สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

บริษัทลูกหนี้ คุณหญิงอ้อ 38.6 ล้าน แปลงกายเปลี่ยนชื่ออุตลุด

บริษัทลูกหนี้“คุณหญิงอ้อ”38.6 ล้าน แปลงกายเปลี่ยนชื่ออุตลุด

จากสำนักข่าวอิสรา

แกะรอย“มิลเลนเนียมเฮ้าส์”ลูกหนี้ “คุณหญิงอ้อ-พจมาน”38.6 ล้าน แปลงกาย“เพิ่มทุน-เปลี่ยนชื่อ”อุตลุด “หุ้นใหญ่”กก.รพ.พระรามเก้า ขาดทุนสะสมกว่า 2 ล้าน 

บริษัท มิลเลนเนียม เฮ้าส์ จำกัด “ลูกหนี้”คุณหญิงพจมาน ชินวัตร (นามสกุลขณะนั้น) ในช่วงปี 2543 มีการเปลี่ยนชื่อและทุนจดทะเบียนหลายครั้ง ปัจจุบันเป็น บริษัท วัตสัน ฟอเซ็ท จำกัด

ทั้ง นี้ ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรกเมื่อเดือนมกราคม 2544 ระบุ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา มีเงินให้กู้ยืมรวม 10 ราย รวมวงเงินทั้งสิ้น 6,787.63 ล้านบาท ในจำนวน 2 รายคือเงินให้กู้ยืมแก่ บริษัท เจ้าคุณอุตสาหกรรมและการเกษตร จำกัด จำนวน 160.2 ล้านบาท ปัจจุบันมีบุตรชายและเครือญาตินายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นเจ้าของ และ บริษัท มิลเลนเนียม เฮ้าส์ จำกัด จำนวน 38,600,000 บาท โดยกำหนดเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินลงวันที่ 21 มีนาคม 2543 ดอกเบี้ย ร้อยละ 8 ต่อปี 

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจ สอบพบว่า บริษัท มิลเลนเนียม เฮ้าส์ จำกัด (MILLENIUM HOUSE CO.,LTD) จดทะเบียนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2543 ทุนปัจจุบัน 2 ล้านบาท ประกอบกิจการเกี่ยวกับให้กู้ยืมเงิน ที่ตั้งเลขที่ 53/1 หมู่ที่ 6 ถนนบรมราชชนนี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร

จาก การตรวจสอบพบว่า บริษัทนี้ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่ออย่างน้อย 3 ครั้ง ในช่วงจดทะเบียนก่อตั้งชื่อ บริษัท มิลเลนเนียม เฮ้าส์ จำกัด วันที่ 18 ตุลาคม 2548 จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทีซีแอสเซทพลัส จำกัด (T.C.ASSET PLUS CO.,LTD.) กระทั่งวันที่ 11 มกราคม 2554 เปลี่ยนเป็นบริษัท วัตสันฟอเซ็ท จำกัด (WATSON FAUCET CO.,LTD.)

ขณะเดียวกันเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนอย่างน้อย 4 ครั้ง

แรกตั้ง 28 กุมภาพันธ์ 2543 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท

เปลี่ยนแปลงครั้งที่ 1 วันที่ 18 ตุลาคม 2548 ทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท

เปลี่ยนแปลงครั้งที่ 2 วันที่ 28 กันยายน 2550 ทุนจดทะเบียน 6,250,000 บาท

ปัจจุบัน 29 พฤศจิกายน 2553 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท

บัญชี รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2553 นายเสถียร ภู่ประเสริฐ จำนวน 37,500 หุ้น (60%) นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล 22,740 หุ้น (36.38%) นางสาวโฉมสุดา โรจนพิเชฐ 2,250 หุ้น (3.60%) จากจำนวนทั้งหมด 62,500 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล เป็นกรรมการ

จาก การตรวจสอบพบว่า นายเสถียร ภู่ประเสริฐ เป็นกรรมการ โรงพยาบาลพระเก้า ซึ่งมีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เป็นเจ้าของ และกรรมการ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ของนายวิชา พูลวรลักษณ์ และเคยเป็นแพทย์ประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณสมัยเป็นนายกฯ

ขณะ ที่นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล ทำธุรกิจค้าขายเครื่องมือเครื่องจักร เป็นกรรมการที่ยังเปิดดำเนินการปัจจุบัน 7 บริษัท อาทิ บริษัท ที.ซี.เทรดดิ้ง เฮ้าส์ จำกัด บริษัท ที.ซี. เรซิตัน จำกัด บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด เป็นต้น

บริษัท แจ้งผลประกอบการ ปี 2553 รายได้ 1,039,854 บาท กำไรสุทธิ 14,760 บาท สินทรัพย์ 19,597,936 บาท หนี้สิน 19,662,109 บาท ขาดทุนสะสม 2,064,172 บาท (ดูตาราง)

น่า สังเกตว่าในช่วงปี 2543 ที่มีการปล่อยกู้ บริษัท มิลเลนเนียม เฮ้าส์ จำกัด มีรายได้เพียง 3,371,209 บาท ขาดทุนสุทธิ 36,679 บาท สินทรัพย์ 53,387,493 บาท


บริษัทลูกหนี้“คุณหญิงพจมาน”เพิ่มทุนพรวด 700 ล้าน - โอนหุ้นนัวเนีย

จากสำนักข่าวอิสรา

แกะรอยบริษัทลูกหนี้“คุณหญิง พจมาน”พบชื่อลูกชาย-ลูกสาว-หลานชาย“สันติ พร้อมพัฒน์”รมว.พัฒนาสังคมฯ ถือหุ้นใหญ่ เพิ่มทุนพรวด 700 ล้านโอนนัวเนีย 4 ครั้ง ไม่ส่งงบการเงิน

 

บริษัท รัชดา มิลเลเนี่ยม ทาวเวอร์ จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท เจ้าคุณอุตสาหกรรมและการเกษตร จำกัด) ซึ่งมีนายพิชัย พร้อมทวีสิทธิ์ หลานและ น.ส.นิชพรรณ พร้อมพัฒน์ ลูกสาว นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถือหุ้นใหญ่ และมีสถานะเป็น “ลูกหนี้” คุณหญิงพจมาน ชินวัตร (นามสกุลขณะนั้น) จำนวน 160.2 ล้านบาทในช่วงปี 2544 มีการโอนหุ้นไปมาหลายครั้ง 

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า บริษัท รัชดา มิลเลเนี่ยม ทาวเวอร์ จำกัด

จด ทะเบียนวันที่ 4 ธันวาคม 2530 ทุนเริ่มแรก 1 ล้านบาท ปัจจุบัน 801 ล้านบาท ประกอบกิจการซื้อขายฝากที่ดินให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคล และ ซื้อขายที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ในช่วงก่อตั้ง นางฮุ๋ยเอี๋ยว แซ่เล้า พี่สาว นายสันติ ถือหุ้น 200 หุ้น นายสิทธิชัย พิริยะชัยวรกุล 300 หุ้น นางสาวเรณู ป่างศรี 200 หุ้น นายมานะ ป่างศรี 200 หุ้น นายสมหมาย สืบสี 49 หุ้น นายเกษม เหลืองอ่อน 50 หุ้น และนายเชิด ชมพูนุช 1 หุ้น รวม 1,000 หุ้น มูลค่า หุ้นละ 1,000 บาท มีนายสิทธิชัย พิริยะชัยวรกุล เป็นกรรมการ

11 เมษายน 2543 มีผู้ถือหุ้น 7 คน นายพิชัย พร้อมทวีสิทธิ์ (ลูกชายนางฮุ๋ยเอี๋ยว แซ่เล้า มีศักดิ์เป็นหลานชายนายสันติ) 300 หุ้น นายสิทธิชัย พิริยะชัยวรกุล 300 หุ้น นางสาวเรณู ป่างศรี 300 หุ้น นายสมหมาย สืบสี 97 หุ้น นายภาสกร คมหอม นายไพรัตน์ จันทร์รอด และนายธวัชชัย ชีวะเศรษฐธรรม คนละ 1 หุ้น จากจำนวนทั้งหมด 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท

3 ต.ค.2545 มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 คน คือ นายพิชัย พร้อมทวีสิทธิ์ 33,250 หุ้น นายสสิน พิริยะชัยวรกุล 30,051 หุ้น นางสาวเรณู ป่างศรี 37,599 หุ้น จากทุนจดทะเบียน 101 ล้านบาท แบ่งเป็น 101,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท

18 ก.พ.2546 นายสสิน พิริยะชัยวรกุล ได้โอนหุ้นให้ น.ส.นิชพรรณ พร้อมพัฒน์ บุตรสาวนายสันติ จำนวน 30,051 หุ้น

31 ก.ค.2546 เพิ่มทุนเป็น 801 ล้านบาท (เพิ่มจากเดิม 700 ล้าน) นางสาวเรณู ป่างศรี ถือหุ้นใหญ่ 282,599 หุ้น บริษัท บางซื่อ จำกัด (บริษัท พี แอนด์ เอส พัฒนา จำกัด ในกลุ่มนายสันติ พร้อมพัฒน์) จำนวน 210,000 หุ้น นายพิชัย พร้อมทวีสิทธิ์ 103,250 หุ้น น.ส.นิชพรรณ พร้อมพัฒน์ 100,051 หุ้น นายนครินทร์ พร้อมพัฒน์ บุตรชายนายสันติ จำนวน 70,000 หุ้น จากทั้งหมด 801,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท

8 ก.ย.2546 บริษัท อินเตอร์เรเซีย จำกัด เข้ามาถือหุ้นใหญ่ 700,000 หุ้น จากทั้งหมด 801,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท

กระทั่ง 11 มี.ค.2552 นายพิชัย พร้อมทวีสิทธิ์ เข้ามาถือหุ้นใหญ่ 733,250 หุ้นจากทั้งหมด 801,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท (ดูตาราง)

ทั้ง นี้ บริษัท บางซื่อ จำกัด (เข้ามาถือหุ้นในช่วงเพิ่มทุนวันที่ 31 ก.ค.2546 ) จดทะเบียนวันที่ 25 พฤษภาคม 2544 ทุนเริ่มแรก 2 ล้านบาท ปัจจุบัน 120 ล้านบาท ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 99/2494 หมู่ที่ 16 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร บริษัท พี แอนด์ เอส พัฒนา จำกัด (บริษัทในกลุ่มนายสันติ พร้อมพัฒน์ มี น.ส. พีรดา ศรีเครือดง ถือหุ้น 99.98%) ถือหุ้นใหญ่ 98.55% นายวิทยา พร้อมทวีสิทธิ์ น้องชายนายสันติ นายภาสกร ดมหอม นางสาว พีรดา ศรีเครือดง เป็นกรรมการ

บริษัท อินเตอร์เรเซีย จำกัด (เข้ามาถือหุ้นในช่วง 8 ก.ย.2546) จดทะเบียนวันที่ 29 สิงหาคม 2521 ทุนเริ่มแรก 6 ล้านบาท ปัจจุบัน 50 ล้านบาท ประกอบกิจการค้าที่ดิน จัดสรรที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้าง หรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ที่ตั้งสำนักงาน 2 แห่ง1/126 ถนนจรัสเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร และ ที่ตั้งสำนักงานบัญชี เลขที่ 51/416-418 ซ.ลาดพร้าว 130 ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร นางสาวกัญญารัตน์ ทองแถม เครือญาตินางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ภรรยานายสันติ ถือหุ้นใหญ่ 42,748 หุ้น ต่อมาปี 2552 นางสาวศรัญญา เจริญสุข ถือหุ้นใหญ่ 59,998 หุ้น จากทั้งหมด 60,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท (ดูตาราง)

จากการตรวจ สอบพบว่า นางสาวศรัญญา เจริญสุข มีชื่อเป็นกรรมการ บริษัท เอเชียฟอร์จ แอนด์ ออโต้พาร์ท จำกัด ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์ ตั้งอยู่ใน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ทุน 10 ล้านบาท เพิ่งจดทะเบียนเมื่อ 9 สิงหาคม 2555

น่า สังเกตว่า นับจากปี 2543 จนถึงปี 2552 บริษัท รัชดามิลเลนเนียมทาวเวอร์ จำกัด จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นโอนไปมาอย่างน้อย 4 ครั้ง และยังพบว่าไม่ได้ส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหลายปีติดต่อกัน

 


“ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น”ที่ตั้งบริษัท 801 ล้าน -ลูกหนี้“คุณหญิงอ้อ”

จากสำนักข่าวอิสรา

แกะรอยบริษัททุน 801 ล้านคนใกล้ชิด“สันติ พร้อมพัฒน์”ลูกหนี้”คุณหญิงอ้อ 160.2 ล้าน แจ้งเปลี่ยนที่ตั้งหลายครั้ง โยง 2 บริษัทล้มละลาย ล่าสุดใช้ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น กลางกรุงเป็นสำนักงาน 

 

บริษัท รัชดา มิลเลเนี่ยม ทาวเวอร์ จำกัด หรือชื่อเดิม บริษัท เจ้าคุณอุตสาหกรรมและการเกษตร จำกัด ซึ่งมีสถานะเป็น “ลูกหนี้” คุณหญิงพจมาน ชินวัตร (นามสกุลขณะนั้น) จำนวน 160.2 ล้านบาทในช่วงปี 2544 มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงที่ตั้งอย่างน้อย 2 ครั้ง ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 801 ล้านบาท 

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจ สอบพบว่า ขณะชื่อ บริษัท เจ้าคุณอุตสาหกรรมและการเกษตร จำกัด เอกสารคำขอจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุ “ที่ตั้ง”สำนักงานใหญ่ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2536 เลขที่ 51/416-418 หมู่ที่ 2 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ

วัน ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2545 ได้ยื่นจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท รัชดา มิลเลเนี่ยม ทาวเวอร์ จำกัด แจ้งที่ตั้งสำนักงานใหญ่เป็น เลขที่ 1 อาคารรัชดาสแควร์ ทาวเวอร์ ห้อง เอ็ม-101 เอ ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ

ทั้ง นี้ในการประชุมกรรมการบริษัทที่มีนายพิชัย พร้อมทวีสิทธิ์ เป็นประธานที่ประชุม เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2545 ระบุว่า ประชุมกรรมการที่บ้านเลขที่ 70/1 หมู่ที่ 15 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ

ล่าสุดระบุ “ที่ตั้ง” 2 แห่ง แห่งแรก เลขที่ 100/37 ซอยรามคำแหง 118 แยก 48-1 ถนนรามคำแหง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร แห่งที่ 2 (ที่ตั้งสำนักงานบัญชี) เลขที่ 51/416-418 ซอยลาดพร้าว 130 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร (เลขที่เดียวกับที่ตั้งในปี 2536)

สำหรับที่ตั้งแต่ละแห่งจากการตรวจสอบพบข้อมูลดังนี้

1.บ้าน เลขที่ 70/1 หมู่ที่ 15 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งเดียวกับบริษัท บางกอกแมชชีนเซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเครือข่ายกลุ่มนายสันติ พร้อมพัฒน์ (มีน.ส.กัญญารัตน์ ทองแถม และ น.ส. เปรมฤดี พิธพรชัยกุล เป็นกรรมการ) อยู่ในบานะล้มละลาย ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บริษัท บางกอกแมชชีนเซอร์วิส จำกัด ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ในคดีหมายเลขแดงที่ ล.9827/2554 ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2554

2.ที่ ตั้งเลขที่ 1 อาคารรัชดาสแควร์ ทาวเวอร์ ห้อง เอ็ม-101 เอ ถนนเทียมร่วมมิตร เป็นที่ตั้งเดียวกับบริษัท สเตทแมน จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ศรีวราไฮเท็คทาวเวอร์ จำกัด มีนายสมาน เลิศวิทยา เป็นกรรมการ) ศาลล้มละลายกลางได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2552 ให้ บริษัท สเตทแมน จำกัด ล้มละลาย คดีหมายเลขแดงที่ ล.8781/2550

3. ที่ตั้ง เลขที่ 100/37 ซอยรามคำแหง 118 แยก 48-1 ถนนรามคำแหง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น อยู่ในหมู่บ้าน เค.ซี.เลควิว ซอย 2

เมื่อ วันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เดินทางได้ตรวจสอบพบว่า ภายในบ้านเลขที่ดังกล่าวมีรถ mercedes benz จอดอยู่หนึ่งคัน และไม่พบป้ายบริษัทใดติดอยู่ ผู้สื่อข่าวกดกริ่งหน้าบ้าน 2-3 ครั้ง แต่คาดว่าไม่มีคนอยู่

หลัง จากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปยัง Bug 1113 เพื่อขอข้อมูลและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อของบ้านหลังดังกล่าว พบเป็นชื่อของ ณัชชา แม้นพ่วง ซึ่งเป็นผู้จดทะเบียนเบอร์โทรศัพท์ 02-184-5XXX

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปยังหมายเลขดังกล่าว แต่ปลายสายระบุว่า “เลขหมายนี้ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราวค่ะ”


บ.ลูกหนี้“คุณหญิงอ้อ” โยกหุ้น ปล่อยกู้กก.-บริษัทเกี่ยวข้องอื้อ

จากสำนักข่าวอิสรา

สาวลึก“มิลเลนเนียม เฮ้าส์”ลูกหนี้“คุณหญิงอ้อ”38.6 ล้าน โยกหุ้น ปล่อยกู้ กรรมการ-บริษัทเกี่ยวข้องอื้อ แจ้งมีรายได้ปีละ 1-3 ล้าน ก่อนทยอยปลดหนี้เหลือ 12 ล้าน

บริษัท มิลเลนเนียม เฮ้าส์ จำกัด (ชื่อปัจจุบัน บริษัท วัตสัน ฟอเซ็ท จำกัด) “ลูกหนี้”เงินกู้ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร (นามสกุลขณะนั้น) จำนวน 38.6 ล้านบาท (ตั๋วสัญญาใช้เงิน 21 มีนาคม 2543 ดอกเบี้ย ร้อยละ 8 ต่อปี ) นอกจากเปลี่ยน“ชื่อ-เพิ่ม-ลดทุน”หลายครั้ง ยังเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่หลายครั้ง 

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจ สอบพบว่า บริษัท มิลเลนเนียม เฮ้าส์ จำกัด (MILLENIUM HOUSE CO.,LTD) จดทะเบียนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2543 มีผู้ถือหุ้น 7 คน นายอลงกต วงศ์สุวรรณ ถือหุ้นใหญ่ 6,998 หุ้น น.ส.โฉมสุดา โรจนพิเชฐ ถือหุ้นอันดับสอง จำนวน 29,000 หุ้น นายประจวบ ชลชลาธาร นางสิริพร เจริญพรดีงาม นายอวยชัย ศรีคร้าม นายประดิษฐ์ อุดม คนละ 3,500 หุ้น และ น.ส.ทัศนียา กันกำไร 2 หุ้น จากทั้งหมด 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท (ดูตาราง 1 )

วัน ที่ 18 ตุลาคม 2548 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 25 ล้านบาท และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทีซีแอสเซทพลัส จำกัด (T.C.ASSET PLUS CO.,LTD.) มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 คนคือ นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล 113,962 หุ้น และ น.ส.โฉมสุดา โรจนพิเชฐ 129,000 หุ้น จากทั้งหมด 250,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท

วัน ที่ 10 มีนานคม 2549 นายเสถียร ภู่ประเสริฐ 150,000 หุ้น (อดีตแพทย์ประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปัจจุบันกรรมการโรงพยาบาลพระรามเก้าซึ่งมีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ถือหุ้นใหญ่) นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล ลดสัดส่วนเหลือ 90,960 หุ้น น.ส.โฉมสุดา โรจนพิเชฐ 9,000 หุ้น

วัน ที่ 28 กันยายน 2550 ลดทุนจดทะเบียนเหลือ 6,250,000 บาท แบ่งออกเป็น 62,500 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท นายเสถียร ภู่ประเสริฐ ถือหุ้น 37,500 หุ้น นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล 22,740 หุ้น น.ส.โฉมสุดา โรจนพิเชฐ 2,250 หุ้น

กระทั่ง วันที่ 29 พฤศจิกายน 2553 เหลือทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 20,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท นายเสถียร ภู่ประเสริฐ 12,000 หุ้น นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล 7,280 หุ้น น.ส.โฉมสุดา โรจนพิเชฐ 710 หุ้น

ขณะเดียวกันยอดหนี้ของบริษัท มิลเลนเนียม เฮ้าส์ จำกัดตามที่แจ้งในงบการเงินก็ลดลงด้วยเช่นกัน

ปี 2543 บริษัทฯแจ้งว่ามีเงินกู้ยืมระยะสั้น 45,804,007 บาท (หนี้คุณหญิงพจมาน จำนวน 38.6 ล้าน เกิดขึ้น21 มีนาคม 2543)

ปี 2544 เงินกู้ยืมระยะสั้น 34,423,345.88 บาท

ปี 2545 เงินกู้ยืมระยะสั้นเหลือ 25,000,000 บาท

ปี 2546 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลภายนอก จำนวน 25,000,000 บาท

ปี 2547 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลภายนอก 26,000,000 บาท

ปี 2548 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลภายนอก 25,000,000 บาท

ปี 2549 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลภายนอก 25,000,000 บาท

ปี 2550 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลภายนอก 25,000,000 บาท

ปี 2551 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลภายนอก 25,000,000 บาท

ปี 2552 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลภายนอก เหลือ 12,000,000 บาท

ปี 2553 หนี้สินหมุนเวียน 2 รายการ คือ เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลภายนอก 12,000,000 บาท และดอกเบี้ยค้างจ่าย 7,587,945.21 บาท 

อย่าง ไรก็ตาม น่าสังเกตว่าในระหว่างปี 2543 บริษัท มิลเลนเนียมเฮ้าส์ จำกัด มีลูกหนี้เงินให้กู้ยืมแก่กรรมการและกิจการที่เกี่ยวข้องกว่า 43 ล้านบาท และลดลงเหลือ 9 ล้านบาทในปี 2553 (ดูตาราง 2 ) แต่ทว่ามีรายได้ปีละ 1-3 ล้านบาทเศษ (ดูตาราง 3 )

(อ่านประกอบ:บริษัทลูกหนี้“คุณหญิงอ้อ”38.6 ล้าน แปลงกายเปลี่ยนชื่ออุตลุด)


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : บริษัทลูกหนี้ คุณหญิงอ้อ แปลงกาย เปลี่ยนชื่อ อุตลุด

view