เปิดถุงเงิน Voice TV คู่สัญญา“ปตท.-กฟผ.” โปะขาดทุน 405 ล้าน

จากสำนักข่าวอิสรา

แกะรอยถุงเงิน Voice TV พบรับอัดฉีดโฆษณาจาก ปตท. – กฟผ. 9.3 ล้าน พบยอดขาดทุนสะสมกว่า 400 ล้าน 

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็น 2 รัฐวิสาหกิจที่โฆษณาผ่าน บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัดของครอบครัวชินวัตร 

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า รัฐวิสาหกิจใหญ่อย่างน้อย 2 แห่งทำสัญญาว่าจ้างบริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด ในการทำประชาสัมพันธ์กกิจกรรมองค์กรในช่วงปี 2555 ได้แก่

วัน ที่ 16 ก.พ. 2555 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด โฆษณาประชาสัมพันธ์ ปตท.ทางโทรทัศน์ผ่านสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม Voice TV วงเงิน 6 ล้านบาท

วัน ที่ 30 มี.ค. 2555 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จ้างเผยแพร่สปอตโฆษณา กฟผ. ความยาว 30 วินาที จำนวน60นาที/เดือน รวม 120 ครั้ง/เดือน ออกอากาซช่อง VOICE TV 3,330,000 บาท

ก่อน หน้านี้ 3 มิ.ย. 2554 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จ้างประชาสัมพันธ์สื่อทางโทรทัศน์การเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อเดือนกรกฎาคม 2549 จำนวน 2 ล้านบาท

ข้อมูล จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท ฮาวคัมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ) จดทะเบียนวันที่ 9 ตุลาคม 2546 ทุนปัจจุบัน 810 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 414 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 25 พฤษภาคม 2555 นาย บรรณพจน์ ดามาพงศ์ 45,000,000 หุ้น (55.55%) บริษัท พี.ที.คอร์ปอเรชั่น จำกัด 29,400,000 หุ้น (36.29%) นายพานทองแท้ ชินวัตร 5,543,995 หุ้น (6.84%) นางสาวพินทองทา ชินวัตร 1,056,000 หุ้น (1.30%) นาย พานทองแท้ ชินวัตร นางสาวพินทองทา ชินวัตร นายเฉลิม แผลงศร และ นายทรงศักดิ์ เปรมสุข เป็นกรรมการ

ปี 2554 รายได้ 72,309,338 บาท ขาดทุนสุทธิ 111,910,901 บาท สินทรัพย์ 293,830,546 บาท หนี้สิน 38,959,858 บาท ขาดทุนสะสม 405,129,311 บาท

ทั้งนี้ บริษัท พี.ที.คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีนางสาวพินทองทา ชินวัตร ถือหุ้นใหญ่ 92.43% จากทุน 3,700 ล้านบาท

คอนเนกชั่นธุรกิจ ศิธา ทิวารี - โอ๊ค พานทองแท้

จากสำนักข่าวอิสรา

แกะรอยเครือข่ายคอนเนกชั่น ศิธา ทิวารี - โอ๊ค พานทองแท้ จากขายโทรศัพท์หรู สู่โยงคดีปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย ก่อนนั่งบอร์ด ทอท. เครือญาติพันกลุ่มภิรมย์ภักดี

นาวา อากาศตรีศิธา ทิวารี กรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. คนใหม่ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากที่ประชุม กรรมการ ทอท. เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างน้อย 1 แห่ง  

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า นาวาอากาศตรีศิธาร่วมหุ้นนายพานทองแท้ ชินวัตร และพวกทำธุรกิจนำเข้าโทรศัพท์มือถือหรู ในชื่อ บริษัท มาสเตอร์ โฟน จำกัด จดทะเบียนวันที่ 9 ธันวาคม 2546 ทุน 5 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 414 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร นายไอยคุปต์ กฤตบุญญาลัย (บุตรชายนางดารุณี กฤตบุญญาลัย กลุ่ม นปช.) 199,999 หุ้น (39.99%) นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี 100,000 หุ้น (20%) นางสาวสิรอักษร กฤษดาธานนท์ ทายาทในเครือกฤษฎามหานคร 100,000 หุ้น (20%) นายพานทองแท้ ชินวัตร 99,999 หุ้น (19.99%)

อย่าง ไรก็ตามธุรกิจดังกล่าวมีรายได้สูงสุดในปี 2550 จำนวน 25,489,251 บาท แต่ขาดทุนสุทธิ 3,115,515 บาท ปี 2549 จำนวน 20,692,622 บาท แต่ขาดทุนสุทธิ 3,493,613 บาท หลังจากนั้นตัวเลขลดลง และจดทะเบียนเลิกกิจการเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2554

ปัจจุบัน นาวาอากาศตรีศิธา เป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัท เรือเร็ว ลมพระยา จำกัด ประกอบกิจการรับขนส่งคนโดยสาร ประกอบกิจการบริการท่องเที่ยว ขายอาหาร เครื่องดื่ม จดทะเบียนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2542 ทุน 100 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 26/61 หมู่ที่ 4 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ณ วันที่ 30 เมษายน 2555 นายเมธี จันทรัมพร 24,500 หุ้น (24.50%) นายจักรพันธ์ ยศะสินธุ 16,125 หุ้น(16.12%) นายมานพ ทิวารี 15,000 หุ้น (15%) นายวรวีร์ นาคฉัตรีย์ (บุตรชายนายปริญญา นาคฉัตรีย์ อดีตกกต.) 15% นางสาวพจนารถ กันติวงศ์ นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี คนละ 10,000 หุ้น (10%) นายนวิษฐ ยศะสินธุ 5,250 หุ้น (5.25%) น.ส.ตริษา ยศะสินธุ 3,625 หุ้น (3.62%) นางสาว จวงจันทน์ จันทรัมพร 500% (0.50%) นายมานพ ทิวารี (พ่อนาวาอากาศตรีศิธา) นายจักรพันธ์ ยศะสินธุ นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี นายนวิษฐ ยศะสินธุ นายเมธี จันทรัมพร นางสาวตริษา ยศะสินธุ นางสาวพจนารถ กันติวงศ์ และนายจอห์น วิลเลี่ยม จิเลส เป็นกรรมการ

ผล ประกอบการปี 2552 รายได้ 258,342,929 บาท กำไรสุทธิ 528,263 บาท 2553 รายได้ 316,725,797 บาท กำไรสุทธิ 2,046,326 บาท ปี 2554 รายได้ 400,147,468 บาท กำไรสุทธิ 13,134,244 บาท สินทรัพย์ 289,677,367 บาท หนี้สิน 258,213,453 บาท ขาดทุนสะสม 68,536,086 บาท

จาก การตรวจสอบพบว่า นายเมธี จันทรัมพร เป็นเจ้าของโรงแรมและสอนดำน้ำหลายแห่งในเกาะเต่า อาทิ บริษัท เกาะเต่า ฮิลไซด์ รีสอร์ท จำกัด บริษัท เกาะเต่า บีช คลับ จำกัด บริษัท เกาะนางยวน อิสซี ไดเวอร์ แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด บริษัท เกาะเต่า อิสซี ไดเวอร์ จำกัด เป็นต้น

ขณะที่นาย มานพ ทิวารี เป็นกรรมการ (ทนายความ) กลุ่มบริษัทบุญรอดของตระกูลภิรมย์ภักดี อาทิ บริษัท บี.บี.อินดัสเตรียล พาร์ค จำกัด บี.บี.กรูพ จำกัด บริษัท พี.บี.แอด. จำกัด เป็นต้น

นาย มานพ ทิวารี และนายพานทองแท้ เคยตกเป็นข่าวพัวพันกับกรณีการปล่อยเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย ให้บริษัทในเครือกฤษฎามหานคร ในยุคที่มีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาย แก่รัฐ (คตส.) ด้วยซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีกระแสเงินโอนเข้าบัญชีเงินฝากจำนวนหนึ่งต่อมาอัยการ ได้สั่งไม่ฟ้อง

นาย เมธี จันทรัมพร และ นายมานพ ทิวารี ทำธุรกิจร่วมกันหลายแห่ง อาทิ บริษัท แอลพี.มารีน จำกัด ประกอบกิจอู่ต่อเรือ ซ่อมเรือ ท่าเทียบเรือ บริษัท ลมพระยาทัวร์ จำกัด เป็นต้น

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน