จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

กอบศักดิ์"ย้ำค่าเงินบาทแข็ง เพราะเศรษฐกิจในเอเซียดี ในอนาคตเห็นที่28บาทต่อดอลลาร์ไม่แปลก วิตกเก็งกำไรหุ้นเล็ก

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)ให้สัมภาษณ์"กรุงเทพธุรกิจทีวี"เรื่อง แนวโน้มค่าเงินบาทแข็งต่อเนื่องช่วง2วันที่ผ่านมา

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่ามีการเอาเงินจำนวนมากเข้ามาซื้อพันธบัตร พอซื้อเสร็จก็จบ ไม่มีเงินใหม่เข้ามา เงินบาทเป็นแรงกดดันเป็นช่วงๆ 2 วันที่แล้วไม่แปลกใจที่เมื่อวานนี้(13 มี.ค.)กลับมาอยู่ 29.60 บาทใหม่อีกครั้ง และระยะยาวในช่วงต่อไป จะไม่เซอร์ไพรส์ ที่จะเห็นเงินบาทขึ้นไปได้ต่อเนื่องในช่วง 2 ปีข้างหน้า เพราะว่าเอเชียเป็นเศรษฐกิจที่ดี เมื่อเทียบกับอเมริกา ยุโรป จะเป็นเศรษฐกิจที่มีค่าเงินแข็งโดยปกติ ดอกเบี้ยที่สูงกว่า ความน่าสนใจที่มากกว่าอสังหาฯที่ขึ้นมา เงินจะไหลเข้ามาลงทุนในอสังหาฯบ้าง ลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ฉะนั้นบวกกับเศรษฐกิจที่ดีเงินไหลเข้ามา คนก็เริ่มมองว่าเป็นทิศทางหลายคนก็เริ่มเก็งกำไรบางส่วน ไม่แปลกใจที่จะเห็นบาทแข็งขึ้นกว่านี้ ถ้าเกิดทะลุ 29 บาท เริ่มเห็น 28 บาท ก็ไม่แปลกใจ ทั้งเอเชีย แต่เมื่อ 2 วันที่แล้ว เป็นเฉพาะเมืองไทยเป็นประเทศเดียว ครั้งนี้อย่ากังวลใจ

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า เงินไหลเข้ามาเพราะเขาอยากลงทุนโดยตรง เห็นว่าเศรษฐกิจดี มาลงทุนในตลาดหุ้น เพราะไปได้ อสังหาฯ ที่กำลังมีราคาเพิ่มขึ้นมา สินทรัพย์อื่นรวม ถึงค่าเงิน เพราะมีหลากหลายปัจจัยรวมๆ ในขณะเศรษฐกิจดีเช่นนี้โอกาสที่ค่าเงินแข็งต่อเนื่อง มีความเป็นไปได้ มีคนบอกเขาเก็งกำไรเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา ชอบเงินบาทมาก เพราะแข็งค่ากว่าประเทศอื่น

" ในเชิงนโยบายเป้าหมายคืออะไร ปล่อยให้มันโฟลต หรือให้แข็งเท่ากับภูมิภาค หรืออยากให้ค่าเงินบาทนิ่ง ทุกอย่างมีต้นทุนทั้งหมด แต่จะจ่ายต้นทุนเหล่านั้นได้หรือเปล่า ขณะนี้เอกชนต้องการอยากให้มันแข็งไปกับภูมิภาค อย่าให้แข็งกว่าภูมิภาคอย่างมาเลเซียเป็นต้น ซึ่งก็น่าคิด มาเลเซียปัจจุบันอยู่ประมาณที่ 3.1 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 29.6 ของเขาคือประมาณ 31 บาท ค่าเงินบาทแข็งกว่าเขาแล้วตอนนี้ เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ"นายกอบศักดิ์ กล่าว

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีเงินเข้าตลาดหุ้นแค่ 4 พันล้าน ตลาดหุ้นที่บูมน่ากังวลใจ โบรกหลายโบรกเริ่มเลิกให้มาร์จินแล้ว ขณะเดียวกันถ้าไปดูหุ้นที่ขึ้นเป็นหุ้นเล็กๆน้อยๆ ที่ต่างชาติไม่เข้าทั้งนั้น หุ้นใหญ่ๆไม่ขึ้น หุ้นที่กำลังขึ้นคือหุ้นที่เล่นกันสนุกสนาน เดือนที่แล้วมีคนเปิดบัญชีใหม่ 4 หมื่นบัญชี ปกติเปิดปีละ 8 หมื่นบัญชี เป็นสัญญาณที่น่ากังวลใจเริ่มเห็นสัญญาณที่คล้ายกับในอดีตน่ากังวลใจ

"ถ้าดูว่าตลาดหุ้น และตลาดอสังหาริมทรัพย์ เป็นฟองสบู่จะไปทำอะไรก็คงช้าไปแล้ว ดูว่าอะไรที่ผิดปกติหรือเปล่า เช่นราคาปกติขึ้นปีละ 10 % อยู่ๆขึ้น 50% ในต่างจังหวัด น่าคิดโครงการมีปี 5-6 โครงการ อยู่ๆมี 23-30 ในเชียงใหม่ 60 โครงการ นั่นก็ไม่ปกติ กลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่อยากให้รอเห็นสัญญาณชัดฟองสบู่ เพราะหากมีฟองสบู่พิสูจน์ได้ก็เต็มตัวแล้ว ตลาดหุ้นก็น่ากังวลใจ คนที่เล่นกัน คือคนไทยในหุ้นเล็กๆ ขณะนี้น่ากังวลใจ แล้วสวิงมากมีโอกาสเสียหายกันได้"นายกอบศักดิ์ กล่าว

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน