สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ที่พัก เกษม เด็ก เจ๊ ด. แค่ทาวน์เฮาส์ ทำ หจก.รับเหมาไร้เงารถหรู 7 คัน

ที่พัก “เกษม” เด็ก “เจ๊ ด.” แค่ทาวน์เฮาส์ ทำ หจก.รับเหมาไร้เงารถหรู 7 คัน

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ยิ่งสาวยิ่งพิลึก ที่พักของ “อดีต ส.ส.เกษม” คนใกล้ชิด “เจ๊แดง” ที่แท้เป็นแค่ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ทำเป็นโฮมออฟฟิศ หจก.รับเหมาก่อสร้าง ส่วนบ้านอีกหลังครอบครัวพี่น้องทุกคนอาศัยร่วมกัน ไร้เงารถหรูเบนซ์ เลกซัส ฟอร์จูนเนอร์ 7 คัน ตรวจสอบเบื้องต้นมีการเคลื่อนไหวยื่นประมูลรับเหมางานให้ อปท.ในเชียงใหม่ วงเงินหลักแสน
       
       หลังจากที่มีการพบข้อพิรุธในบัญชีรายการทรัพย์สินที่นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย เขต 3 เชียงใหม่ ที่ลาออกไป ซึ่งระบุว่าเป็นผู้ครอบครองรถยนต์หรูถึง 7 คัน เช่น เบนซ์ อี200 เค โตโยต้าเลกซัส โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ฯลฯ แถมยังได้มาด้วยการซื้อเงินสด เนื่องจากไม่ปรากฏในรายการหนี้สิน ขณะที่เจ้าตัวระบุว่ามีอาชีพเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส.เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ชิณนิชา วงศ์สวัสดิ์ และที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงใหม่ มีรายได้ประจำทั้งปีไม่เกิน 4 แสนบาท นอกจากนั้น เขายังแจ้งว่ามีเงินฝากในบัญชีต่างๆ รวมกันเพียง 456,034.79 บาทเท่านั้น
       
       ผู้สื่อข่าวได้ตามไปตรวจสอบบ้านพักของนายเกษมที่แจ้งกับ ป.ป.ช.ว่า พักอยู่บ้านเลขที่ 3/8 ซอย 1 ถนนป่าพร้าว ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ โดยพบว่าบ้านดังกล่าวเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นสีครีมวานิลลา อยู่ในซอยเดียวกับโรงเรียนอนุบาลใจแก้ว หน้าบ้านมีพื้นที่ไม่มากไม่พอต่อการจอดรถยนต์ มีรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ 2 คัน ด้านหน้าติดกระจกเขียนข้อความด้วยสติกเกอร์สีเขียวว่า หจก.แม่ปิงดีเวลลอปเมนท์ 3/8 ป่าพร้าว ซอย 1 ต.ป่าแดด ภายในมีคนอยู่ 3-4 คน บริเวณรอบๆ ในซอยไม่ปรากฏที่จอดรถยนต์หรูหราตามที่เจ้าตัวระบุว่าเป็นผู้ครอบครอง
       
       เป็นที่ทราบว่า นายเกษม นิมมลรัตน์ เป็นคนสนิทของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และเคยมีการถ่ายภาพวิดีโอนางเยาวภากับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นผู้ใช้งานรถยนต์โตโยต้าเลกซัส ทะเบียน กบ 8888 เชียงใหม่ ซึ่งนายเกษมระบุว่าตนเป็นเจ้าของครอบครอง
       
       นายเกษมได้ระบุในบัญชีทรัพย์สินว่าตนเป็นเจ้าของบ้านอีกหลังหนึ่ง คือเลขที่ 129/171 หมู่ 2 ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ได้มาเมื่อปี 2533 มูลค่าปัจจุบันประมาณ 4 ล้านบาท แต่ในรายงานบัญชีทรัพย์สินฉบับเดียวกันระบุว่า มารดาของเขาคือนางบุญทอง และพี่น้องร่วมบิดามารดา 3 คน คือ นางนิภาพร นายวิชัย และนายวิเชียร ทั้งหมดพักอยู่ที่เดียวกันคือบ้านเลขที่ 129/171 หมู่ 2 ต.ป่าแดด แสดงว่าบ้านอีกหลังที่ครอบครองนั้นเป็นที่พักรวมของครอบครัวญาติพี่น้องที่ กล่าวมา
       
       ผู้สื่อข่าวตรวจสอบเบื้องต้นไปยังกิจกรรมของ หจก.แม่ปิงดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งระบุว่าเป็นกิจการรับเหมาก่อสร้าง พบว่ามีการเคลื่อนไหวยื่นประมูลงานหลายครั้งในกิจการขององค์การบริหารส่วน ท้องถิ่นหลายแห่งในเชียงใหม่ วงเงินไม่มากนักต่ำกว่า 5 แสนบาท แต่ก็ไม่ค่อยได้งานเป็นเสมือนบริษัทคู่แข่งในการประมูลมากกว่า


พิศวงบัญชีทรัพย์สินเกษม นิมมลรัตน์ รายได้ไม่ถึง 4 แสน/ปี ครองรถหรูตรึม

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ -
เกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส.ที่เพิ่งลาออก แสดงตนมีรายได้ประจำปีละไม่ถึง 4 แสนบาท แต่แปลกครอบครองรถหรูทะเบียนงามทั้งเบนซ์ เลกซัส ฟอร์จูนเนอร์ รวม 7 คัน แถมซื้อสดอีกต่างหาก เผยประวัติเป็นผู้ใกล้ชิดเจ๊แดงทำหน้าที่ขับรถ และกินเงินเดือนผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส. ขณะที่ภรรยาทำงานบริษัทเอ็มลิงค์

       
       บัญชีทรัพย์สินของ นายเกษม นิมมลรัตน์ ที่แสดงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ครั้งรับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อเดือนสิงหาคม 2555 ระบุว่า ตนมีรายได้ 1,059,548.35 บาท แต่มีทรัพย์สินมากถึง 56,384,311.51 บาท มีหนี้สินเพียง 204,626.55 บาทเท่านั้น หากพิจารณายอดทรัพย์สินที่แสดงต่อ ป.ป.ช.ถือได้ว่านายเกษมจัดเป็นผู้ร่ำรวยมีฐานะดีคนหนึ่ง
       
       แต่อย่างไรก็ตาม นายเกษม กลับแสดงตนว่ามีรายได้ประจำจากตำแหน่งทางการเมือง กล่าวคือ เป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส. (นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์) ในปี 2551 จากนั้นมาเป็นที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงใหม่ ในปี 2552 และมาเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำ ส.ส.(ชิณนิชา วงศ์สวัสดิ์) ในปี 2554 ซึ่งหากดูจากฐานเงินเดือนแล้ว ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำ ส.ส.มีรายได้เพียง 20,000 บาท/เดือนเท่านั้น ประกอบกับ นายเกษม เองก็ได้กรอกในบัญชีทรัพย์สินว่า ตนมีรายได้ประจำปีละแค่ 397,673.35 บาท แม้จะรวมกับรายได้ประจำของภรรยาซึ่งเป็นฝ่ายบริหารในบริษัทเอ็มลิงค์ คอปอเรชั่น ปีละ 661,875 บาท รวมกันแล้วมีรายได้ประจำประมาณ 1 ล้านกว่าบาทเท่านั้น
       
       น่าสนใจอย่างยิ่งว่า นายเกษม ได้แสดงบัญชีการครอบครองรถยนต์หรูระดับเศรษฐีจำนวน 7 คัน มีอยู่ 6 คันที่ได้มาระหว่างปี พ.ศ.2550-2553 ได้แก่ โตโยต้า เลกซัส กบ.8888 เชียงใหม่, โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ กธ 7000 เชียงใหม่, โตโยต้า ไฮลักซ์ บว 4899 เชียงใหม่, เบนซ์ อี200 เค ทะเบียน กค 7777 เชียงใหม่, โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ กก 111 เชียงใหม่ และเชฟโรเลต จี2500 เอ็กซ์เพรสแวน ทะเบียน ฮก 2697 เชียงใหม่
       
       น่าประหลาดเพิ่มไปอีก ที่นอกจากจะมีรสนิยมสะสมรสยนต์หรูหลายคันแล้ว ยังซื้อรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ซ้ำกัน 2 คัน ชั่วเวลาห่างกันแค่ 2 ปี คือ ทะเบียน กธ 7000 เชียงใหม่ ซื้อเมื่อ 12 ต.ค.2550 ขณะที่ ทะเบียน กก 111 เชียงใหม่ ซื้อเมื่อ 15 มกราคม 2553
       
       ไม่เพียงเท่านั้น รถยนต์ที่ นายเกษม ระบุว่า ตนซื้อและเป็นผู้ครอบครองก็คือ โตโยต้า เลกซัส รุ่น LX 470 สีขาว ทะเบียน กบ 8888 เชียงใหม่ ซึ่งระบุว่า ซื้อมาเมื่อ 9 ก.พ.2550 เคยปรากฏในข่าวมาก่อนว่าเป็นรถคันเดียวกับที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นำไปใช้รับส่งหญิงสาวปรากฏในคลิปที่เผยแพร่ออกสู่สาธารณะอย่างฮือฮาเมื่อ หลายปีก่อน
       
       โดยในข่าวสารระบุว่า ในวันที่ 26 มีนาคม 2549 หลังจากเหตุการณ์บีเอ็มดับเบิลยูปริศนาในโรงแรมม่านรูด ภาพจากการติดตามฉายให้เห็นวิวเดิมบริเวณบ้านของเป้าหมาย เรื่อยมาจนถึงซอยชลลดา 23 ออกไปยังถนนกาญจนาภิเษก เข้าเส้นบรมราชชนนี มุ่งหน้านครปฐม สำหรับรถที่ถูกติดตามในวันดังกล่าว เป็น รถเอสยูวี ยี่ห้อเลกซัส รุ่น LX 470 สีขาว ทะเบียน กบ 8888 เชียงใหม่
       
       โดยรถทะเบียนสวยคันดังกล่าวเลี้ยวเข้าไปในร้านอาหาร “ส้มแก้ว” จากนั้นหนุ่มใหญ่-สาวใหญ่ คู่หนึ่งก็ลงมาจากรถ โดยหนุ่มใหญ่ปริศนาเป็นคนเดียวกับที่ไปรับสาวแรกรุ่นจากซอยเพชรเกษม 7/2 ไปกินอาหารใต้ แต่สาวใหญ่ผู้มีใบหน้าอวบอูมราวกับซาลาเปาที่ถูกอบไอน้ำจนขึ้นฟูนั้น กลับกลายไปคล้ายคลึงกับ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยาของ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ส่วนเสียงผู้หญิงซึ่งสะกดรอยตามคนเดิม ก็ระบุว่า “เป้าหมายมารับประทานอาหารกับภรรยา” ขณะที่เวลาในวิดีโอระบุ 11.54 น. (http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000128662) ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือ รถที่นายสมชายเดินทางไปทานอาหารพร้อมกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นั่นเอง
       
       หากบันทึกเทปดังกล่าวระบุว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อมีนาคม 2549 จริง มีความเป็นไปได้ว่า นายเกษม นิมมลรัตน์ ได้รับช่วงครอบครองรถดังกล่าวต่อจาก นายสมชาย หรือ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แต่จะครอบครองจากการซื้อขาย หรือรับฝาก หรือด้วยเหตุผลอื่นใดไม่มีหลักฐานยืนยัน
       
       ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ รถยนต์ที่ซื้อมาทุกคันไม่ปรากฏในรายการหนี้สิน นั่นก็คือ ซื้อมาด้วยเงินสดทั้งสิ้น แสดงว่า ในช่วงเวลาระหว่าง 2550-2553 เขาใช้เงินสดซื้อรถยนต์รวมกันประมาณ 7-8 ล้านบาทตามมูลค่ารถใหม่ บางปีเขาซื้อรถยนต์ไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาททั้งๆ ที่ระบุว่า มีรายได้ประจำสองคนสามีภรรยาประมาณ 1 ล้านบาทเท่านั้น และมีเงินฝากในธนาคารต่างๆ รวม 18 บัญชี ส่วนใหญ่มีเงินอยู่ระดับหลักพันบาท บัญชีที่มีฝากสูงสุดคือ 4 แสนบาท ที่เหลือลดหลั่นลงมา
       
       อย่างไรก็ตาม นายเกษม ได้แสดงว่าเขาครอบครองทรัพย์สินอื่นๆ ด้วย ทั้งที่ดิน และหลักทรัพย์/พันธบัตร ซึ่งส่วนใหญ่ครอบครองหลังปี 2548 เป็นต้นมา


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ที่พัก เกษม เด็ก เจ๊ ด. ทาวน์เฮาส์ หจก.รับเหมา ไร้เงารถหรู

view