สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ย้ำจุดเสี่ยง สัญญาเปล่า-สัญญาทาส หนี้นอกระบบ

จากประชาชาติธุรกิจ

ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯก.ยุติธรรม เผยประสบการณ์ช่วยผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากปัญหาการกู้หนี้นอกระบบ ระบุมีสารพัดรูปแบบที่ลูกหนี้พึงระวัง โดยเฉพาะการเซ็นชื่อในสัญญาเปล่า เสี่ยงสูงถูกโกงเรียกหนี้เกินจริง บางรายนำเงินไปชำระคืนเจ้าหนี้ยังไม่ยอมรับบ่ายเบี่ยง ฟ้องร้องยึดหลักทรัพย์ค้ำประกันที่มูลค่ามากกว่าเกินกู้ เตือนหากถูกทวงหนี้ด้วยวิธีผิดกฎหมายต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ อย่าปล่อยไว้จนยากจะช่วยเหลือได้ตามกฎหมาย

 

ความเดือดร้อนขาดสภาพคล่องต้องการเงินใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหาเฉพาะ หน้าในชีวิตเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ต้องรู้จักการบริหารเงินที่กู้มาด้วยความระมัดระวัง  มิเช่นนั้นอาจอยู่ในสภาพเช่นเดียวกับหลายกรณีที่เกิดชึ้น เช่น กรณีชาวบ้านในจังหวัดสุโขทัยจำนวนหนึ่งได้รับความเดือดร้อนจากนายทุนเงินกู้ นอกระบบ โดยเมื่อปลายปี 2555 ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรม โดยศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม (ศนธ.) จัดคณะทำงานลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน ในจังหวัดสุโขทัย ในกรณีที่ได้รับความเดือดร้อน จากการกู้เงินนอกระบบ ซึ่งมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการกู้หนี้นอกระบบจำนวนมาก โดยเป็นลักษณะการปล่อยเงินทุนของเจ้าหนี้รายใหญ่ เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และมีพฤติการณ์ทวงหนี้โดยแก๊งหมวกกันน็อค

 

โดยการทำสัญญานั้น เจ้าหนี้จะให้ผู้กู้เซ็นชื่อลงในสัญญาเปล่า โดยเจ้าหนี้จะเป็นฝ่ายเก็บสัญญาไว้เอง เมื่อลูกหนี้นำเงินมาผ่อนชำระแล้วปรากฏว่าลูกหนี้ขาดการผ่อนชำระ ไม่สามารถผ่อนชำระต่อไป เจ้าหนี้จะล้มกระดานให้ลูกหนี้เริ่มทำการผ่อนชำระใหม่ สร้างความเดือดร้อนให้กับลูกหนี้ ซึ่งการผ่อนชำระนั้น ลูกหนี้จะไม่ได้รับเอกสารใดๆเป็นหลักฐานยืนยัน และหากลูกหนี้รายใดไม่สามารถชำระหนี้ได้ เจ้าหนี้จะนำสัญญาที่เซ็นไว้มากรอกตัวเลขที่เกินกว่าจำนวนหนี้จริง และเขียนวันที่ย้อนหลัง 1 ปี เพื่อให้เห็นว่ากู้มานานแล้ว ก่อนนำไปฟ้องศาล สร้างความเดือดร้อนให้ลูกหนี้เป็นอย่างมาก

เมื่อเจ้าหน้าที่ของศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ พื้นที่ จ.สุโขทัย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยในเบื้องต้นได้ทำการเจรจาประนีประนอมร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ปรากฏว่า มูลค่าหนี้ที่ทางเจ้าหนี้และลูกหนี้แจ้งนั้นส่วนใหญ่จะไม่ตรงกัน ซึ่งผลการเจรจาสามารถตกลงกันได้จำนวน 6 ราย, ยกหนี้ให้กันจำนวน 3 ราย บางรายยินดีที่จะไปตกลงกันเอง ขณะที่บางรายที่ไม่สามารถตกลงกันได้ก็อยู่ในขั้นของการพิจารณาของศาล ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทางทนายก็จะช่วยประสานทนายให้ความช่วยเหลือในการ ดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งกรณีอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการทางคดี

 

อีกกรณีศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ได้รับเรื่องร้องเรียนและเข้าให้ความช่วยเหลือ กรณีของนางสาลิกา และนายขำ คนฉลาด ชาวบ้าน จ.นครพนม เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็น ธรรม ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการกู้ยืมเงินนอกระบบจากเจ้าหนี้นอกระบบใน พื้นที่ จ.นครพนม เนื่องจากต้องการกู้ยืมเงินไปให้บุตรสาวเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงาน ต่างประเทศ โดยได้ทำสัญญาเงินกู้พร้อมจดจำนองที่ดินค้ำประกันจำนวน 2 ฉบับ จำนวน 580,000 บาท และ จำนวน 870,000 บาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน เมื่อลูกหนี้ติดต่อขอชำระหนี้ตามมูลหนี้ที่แท้จริง เจ้าหนี้กลับปฏิเสธ โดยอ้างว่า จะขอให้ชำระหนี้ตามจำนวนที่ระบุในสัญญา แต่เนื่องจากจำนวนเงินที่มากเกินกว่าความเป็นจริง อีกทั้งยังไม่มีเงินพอที่จะชำระหนี้ตามที่เจ้าหนี้เรียกร้อง เจ้าหนี้จึงได้ดำเนินคดีฟ้องเป็นคดีแพ่งต่อศาลจังหวัดนครพนม  จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเจ้าหน้าที่ศนธ.จึงรับเรื่องและมอบหมายให้ทาง คณะทำงานเข้าให้ความช่วยเหลือทางคดี

 

ทั้ง 2 กรณีคือตัวอย่างชัดเจนของความเสี่ยงของการกู้หนี้นอกระบบแล้วได้รับการ ปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จนเกิดคดีความแล้วจึงขอความช่วยเหลือต่อศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่มักเลยขั้นตอนที่จะสามารถให้การช่วยเหลืออย่างสะดวกไปแล้ว เช่น อยู่ในชั้นฟ้องร้องบังคับคดี แต่หากเมื่อรู้ตัวว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือ ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่สามารถรับเรื่อง/ให้คำปรึกษาแนะนำ เช่นตำรวจ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัด เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตามด้วยความเดือดร้อนจำเป็นคนที่ไม่มีหลักทรัพย์หรือเข้าไม่ถึง แหล่งเงินทุนในระบบของภาครัฐ เงินกู้นอกระบบก็ยังคงเป็นที่พึ่งที่เข้าถึงได้ แต่พึงระมัดระวังในการทำสัญญากู้ยืมให้มากๆ เพราะแม้หน่วยงานภาครัฐจะร่วมกันดำเนินการอย่างไรหากประชาชนไม่ระมัดระวัง ตัวเองก็ยากที่จะบรรเทาปัญหานี้ได้ โดยการดำเนินงานในส่วนของกระทรวง ยุติธรรมที่เป็นกระบวนการปลายทางของปัญหา พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมปัจจุบัน ย้ำนโยบายที่จะทำให้ผู้ได้รับความไม่เป็นธรรมได้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ที่รวดเร็วและเป็นธรรม และให้หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เพื่อคลี่คลายปัญหาวิกฤติหนี้นอกระบบอย่างเร่งด่วนและเป็นรูปธรรม

 

พ.ต.ท.กฤตธัช อ่วมสน ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรม (ศปธ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะทำงานศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม (ศนธ.ยธ.)  กล่าวว่า การเป็นหนี้นอกระบบนั้น เป็นวิถีชีวิตหนึ่งในสังคม เมื่อต้องการใช้เงินแต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นสถาบันการเงิน การกู้นอกระบบจึงเป็นหนทางเดียวสำหรับประชาชนที่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่ในทางกลับกัน การเป็นหนี้นอกระบบส่วนใหญ่กลับสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่กู้หนี้นอก ระบบเพิ่มมากขึ้น การลงทำงานในพื้นที่ของศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชน ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม นอกจากตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความรู้แก่ประชาชนในท้องที่แล้ว ทางศูนย์ฯจะประสานไปยังตำรวจเจ้าของพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินการในเรื่องของแก๊งหมวกกันน็อค หนี้นอกระบบอื่นๆด้วย รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยให้กับชาวบ้านและคณะทำงาน

 

พ.ต.ท.กฤตธัช กล่าวอีกว่า การจัดการกับแก๊งหมวกกันน็อคให้หมดไปนั้น อำนาจหน้าที่การจัดการและสอบสวนเป็นของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เกิดเหตุ เมื่อชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ต้องเข้าพบกับพนักงานสอบสวนในพื้นที่เกิดเหตุหรือหัวหน้าสถานีเพื่อให้การ ไกล่เกลี่ย ซึ่งถ้าหากทางอำเภอและตำรวจในท้องที่ให้ความร่วมมือ ก็จะสามารถลดปัญหาหนี้นอกระบบได้เยอะ เพราะในความเป็นจริง เมื่อเป็นหนี้ก็ต้องใช้หนี้ แต่ก็ต้องเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งการคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

 

อย่างไรก็ตามก็อยากเตือนผู้ที่คิดจะไปกู้นอกระบบ ว่าเมื่อไปกู้เงินนอกระบบ โดยที่ไม่ได้ทำสัญญาเงินกู้ หรือการเซ็นชื่อในกระดาษเปล่า ก็เปรียบเสมือนเราตกเป็นทาสเจ้าหนี้ เพราะเป็นที่รู้กันว่าหนี้นอกระบบนั้นเก็บดอกเบี้ยโหด บางรายต้องผ่อนให้ทุกวัน ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เมื่อไม่สามารถผ่อนส่งได้ก็โดนขู่ทำร้ายร่างกาย ยึดทรัพย์ และถูกฟ้องร้องขึ้นศาล  หรือบางรายไปเซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความในศาล ซึ่งจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก ซึ่งก็ขอให้ประชาชนที่กู้หนี้นอกระบบระมัดระวัง

 

กรณีหนี้นอกระบบใน จ.สุโขทัย, จ.นครพนม และในอีกหลายพื้นที่ เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นแล้วว่า การเป็นหนี้นอกระบบนั้น ส่วนใหญ่มักจะเกิดความเดือดร้อนตามมาภายหลัง ดังนั้นประชาชนจึงควรระมัดระวังในการกู้ยืมเงิน ไม่เซ็นชื่อในกระดาษเปล่า และต้องมีเอกสารยืนยันทุกครั้งที่ผ่อนชำระ เพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบจากเจ้าหนี้

 

สำหรับประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถติดต่อ ศนธ.ยธ.ได้ที่ ชั้น 4 อาคารศูนย์ฝึกอบรม บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 โทร.02-575-3344 หรือ อีเมล์ ladvi@moj.go.th. หรือ facebook ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ย้ำจุดเสี่ยง สัญญาเปล่า สัญญาทาส หนี้นอกระบบ

view