สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

วิกฤติในไซปรัส

วิกฤติในไซปรัส

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




บทความนี้เขียนเมื่อวันอังคารซึ่งอยู่ในระหว่างที่ธนาคารในไซปรัสยังไม่เปิดทำการตามปกติ ตามคำประกาศของธนาคารกลาง

ธนาคารพาณิชย์จะเปิดให้บริการเมื่อวานนี้หลังปิดมาเกือบสองสัปดาห์ ส่วนการบริการจะมีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง ธนาคารกลางยังไม่บอก เมื่อต้นสัปดาห์ ผู้ฝากเงินไว้กับธนาคารอาจถอนเงินได้จากตู้อัตโนมัติซึ่งจะให้ถอนได้ในจำนวนจำกัดโดยส่วนใหญ่จะไม่เกิน 120 ยูโรต่อวัน การถอนเงินสดได้เพียงเท่านั้นคงสร้างปัญหาสาหัสให้แก่ชาวไซปรัสจำนวนมากเนื่องจากไซปรัสได้พัฒนารุดหน้าไปจนประชาชนโดยทั่วไปใช้บริการธนาคารแล้วและในช่วงนี้ธุรกิจไม่รับบัตรเครดิตแทนเงินสด

จากมุมของกรรม ชาวไซปรัสทั้งประเทศกำลังใช้กรรมอันเกิดจากนโยบายที่ไม่เหมาะสมของรัฐบาล ไซปรัสดำเนินนโยบายมานานซึ่งธนาคารพาณิชย์ให้บริการแก่ชาวต่างชาติแบบเสรีและรัฐบาลเก็บภาษีธุรกิจเพียง 10% เท่านั้น นโยบายแนวนี้ได้รับการสนับสนุนเต็มที่เมื่อ “ฉันทามติแห่งกรุงวอชิงตัน” เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในยุคโรนัลด์ เรแกน เป็นประธานาธิบดีอเมริกา และมาร์กาเร็ต แธทเชอร์ เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นั่นคือ รัฐบาลไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายในการทำงานของภาคเอกชนยังผลให้กิจการธนาคารไม่ได้รับการควบคุมอย่างเคร่งครัด

นโยบายในกรอบฉันทามติแห่งกรุงวอชิงตันแพร่ขยายออกไปในช่วงที่สหภาพโซเวียตแตกสลายส่งผลให้เกิดมหาเศรษฐีใหม่ขึ้นมากมายในรัสเซีย มหาเศรษฐีเหล่านั้นไม่ต้องการเก็บเงินไว้ในประเทศของตนและมองว่าไซปรัสน่าจะเป็นแหล่งซุกซ่อนเงินได้เป็นอย่างดี ยิ่งกว่านั้น วงการเงินเชื่อว่า ชาวรัสเซียที่เป็นมหาเศรษฐีขึ้นมาจากธุรกิจผิดกฎหมายก็นิยมใช้ไซปรัสเป็นแหล่งฟอกเงินด้วย

เงินที่รับฝากจากชาวต่างชาติจำนวนมากนั้น ธนาคารไซปรัสนำไปให้ผู้อื่นกู้ ผู้กู้รายใหญ่ๆ ได้แก่ ธนาคารและธุรกิจในประเทศกรีซ เมื่อกรีซประสบวิกฤติเศรษฐกิจจนเกือบล้มละลาย ธนาคารไซปรัสได้รับผลกระทบสูงด้วย


โดยทั่วไปเมื่อธนาคารประสบปัญหาร้ายแรงเช่นนั้น รัฐบาลมักยื่นมือเข้าไปช่วยดังที่เห็นในอเมริกาหลังเกิดวิกฤติเมื่อปี 2551 แต่รัฐบาลไซปรัสไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ด้วยปัจจัยสามประการคือ ประการแรก รัฐบาลไม่อยู่ในภาวะที่จะช่วยได้เพราะต้องใช้เงินยูไรซึ่งหมายถึงธนาคารกลางจะเพิ่มเครดิตให้ธนาคารพาณิชย์เองไม่ได้ ประการที่สอง ฐานะทางการเงินของรัฐบาลอยู่ในภาวะใกล้ล้มละลายเนื่องจากขาดดุลงบประมาณติดต่อกันในระดับสูง ประการที่สาม จำนวนเงินและหนี้ที่มีปัญหาเป็นจำนวนสูงมาก ประเด็นนี้จะเห็นได้จากข้อตกลงที่รัฐบาลทำกับสหภาพยุโรป ธนาคารกลางยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเป็นวงเงินถึง 1 หมื่นล้านยูโรซึ่งเกินครึ่งของรายได้ของชาวไซปรัสรวมกัน หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี)

อาจเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน รัฐสภาไซปรัสไม่ยอมรับข้อเสนอที่รัฐบาลจะทำกับสามสถาบันดังกล่าวเพื่อรับความช่วยเหลือ ข้อตกลงใหม่ละรายละเอียดบางอย่างไว้สำหรับเป็นข้อต่อรองกันต่อไปเพราะไซปรัสต้องใช้เงินช่วยเหลือนั้นอย่างเร่งด่วนมาก หากจะใส่รายละเอียดทุกอย่างลงไปคงทำให้ข้อตกลงล่าช้าจนไม่ทันเวลา

อย่างไรก็ดี เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ไซปรัสจะต้องปิดธนาคารใหญ่อันดับสองของตน ในการปิดธนาคารนั้น กิจการของธนาคารจะถูกโอนไปให้ธนาคารอันดับหนึ่งซึ่งก็มีปัญหาสาหัสเช่นกัน แต่จะได้รับการช่วยเหลือจากเงินที่รัฐบาลได้รับมา ส่วนหนึ่งของข้อตกบ่งว่าผู้ฝากเงินไว้กับธนาคารไม่เกิน 1 แสนยูโรจะไม่สูญเงิน ส่วนผู้ที่มีเงินฝากมากกว่านั้นจะสูญบางส่วนที่เกิน 1 แสนยูโรซึ่งอาจรวมกันเป็นหลักพันล้านยูโร ผู้ถือหุ้นกู้ และตราสารหนี้ต่าง ๆ ของธนาคารก็จะสูญเงินทุนเช่นกัน นักวิจารณ์มองกันว่า ข้อตกลงนั้นแฝงเป้าหมายหนึ่งไว้ นั่นคือ การลงโทษนักฟอกเงินชาวรัสเซียที่นิยมฝากเงินไว้ในธนาคารของไซปรัส

ส่วนข้อตกลงที่ยังไม่มีรายละเอียดได้แก่ไซปรัสจะต้องขายรัฐวิสาหกิจบางแห่ง เรื่องนี้เป็นที่รู้กันดีว่ามาจากแนวคิดฉันทามติแห่งกรุงวอชิงตันซึ่งไอเอ็มเอฟผลักดันเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน อีกสองด้านที่ยังไม่เป็นที่กระจ่างได้แก่รัฐบาลจะต้องตัดทอนงบประมาณลงเท่าใด และต่อไปจะเก็บภาษีเงินฝากธนาคารหรือไม่และในอัตราเท่าใด ข้อเสนอเรื่องการเก็บภาษีเงินฝากนี้ถูกรัฐสภาตีตกไปเมื่อสัปดาห์ก่อนครั้งหนึ่งแล้ว

ข้อตกลงที่ไซปรัสทำกับสามสถาบันเพื่อขอเงินช่วยเหลือนั้นจะมีผลร้ายแรงยิ่ง กิจการธนาคารจะเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญส่งผลให้ไม่มีเงินทุนจากภายนอกไหลเข้าไปอีก เงินทุนส่วนใหญ่จะหดหายไปจนไม่มีธุรกิจใดสามารถยืมเงินได้ตามต้องการจนกว่าทุกอย่างจะกระจ่างขึ้นซึ่งอาจใช้เวลาเป็นปี รัฐบาลจะต้องตัดทอนงบประมาณลงอย่างมาก ประชาชนจะเข้าถึงเงินของตนได้เป็นบางส่วนเท่านั้น รัฐบาลจะไม่สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคสำคัญของเศรษฐกิจโดยการลดค่าเงินได้เนื่องจากต้องใช้ยูโร การลดลงของการใช้จ่ายจะมีผลทำให้เศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่และการว่างงานในอัตราสูง

แม้ไซปรัสจะมีขนาดเล็ก แต่วิกฤติในไซปรัสและวิกฤติในหลายประเทศในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาชี้ว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกยังจะมีต่อไป นั่นหมายความว่าการบริหารจัดการจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อภาวะเป็นเช่นนี้ รัฐบาลไทยจะยังดันทุรังกู้เงินจำนวนมหาศาลต่อไปทั้งที่ในบางกรณีไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอีกหรือ?


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : วิกฤติ ไซปรัส

view