกฤษได้เข้ามาร่วมลงทุนกับ นายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์ ผู้บริหารในเครือบีอีซีเวิลด์หลังจากนั้นได้โอนหุ้นให้กลุ่มมาลีนนท์ 

บริษัท เดอร์มาซาลว์ ไซน์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด จดทะเบียนวันที่ 13 มิถุนายน 2550 ทุน 10 ล้านบาท ประกอบธุรกิจขายปลีกสินค้าทางเภสัชกรรมและเวชภัณฑ์ ที่ตั้งเลขที่ 3199 อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ ชั้น 21 ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

ในช่วงก่อตั้งมีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ราย ได้แก่

1.นายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์ 30,600 หุ้น

2.นายทศพล มาลีนนท์ 20,394 หุ้น

3.บริษัท เดอร์มาซาลว์ จำกัด สัญชาติอังกฤษ เลขที่ 4 อาคารลอมบาร์ดเฮ้าส์ ถนนลอมบาร์ด เมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ จำนวน 49,000 หุ้น

30 เม.ย.2552 นายทศพล มาลีนนท์ ได้โอนหุ้นให้ นายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์

14 ก.ย.2552 บริษัท เดอร์มาซาลว์ จำกัด ได้โอนหุ้นให้ นายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์ หลังจากนั้นวันที่

17 ธันวาคม 2552 นายทศพล มาลีนนท์ ได้กลับมาถือหุ้นอีกครั้ง จำนวน 20,000 หุ้น นายวรวรรธน์ มาลีนนท์ จำนวน 20,000 หุ้น (ดูตาราง)

ปัจจุบันนายทศพล มาลีนนท์ และ นายวรวรรธน์ มาลีนนท์ มีตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด

บริษัท เดอร์มาซาลว์ ไซน์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด แจ้งผลประกอบการปี 2554 มีรายได้เพียง 1 ล้านบาทเศษ ขาดทุนสุทธิกว่า 2 ล้านบาท ขาดทุนสะสม 26.9 ล้านบาท และเลิกกิจการในปี 2555
ปัจจุบัน นายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์ เป็นกรรมการ 9 แห่ง ได้แก่

บริษัท บีอีซี - เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทริปเปิล เอ็ม เทโร จำกัด บริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด บริษัท บีอีซี-เทโร ซีเนริโอ จำกัด บริษัท บีอีซี-เทโร เรดิโอ จำกัด บริษัท บีอีซี-เทโร ศาสน จำกัด บริษัท บีอีซี-เทโร แอ๊พพ์ จำกัด บริษัท มินามิ นูทริชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ไอเอ็มจี บีอีซี-เทโร สปอร์ตส แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด

และ ถือหุ้นบริษัท บีอีซี - เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) 72,500,000 หุ้น (36.25%) มูลค่า 72.5 ล้านบาท (มูลค่าตามทุนจดทะเบียน)


4 นักการเมืองดังพัวพันบริษัทบนเกาะ“บริติชเวอร์จินส์-แชนแนล-เบอร์มิวด้า”‏

จากสำนักข่าวอิสรา

ย้อนรอยเครือข่ายนักการเมืองดังร่วมหุ้นบริษัทบนเกาะสรรค์ เคย์แมน-บริติชเวอร์จินส์-แชนแนล-เบอร์มิวด้า จาก ทักษิณ ชินวัตร-วัฒนา-สุริยา- ชูวิทย์-ประชา มาลีนนท์

      

        กลุ่ม นายประชา มาลีนนท์ มิใช่เป็นนักธุรกิจการเมืองกลุ่มแรกที่เกี่ยวพันกับบริษัทที่จัดตั้งบนเกาะ สวรรค์ ประเทศเบอร์มิวด้า หากแต่ย้อนในอดีตจะพบว่ามีนักการเมืองอย่างน้อย 3 รายทำธุรกิจร่วมกับหุ้นส่วนที่จดทะเบียนจัดตั้งอยู่ในเกาะสวรรค์ ไม่ว่า เกาะเคย์แมน หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน แชนแนล และเบอร์มิวด้า คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระพาณิชย์ และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรครักประเทศไทย

        1. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บริษัท วินมาร์คลิมิเต็ด ซึ่งที่อยู่เพียงตู้ไปรษณีย์ พี.โอ.3151 โรดทาวน์ ทอร์โตรา ตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน เข้ามาเกี่ยวพันกับการโอนหุ้นเครือชินคอร์ปของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวเมื่อหลายปีก่อน ได้แก่ บริษัท โอเอไอ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จำนวน 33 ล้านหุ้น บริษัท พี.ที.คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 19.9 ล้านหุ้น และ บริษัท เอส.ซี.เค.เอสเตท จำกัด จำนวน 3.5 ล้านหุ้น
เป็นเรื่องฮือฮาอย่างมาก ต่อมาได้พิสูจน์ว่าบริษัทดังกล่าวเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณเองตั้งขึ้นเพื่อเลี่ยงภาษี

        2.นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน เกิดขึ้นจากนายสุริยาขณะยังเป็นเจ้าของบริษัทปิคนิคได้ซื้อกิจการน้ำมันเอ็ม พีของนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในวงเงิน 100 ล้านบาท
จากตรวจสอบพบว่า การทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นการโอนหุ้นจากคนใกล้ชิดนายวัฒนาผ่านบริษัท วิคแฟร์ จำกัดซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งเป็นตู้ไปรษณีย์ 957 โรดทาวน์ ทอร์โตรา บริติชเวอร์จินส์ สัญชาติไอซ์แลนด์ ไปให้บริษัท ปิคนิคแก๊ส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2547

       น่า สังเกตว่าการโอนหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ จำนวน 3 บริษัทดังกล่าวไปให้บริษัท วินมาร์ค ลิมิเต็ด เมื่อเทียบเคียงกับบริษัท วิคแฟร์ จำกัดแล้วมีที่อยู่ใกล้เคียงกัน

       3.นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นั้น เกี่ยวข้องกับ บริษัท SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD นายชูวิทย์เป็นเจ้าของ บริษัท ภาติฌาน จำกัด (บริการซักผ้าเช็ดตัวให้สถานบริการอาบอบนวด) บริษัท เจริญจำเนียรกาล จำกัด และ บริษัท คงอยู่ตลอดกาล จำกัด ประกอบธุรกิจรับเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำปัญหาเกี่ยวกับด้านบริหารงาน

       วันที่ 30 พ.ย. 2547 บริษัท SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD ตามทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น ระบุที่ตั้ง เลขที่ Po Box 523,Lefebvre Court, Lefebvre Street,St.Peter Port,Guemsey GY 16 E,Channel Islands (ตู้ ป.ณ. 523 เฟเบอร์ คอร์ท ถนนาเฟเบอร์ เซนต์ปีเตอร์ พอร์ต เจิมเซย์ จีวาย 16 อี
ชาแนลไอส์แลนด์) เข้ามาถือหุ้นบริษัท ภาติฌาน จำกัด จำนวน 180,000 หุ้น มูลค่า 18 ล้านบาท บริษัท เจริญจำเนียรกาล จำกัด 60,000 หุ้น มูลค่า 6 ล้านบาท และ วันที่ 27 ธ.ค.2547 ได้ถือหุ้นบริษัท คงอยู่ตลอดกาล จำกัด 80,000 หุ้น มูลค่า 8 ล้านบาท รวม 3 บริษัท 320,000 หุ้น มูลค่า 32 ล้านบาท

      หลังจากนั้น SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD ถอนหุ้นออกไปเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2551 ซึ่งนายชูวิทย์อ้างว่าเจ้าของมิสเตอร์วูลฟ์ เป็นคนเยอรมัน แต่ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก

       นอกจากนักการเมืองดังกล่าว กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ปตท. ก็เกี่ยวพันกับบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งบนเกาะเคย์แมนคือ พีทีทีอีพี ออฟชอร์ อินเวสเมนต์ จำกัด เลขที่ พี.โอ.บ็อกซ์ 501 ชั้น 2 อาคารธนาคารโนวาสโกเทีย จอร์จทาวน์ แกรนด์ เคย์แมน และกลุ่มบริษัท เท็กซาโก้ ไทยแลนด์ เอนเนอจี้ คัมปะนี วัน สัญชาติ บริติช เวส อินดี้ส์ เลขที่ พี.โอ.บ็อกซ์ 309 จอร์จ ทาวน์ แกรนด์เคย์แมน เคย์แมน ไอส์แลนด์ส เป็นต้น

       ทั้งนี้ประเทศบนเกาะเล็กๆดังกล่าวมีกิตติศัพท์ในเรื่องการบริหารภาษีแม้ว่าจะมีตัวตนหรือไม่ก็ตาม


บ.ยักษ์น้ำมัน“เบอร์มิวด้า”โผล่ร่วมหุ้นคนใกล้ชิด“ประชา มาลีนนท์”

จากสำนักข่าวอิสรา

แกะรอยพบยักษ์น้ำมันโผล่ร่วมหุ้นคนใกล้ชิด“ประชา มาลีนนท์”โยกหุ้นจากประเทศปานามาไป“เบอร์มิวด้า”ฟันรายได้อื้อ

 

     บริษัท ทีวีบี (โอเวอร์ซีส์) จำกัด มิใช่เป็นบริษัทที่จดทะเบียนบนเกาะเบอร์มิวด้ารายเดียวที่ทำธุรกิจร่วมกับ กลุ่มมาลีนนท์ หากแต่ยักษ์ค้าน้ำมันสหรัฐได้ถือหุ้นร่วมกับคนใกล้ชิดนายประชา มาลีนนท์ ด้วยเช่นกัน 

     สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า บริษัท สตาร์โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งมีนายสุนทร โภคาชัยพัฒน์ ทนายความและคนใกล้ชิดนายประชา มาลีนนท์ เป็นผู้ถือหุ้นและเป็นกรรมการ มีบริษัท เชฟรอน เอเชีย แปซิฟิค โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด ร่วมถือหุ้นด้วย

     บริษัท สตาร์โฮลดิ้งส์ จำกัด (เดิมชื่อบริษัท เปโตรฟิวเอ็ล จำกัด) จดทะเบียนวันที่ 19 กรกฎาคม 2525 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ การให้เช่า การขาย การซื้อและการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 1404 ถนนจักรวรรดิ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 

     ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 25 เมษายน 2555 จำนวน 4 ราย

     1.บริษัท เชฟรอน เอเชีย แปซิฟิค โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด สัญชาติปานามา ที่ตั้งเชฟรอนเฮ้าส์ 11 เชิชสตรีท แฮมิลตัน ,เอชเอ็ม 11 เบอร์มิวด้า จำนวน 4,900 หุ้น (49%)

     2.บริษัท ตองสาม จำกัด 1,800 หุ้น (18%) 

     3.นายจักรพันธ์ กระจายวงศ์ 2,200 หุ้น (22%)

     4.นายสุนทร โภคาชัยพัฒน์ 1,100 หุ้น (11%)

     รวม 10,000 หุ้น มูลค่า หุ้นละ 100 บาท

     นายเอเดรียน อัลแบโต้ เบนเด็ก เบนเด็ก นายดนัย นานาสมบัติ (กรรมการบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด) นางสุธาดา เปลี่ยนรังษี นายสุนทร โภคาชัยพัฒน์ และนายไชยวัฒน์ บุนนาค เป็นกรรมการ ผลประกอบการ ปี 2554 รายได้ 267,455,040 บาท กำไรสุทธิ 171,783,524 บาท สินทรัพย์ 894,423,085 บาท หนี้สิน 890,712,336 บาท (ดูตาราง 1)

     จาก การตรวจสอบพบว่า บริษัท เชฟรอน เอเชีย แปซิฟิค โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด 4,900 หุ้น ได้รับการโอนมาจาก บริษัท คาลเท็กซ์ เทรดดิ้ง แอนด์ ทรานสปอร์ต คอร์ปอเรชั่น เอเรียส ฟาบริกา แอนด์ ฟาลริกา ,เวียเอสบาญ่า อปักตาโต 6307 ปานามา 5 ประเทศสาธารณรัฐปานามา (สัญชาติ ปานามา) เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2550

     ขณะที่ บริษัท ตองสาม จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ไอแอลซีทีแมเนจเม้นท์ จำกัด) จดทะเบียนปี 2524 ทุน 5 ล้านบาท บริการให้คำปรึกษา แนะนำทางด้านการจัดการ การบริหารงานในการประกอบพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม ที่ตั้งเลขที่ 175 อาคารสาธรซิตี้ทาวเวอร์ ชั้น 18 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 30 เมษายน 2555 นายสุธรรม วลัยเสถียร (เคยได้รับแต่งตั้ง เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ชิลี มติครม. 25 กันยายน 2544) นายสุรพันธ์ ทิมกระจ่าง นายไชยวัฒน์ บุนนาค นายประดิษฐ์ สหชัยยันต์ และ นายสุพจน์ บุญญวนิช ร่วมถือหุ้น 

     ทั้ง นี้ นายสุนทร โภคาชัยพัฒน์ เป็นกรรมการและถือหุ้นกลุ่มบริษัทชัยพัฒน์กรุ๊ป (บริษัทส่วนตัวนายประชา) กรรมการ บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด และ บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) นับสิบแห่งซึ่งมีนายประชา มาลีนนท์ และกลุ่มบีอีซีเวิลด์เป็นเจ้าของ (ดูตาราง 2)


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : บริษัทลับ บนเกาะสวรรค์ กลุ่มทุนมาลีนนท์

view