สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เหลิม มั่นใจ คุณชาย โดนแน่ไม่เหลืองก็แดง ขู่ กกต.ถ้ารับรองก็เก่งมาก

เหลิม” มั่นใจ “คุณชาย” โดนแน่ไม่เหลืองก็แดง ขู่ กกต.ถ้ารับรองก็เก่งมาก

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

รองนายกฯ ไม่แสดงความเห็นพีซีซีขอดีเอสไอถอนอายัดเงิน แนะดูให้รอบคอบ เผยเพื่อไทยสบายใจได้เสียงคนกรุงเพิ่มเป็นล้าน เย้ยประชาธิปัตย์ตื่นเต้น โอ่มั่นใจ กกต.แจกไม่เหลืองก็แดง “สุขุมพันธุ์” ท้าถ้ากล้าก็ยกคำร้อง ถ้ารับรองก็เก่งมาก ชี้ด่าเผด็จการไม่ใส่ร้ายหรือ บอกจะเอาไม้เรียวเฆี่ยน “พงศพัศ” เหตุศึกยังไม่จบ

      วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.45 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพิกถอนการอายัดเงิน 450 ล้านบาท ว่าตนคงให้ความเห็นไม่ได้ ดีเอสไอต้องพิจารณาให้รอบคอบ ส่วนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปราการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะพิจารณาว่าจะรับเรื่องนี้หรือไม่เป็นเรื่อง ป.ป.ช. ตนให้ความเห็นไม่ได้เพราะเป็นคดีอาญา
       
       รองนายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ไม่มีการหารือประเมินการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพราะพรรคมั่นใจว่าเสียงที่ได้มาเพิ่มขึ้นเยอะ พลิกจาก 600,000 เสียงเป็นล้านกว่าเสียง และพรรคไม่ได้ใช้เงินทองควรจะสบายใจ ส่วนการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะชี้ขาดว่าจะรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครฯ จากพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งหรือไม่นั้น คนที่ตื่นเต้นคือพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย ดูจากเทปกับคำให้สัมภาษณ์แล้วค่อนข้างมั่นใจว่าไม่เหลืองก็แดงแน่ หาก กกต.รับรองก็ถือว่าเก่งมากทั้งยังมีการด่าว่าลักษณะกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการ ยึดบ้านยึดเมืองอย่างนี้ไม่ใส่ร้ายหรือ ตนท้าทาย กกต.กล้าก็ยกคำร้อง อย่าไปตื่นเต้น ในพรรคไม่มีใครตื่นเต้น ดีใจกันร้อยละ 99 ที่ผ่านมาเคยมีกรณีการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งโดยตำแหน่งสามารถแต่งตั้งผู้ช่วยได้ 2 คน แต่กลับมีการประกาศว่าจะแต่งตั้งทั้งหมด 9 ตำแหน่ง ทำให้กรณีนี้โดนเล่นไป ซึ่งไม่สามารถบอกตำแหน่ง หรือบุคคลในเหตุการณ์ดังกล่าวได้
       
       เมื่อถามว่า แสดงว่ายังหวังเรื่องใบเหลืองใบแดงอยู่ใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า มุมมองของตนหวังมาก หวังโดยไม่มีเปอร์เซ็นต์ ถึงยังไม่อยากพูดถึงเรื่อง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคเพี่อไทย กลับเข้ารับราชการ และถ้า พล.ต.อ.พงศพัศมาถามตน ตนจะเอาไม้เรียวเฆี่ยน เพราะเรื่องผู้ว่าฯ ยังไม่จบ
       
       เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะถึงขั้นยุบพรรคได้เลยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่พูด ตนหวังแค่เรื่องใหม่ เมื่อถามว่า เรื่องใหญ่ๆ ยังไม่เคยโดนแล้วเรื่องแค่นี้จะโดนได้อย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า อะไรบ่อยๆ ก็คงไม่ได้ ลักหลับทีคงได้ ลักหลับบ่อยๆ คงยาก


“เสี่ยชู” เย้ย “เหลิม” ไม่เข็ด! ท้า กกต.รับรอง “คุณชาย” ระวังหน้าแตกซ้ำ

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ชูวิทย์” กัด “เฉลิม” ไม่ปล่อย! จวกเอาอีกแล้วท้า กกต.ยกคำร้อง “สุขุมพันธุ์” เย้ยจะหน้าแตกต้องใช้โลชั่นบำรุงอีก แนะอยู่เงียบๆ ปล่อยองค์กรอิสระทำงาน ชี้คนกรุงไปลงคะแนนเป็นล้านจะให้ไปเลือกใหม่ไม่ใช่ของล้อเล่น เตือนเผลอๆ ชนะมากกว่าเดิม หยันทำตัวเหมือน “เรืองไกร”

       
       วันนี้ (12 มี.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย เขียนข้อความบนเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5 ระบุถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกดดันการทำงานของ กกต.ในการรับรอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.ว่า เอาอีกแล้ว เพิ่งพ้น 7 วันไปหยกๆ ออกมาท้าทาย ลีลาเดิมๆ เที่ยวก่อนยังไม่เข็ดที่ไปท้าว่า ถ้า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคเพื่อไทย แพ้จะงดสัมภาษณ์ 10 วัน อีกทั้งตอนเลือกตั้งทั่วไปบอกว่าถ้าลูกแพ้จะไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี ตอนนี้ก็ไปท้าทาย กกต.ให้กล้ายกคำร้องของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์
       
       “คุณเฉลิมบอกว่าที่มีการกล่าวหาพรรคเพื่อไทยว่าเผาบ้านเผาเมือง ผูกขาดอำนาจ หาก กกต. กล้ายกคำร้องแล้วรับรองให้หม่อมสุขุมพันธุ์เป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็ถือว่าเก่งมาก อย่างน้อยๆ จะต้องให้ใบเหลือง หรือไม่ก็ใบแดง ผมเกรงว่าคุณเฉลิมจะหน้าแตก ต้องใช้โลชั่นบำรุงผิวอีกครั้ง ทางที่ดีคุณเฉลิมเงียบๆ แล้วปล่อยให้ กกต.ทำงาน ไม่ต้องทำเป็นพูดเพื่อเพิ่มความกดดันจะดีกว่า คนกรุงเทพฯ ไปลงคะแนนกว่าล้านเสียง แล้วจะให้ไปเลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่ของล้อเล่น ประชาชนเขาฟันธงไปแล้ว หากเลือกอีกเผลอๆ อาจชนะมากกว่าเดิม จะเสียมวยกันไปใหญ่ เพราะแบบนี้เหมือนกับไปกลั่นแกล้งรังแกกัน หากคุณเฉลิมอยู่เฉยๆ ผลการพิจารณาของ กกต.ออกมาอย่างไรค่อยมาว่ากัน อย่าไปเล่นโน้ตเดียวกับคุณเรืองไกร คนหนึ่งนักร้อง คนหนึ่งนักท้า เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ปล่อยให้ กกต.เขาตัดสินดีกว่า แล้วคำพูดของคุณเฉลิม หรือคำท้าทาย ผลออกมามักจะตรงกันข้ามทุกครั้ง แต่ไม่ยอมเข็ดเสียที” นายชูวิทย์ระบุ
       
       นายชูวิทย์ระบุว่า ถ้าไม่ได้เป็นอะไรมาก ตนแนะนำให้ ร.ต.อ.เฉลิมอดใจสงบปากสงบคำ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ไปเที่ยวพูดแบบนี้เดี๋ยว ร.ต.อ.เฉลิมเสียคนอีก แล้วจะหาว่าชูวิทย์ไม่เตือน


กกต.กทม.ชงคำร้อง “ศิริโชค-เสรี” ให้ กกต.กลาง 14 มี.ค.ยันไม่ถึงขั้นใบเหลือง-แดง

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ที่ประชุม กกต.กทม.มีมติส่งเรื่อง “ศิริโชค” โพสต์เฟซบุ๊กเผาเมือง “ดร.เสรี” โพสต์หนุนเลือก ปชป.ให้ กกต.กลางวินิจฉัย 14 มี.ค.ยันไม่ถึงขั้นพิจารณาใบแดง อีกด้าน กกต.ทถ.กทม.ตีกลับกรณี สน.เพชรเกษม และ สน.ภาษีเจริญ ขออายัดหีบบัตร ชี้ไม่มีอำนาจ

       
       วันนี้ (12 มี.ค.) พล.ร.ท.ณรงค์ ชโลธร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เปิดเผย กรณี สน.เพชรเกษม และ สน.ภาษีเจริญ ขออายัดหีบบัตร ต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง และวัสดุอุปกรณ์การลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม.เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า สาเหตุเกิดความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในการใช้สิทธิ อาทิ ชื่อของผู้มาใช้สิทธิซ้ำกัน และการลงลายมือชื่อของผู้มาใช้สิทธิผิดช่อง ซึ่งทาง กกต.ทถ.กทม.จะส่งหนังสือตอบกลับไปยัง สน.เพชรเกษม และ สน.ภาษีเจริญ แจ้งให้ทำหนังสือถึง กกต.กทม.โดยตรง กกต.ทถ.กทม.ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว อีกทั้งไม่มีอำนาจในการเปิดหีบบัตรเลือกตั้งดังกล่าว อำนาจหน้าที่ทั้งหมดเป็นของ กกต.กทม.และ กกต.เท่านั้น
       
       พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธาน กกต.กทม.กล่าวภายหลังการประชุม กกต.กทม.เพื่อพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ได้รับเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้ กกต.กทม.ได้รับคำร้องทั้งสิ้น 20 คำร้อง พิจารณาไปแล้ว 9 คำร้อง ในจำนวนนี้รับเป็นคำร้อง 3 เรื่อง ไม่รับ 4 เรื่อง และมี 2 เรื่องที่ กกต.กทม.มีมติเสียงข้างมากเสนอความเห็นไปยัง กกต.กลาง โดยจะถึง กกต.กลางในวันที่ 14 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.และผู้มีสิทธิเลือกตั้งร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบการโพสต์ภาพเผาบ้านเผาเมืองของนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในเฟซบุ๊ก รวมถึงการโพสต์ข้อความในลักษณะไม่เลือกเราเขามาแน่ ของ ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์ โดยเชื่อว่าจากพยานหลักฐานและการสอบสวนของ กกต.กทม.มีความสมบูรณ์พอที่ กกต.กลางจะพิจารณาได้เลยว่าสมควรที่จะประกาศ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือไม่ ไม่น่าจะต้องมีการส่งให้อนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องร้องคัดค้านของ กกต.พิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามติที่มีการเสนอไปยัง กกต.กลาง นั้นความผิดตามที่มีการกล่าวหาโยงไปถึงตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังคงเป็นเพียงความผิดของผู้สนับสนุนที่ถือเป็น ผู้ใดตามมาตรา 57(5) ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ที่ กกต.กทม.เสนอให้ กกต.กลางพิจารณาสั่งดำเนินคดี แต่ทั้งนี้จะมีการประกาศรับรองผล หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ กกต.กลางจะพิจารณา
       
       “กกต.กทม.พิจารณาโดยดูองค์ประกอบของกฎหมายเป็นหลัก และเอาข้อเท็จจริงมาปรับ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็อย่างนั้น ไม่มีการกดดันจากทั้งผู้ลงคะแนนหรือผู้สมัคร แม้กรณีนี้จะไม่ได้เป็นผู้สมัครดำเนินการเอง แต่เป็นการกระทำของผู้สนับสนุนที่ถือว่าเข้าข่ายเป็นผู้ใดตามกฎหมาย แต่เราก็ต้องดูการกระทำของบุคคลนั้นว่า ทำให้ผู้สมัครได้รับประโยชน์หรือไม่ ผู้ที่กระทำโยงไปถึงการมีตำแหน่งอะไรในพรรค และการกระทำดังกล่าวทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ ถ้าพบว่าเป็นเช่นนั้น ก็ต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น โดยทั้งหมด กกต.กลางจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งมีทางออก 3 ทาง คือ 1.เห็นชอบว่าการทำดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครจนต้องสั่งให้มีการเลือก ตั้ง กกต.ก็ประกาศรับรองผล 2.เห็นว่าควรให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม 3.เห็นว่าควรไม่ประกาศรับรองผล” พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าว
       
       นอกจากนี้ ที่ประชุม กกต.กทม.ยังมีมติรับเรื่องที่นายเรืองไกร ร้องขอให้ตรวจสอบนโยบายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า หาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะตั้งปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 31 คน ซึ่งเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด ไว้เป็นคำร้องเพื่อพิจารณาวินิจฉัยแล้ว โดยคำร้องที่เหลืออีก 11 คำร้อง กกต.กทม. จะพยายามพิจารณาให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา 30 วัน ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าในสัปดาห์หน้าจะให้เหลือไม่เกิน 3 คำร้อง แต่ในส่วนที่ร้องนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ปราศรัยใส่ร้าย ยังอยู่ในการตรวจสอบเนื้อหาคำร้องของเจ้าหน้าที่ ยังไม่ได้มีการเสนอที่ประชุมพิจารณา แต่จากที่ตนได้ติดตามข่าวสาร เห็นว่า คำร้องของนายเรืองไกร 2 เรื่องหลังนี่ค่อนข้างมีน้ำหนัก
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับมติ กกต.ที่เสนอต่อ กกต.กลางในวันนี้เป็นมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 1 โดยก่อนหน้านั้นในการพิจารณาคำร้องของนายเรืองไกรมีด้วยกัน 3 ประเด็น ซึ่งประเด็นที่กล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ ปราศรัย เชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ โดยใช้ถ้อยคำว่า “อภิสิทธิ์ เบอร์อะไร ประชาธิปัตย์เบอร์อะไร เบอร์ 16” นั้น กกต.กทม.มีมติเอกฉันท์ยกคำร้อง ส่วนประเด็นนายศิริโชค โพสต์ภาพและข้อความเผาบ้านเผาเมือง และประเด็น ดร.เสรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในลักษณะไม่เลือกเราเขามาแน่นั้น ทั้ง 2 ประเด็น กกต.กทม.มีมติ 3 ต่อ 2 เห็นว่ามีน้ำหนักเข้าเกณฑ์ เป็นผู้ใด กระทำการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครรายใด รายหนึ่ง
       
       แต่ทั้งนี้จากหลักฐานและการสอบสวน ยังไม่ชัดเจนเพียงพอว่าจะพิจารณาเสนอให้ใบเหลืองใบแดง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะกระบวนการสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องยังไม่แล้วเสร็จ โดยถ้า กกต.กทม.เห็นว่าคดีมีมูลเชื่อมโยงไปถึงตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็จะต้องมีหนังสือเรียก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มารับทราบข้อกล่าวหาและทำการชี้แจงเสียก่อน จากนั้น กกต.กทม.จึงจะค่อยพิจารณาและมีความเห็นเสนอไปยัง กกต.กลาง แต่ ณ วันนี้ที่มีมติที่มียังไปไม่ถึงขั้นนั้น ซึ่ง กกต.กทม.นัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 14 มี.ค.นี้ เวลา 13.00 น.ซึ่งก็จะมีการพิจารณาเพื่อหามติว่าจะเสนอให้ กกต.กลางประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หรือควรสอบสวนเพิ่มเติม โดยเชื่อว่าไม่น่าจะเสนอให้ กกต.กลางได้ทันในวันเดียวกัน
       
       อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก กกต.ให้ความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่หากเรื่องดังกล่าวเสนอไปถึงยัง กกต.กลางแล้ว น่าที่ กกต.กลางจะประกาศรับรองให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม.ไปก่อน เนื่องจากหากเรื่องที่ กกต.กทม.มีความเห็นมาถึงขั้นต้องสั่งเลือกตั้งใหม่ กกต.มีระยะเวลาที่เหลือก่อนครบกำหนด 30 วันที่จะสั่งให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งได้ คือภายในวันที่ 3 เม.ย.นี้ เพราะตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นและประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 32 ให้อำนาจ กกต.สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และหากพบว่าต้องมีการเลือกตั้งใหม่ก่อนประกาศรับรองผลให้ดำเนินการให้แล้ว เสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง หากไม่แล้วเสร็จ กกต.ต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อน ซึ่ง กกต.ไม่น่าจะจัดการเลือกตั้งได้ เพราะจะต้องใช้เวลาในเรื่องของการเตรียมกำลังคน อุปกรณ์ต่างๆ ไม่น้อยกว่า 20 วัน อีกทั้งประเด็นตามคำร้องพบว่า ยังมีอยู่อีกหลายคำร้อง ซึ่งหากให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาน่าจะเป็นที่ยุติและทุกฝ่ายยอมรับได้


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เหลิม มั่นใจ คุณชาย โดนแน่ เหลือง แดง ขู่ กกต. รับรอง เก่งมาก

view