สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

รัฐบาลกู้ดันดอกเบี้ยขึ้นยกแผง

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ชลลดา อิงศรีสว่าง

แม้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.75% แต่ทางฝ่ายการเมืองยังคงอยากให้ดอกเบี้ยลดลง ด้วยเหตุไม่อยากให้เงินไหลเข้ามาจนค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วจนก่อให้เกิดปัญหา ต่อเศรษฐกิจ

ผ่านมาเพียงไม่ถึงเดือน ตลาดเงินก็กลับทิศทาง ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าไปในทางทรงตัว แต่ดอกเบี้ยในตลาดเงินเริ่มขยับ โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝากที่เริ่มเห็นสัญญาณการดูดเงินฝากเข้าระบบของธนาคาร พาณิชย์

แต่การแข่งขันดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในขณะนี้ไปแข่งขันกันใน กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ ไม่ได้เน้นไปที่การขึ้นดอกเบี้ยให้ลูกค้ารายย่อย เพราะนั่นเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกินไปว่าธนาคารกำลังระดมเงินฝาก ซึ่งลูกค้ารายย่อยจะขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไหร่ก็ได้ และเงินฝากก็ไม่ไหลเข้าเป็นกอบเป็นกำเท่ารายใหญ่

ลูกค้ามูลนิธิ ลูกค้าสถาบัน ที่เคยถูกกดดอกเบี้ยต่ำ ก็เริ่มจะได้รับการเสนอดอกเบี้ยที่สูงขึ้น สำหรับลูกค้าบุคคลจะได้สิทธิพิเศษบวกดอกเบี้ยเพิ่มให้อีก 0.25-0.5% หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ เพิ่มเติม

การระดมเงินฝากแบบไม่รีบเร่งนี้ ธนาคารพาณิชย์มองล่วงหน้า เพราะธนาคารเองก็ขยายสินเชื่อเพิ่ม โดยธนาคารส่วนใหญ่ตั้งเป้าเพิ่มสินเชื่อพอๆ กับเงินฝาก

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป มีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะเริ่มกู้เงินเพื่อทำโครงการต่างๆ ซึ่งจะแบ่งเป็นเงินกู้ 2 ส่วน

ส่วนแรก คือ เงินกู้ตาม พ.ร.ก.ลงทุนระบบน้ำ 3.5 แสนล้านบาท

ส่วนที่สอง คือ ที่จะออก พ.ร.บ.กู้เงินลงทุนยุทธศาสตร์ประเทศ 2 ล้านล้านบาท ในเร็วๆ นี้

สำหรับเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทนั้น ตามกฎหมายระบุให้รัฐบาลต้องกู้ภายในเดือน มิ.ย.นี้เท่านั้น หากไม่มีการกู้เงิน ก็ถือว่าหมดเวลา ในส่วนนี้รัฐบาลซิกแซ็ก ด้วยการเปิดวงเงินกู้เกินบัญชี (โอดี) กับธนาคารของรัฐสองแห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย เป็นเงิน 5 หมื่นล้านบาท และธนาคารออมสินอีก 5 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 1 แสนล้านบาท เพื่อไม่ให้ติดเงื่อนไขเวลาตามที่กฎหมายกำหนด

ส่วนเงินกู้ที่จะออก พ.ร.บ.ใหม่ 2 ล้านล้านบาท จะยังไม่มีผลอะไรกับตลาดเงิน ตราบใดที่กฎหมายยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภา

แค่วงเงินโอดี 1 แสนล้านบาท ก็ทำให้ธนาคารทั้งสองแห่งต้องเตรียมสภาพคล่องไว้รองรับ เพราะต้องการจะใช้เงินเมื่อไหร่ก็ต้องมีให้

ธนาคารกรุงไทยนั้นดูดเงินฝากด้วยการออกแคมเปญเงินฝากพิเศษระยะสั้น ส่วนธนาคารออมสินในปลายเดือนนี้ก็จะออกเงินฝากฉลองครบรอบ 100 ปี

หากดูจากความต้องการสินเชื่อในปีนี้ ธนาคารทุกแห่งตั้งเป้าขยายสินเชื่อไม่เกิน 10% โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ ในขณะนี้ก็ต้องเร่งระดมออกหุ้นกู้ก่อนที่ตลาดจะตึงตัว หากไปกู้เงินในช่วงที่รัฐบาลกำลังจะเริ่มกู้เงิน อาจจะต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นไปอีก

การแย่งเงินฝากจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นอกจากจะแย่งเงินฝากเพื่อปล่อยกู้แล้ว ธนาคารยังต้องแย่งเงินฝากกับตลาดทุน ที่เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในหุ้น จนทำให้นักลงทุนหน้าใหม่แห่เข้าไปลงทุนในหุ้นอีกหลายหมื่นคน แหล่งเงินที่นำมาลงทุนในหุ้นก็คือเงินออม

ดังนั้น การที่กระทรวงการคลังอยากเห็น กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อที่จะช่วยให้รัฐบาลกู้เงินได้ต้นทุนถูกลง ก็เป็นเรื่องที่จะไม่เป็นไปตามที่คาด

เนื่องจากเมื่อถึงเวลานั้น ตลาดเงินจะแบ่งออกไปตามความเป็นจริง ดอกเบี้ยนโยบายก็คือดอกเบี้ยนโยบาย แต่ดอกเบี้ยที่แท้จริงของตลาดก็จะเป็นไปตามความต้องการกู้เงินและสภาพคล่อง ที่มีอยู่จริง

กฤษณ์ จันทโนทก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเงินฝาก การลงทุนและประกันภัยธนพัทธ์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการติดตามภาวะเงินฝากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่าการเติบโตของเงินฝากในระบบยังค่อนข้างทรงตัว แต่เชื่อว่าตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นไป ธนาคารหลายแห่งจะทยอยปล่อยแคมเปญเงินฝากประจำพิเศษเข้าสู่ตลาด เนื่องจากฤดูกาลเติบโตสินเชื่อได้เข้ามาถึงแล้ว

นอกจากนี้ การระดมทุนของรัฐบาลในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นใน ช่วงกลางปีจะเข้ามาทำให้สภาพคล่องในระบบในช่วงครึ่งปีหลังตึงตัวขึ้น ทำให้ธนาคารหลายแห่งจำเป็นต้องเร่งตุนสภาพคล่องภายในครึ่งปีแรก

อย่างไรก็ดี หลายธนาคารเป็นเสือปืนไว ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากพิเศษไปล่วงหน้าแล้ว อาทิ ธนาคารทิสโก้ ได้ออกแคมเปญ “เงินฝากประจำ 4 เดือน ดอกเบี้ย 3.25%” เพื่อฉลองครบรอบ 44 ปีของกลุ่มทิสโก้ ในวงเงินฝาก 5 แสน10 ล้านบาท เปิดรับฝากจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2556

ด้านธนาคารกรุงไทย ออก 3 ผลิตภัณฑ์เงินฝากดอกเบี้ยสูง ประกอบด้วย เงินฝากประจำ KTB Birthday อัตราดอกเบี้ย 3.47% ต่อปี เงินฝากประจำ KTB Birthday @ Netbank อัตราดอกเบี้ย 3.77% ต่อปี และเงินฝากประจำ KTB Precious Plus Invite อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี รับฝากขั้นต่ำครั้งละ 5 หมื่นบาท

นอกจากนี้ ยังได้ออกเงินฝากประจำ KTB Precious Plus Invite ระยะเวลาฝาก 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ฝากขั้นต่ำ 1 ล้านบาท สูงสุด 50 ล้านบาท โดยจำนวนเงินที่นำฝากเมื่อรวมกับยอดเงินฝากประจำเดิมที่มีอยู่ ณ ขณะที่นำฝาก ต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 10 ล้านบาท โดยจะเริ่มรับฝากระหว่างวันที่ 1431 มี.ค.นี้

ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ ออกแคมเปญบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ ระยะเวลา 10 เดือน ดอกเบี้ย 3% ต่อปี และระยะเวลา 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี ฝากขั้นต่ำ 2 แสนบาท เริ่มรับฝากตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เตรียมยื่นขอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อออกหุ้นกู้ วงเงินไม่เกิน 1.5 แสนล้านบาท โดยกำหนดระยะเวลาไถ่ถอนไม่เกิน 100 ปี เผื่อไว้อีกด้วย

เมื่อขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก หากบริหารต้นทุนไม่ดี ธนาคารก็อาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ด้วย อย่างดีก็แค่คงดอกเบี้ยไว้ แต่จะหวังให้ดอกเบี้ยลดลง เป็นไปได้ยาก หากรัฐบาลจะกู้เงินมหาศาลขนาดนี้ แม้จะเป็นการทยอยกู้เงินก็ตาม

ฉะนั้น โจทย์ใหญ่ของรัฐบาลที่ยังหาทางออกไม่ได้คือ จะกู้อย่างไรไม่ให้กระทบกับตลาดเงินและตลาดทุน

หากรัฐเลือกออกพันธบัตร ก็จะส่งผลกระทบกับดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรให้ปรับขึ้นทั้งตลาด

หากเลือกกู้โดยตรงจากสถาบันการเงิน ก็จะส่งผลต่อดอกเบี้ยในตลาดเงินทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้รัฐบาลเสียคะแนนนิยมได้

ขณะนี้จึงมีนักวิชาการหลายสำนัก มองว่า รัฐบาลจะต้องบีบขอเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยมาใช้ แต่จะเอาจากส่วนใดมาใช้นั้น โปรดจับตากันต่อไป


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : รัฐบาลกู้ ดันดอกเบี้ยขึ้น ยกแผง

view