สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สินค้าแดง ผลัก ยิ่งลักษณ์ ซวนเซ

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

สภาวะแพงทั้งแผ่นดินกลับมาเป็นปัญหารุมเร้ารัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อีกรอบ แถมยังไร้วี่แววการเอาใจใส่แก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม สวนทางกับความมุ่งมั่นเดินหน้าผลักดันกฎหมายร้อนเข้าสภา

ปัญหาปากท้องชาวบ้านที่ถูกละเลยจึงกลายเป็นปัจจัยกัดกร่อนเสถียรภาพรัฐบาล ซ้ำเติมความวุ่นวายทางการเมืองอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

สอดคล้องกับผลสำรวจจาก “เอแบคโพลล์” ที่ระบุว่า กลุ่มตัวอย่าง 85.2% เห็นว่าของแพง ค่าครองชีพที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยที่สั่นคลอนรัฐบาลมากที่สุด แซงหน้าเรื่องร้อนอื่นๆ ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กฎหมายนิรโทษกรรม หรือ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท

เพราะแน่นอนว่าความเดือดร้อนจากราคาสินค้าที่ถีบตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อปากท้องและเงินในกระเป๋าของชาวบ้าน ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเหมือนการเดินหน้านิรโทษกรรม หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยังมีความเห็นแตกต่างออกเป็นสองฝั่ง

ทั้งนี้ อย่าลืมว่าปัญหาของแพงล้วนแต่เป็นปัญหาใหญ่ที่สั่นคลอนทุกรัฐบาลมาโดยตลอด

ที่สำคัญ “เพื่อไทย” ได้ชูนโยบายเรื่องกระชากค่าครองชีพ ลดรายจ่าย เป็นจุดขายในการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่ทว่าหลังชนะเลือกตั้งมาปีกว่า นอกจากจะไม่สามารถทำได้อย่างที่หาเสียงแล้ว สถานการณ์กลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม

ไม่แปลกที่ “ประชาธิปัตย์” จะหยิบยกประเด็นของแพงมาถล่มในช่วงนี้ ด้วยการสำรวจตลาดและไล่เรียงหยิบยกราคาผักที่แพงขึ้นมาถล่ม ไม่ว่าจะเป็นแตงกวา ที่พุ่งจาก กก.ละ 22 บาท เป็น 40 บาท ถั่วฝักยาว จาก กก.ละ 35 บาท เป็น 70 บาท และมะนาว 6 บาท พุ่งเป็น 9 บาท

พร้อมตอกย้ำด้วยดัชนีชี้วัดของแพงอย่างไข่ไก่ ที่ราคาไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ 3.20 บาท เพิ่มจากสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่ 2.90 บาท

ยังไม่รวมกับราคาค่าก๊าซหุงต้มที่เลื่อนการขึ้นราคาออกไปอีกเดือนหนึ่ง ที่จะส่งผลกระทบให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ต่อเนื่องด้วยแผนการเตรียมขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลในเดือน ต.ค.นี้ เป็นลิตรละ 1.50 บาท ที่จะซ้ำเติมสถานการณ์ของแพงให้หนักขึ้นกว่าเดิม

ที่สำคัญปัญหาสินค้าราคาแพงเวลานี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากผลของความผิดพลาดในการบริหารงานของรัฐบาลเอง ไม่ว่าจะเป็นค่าแรง 300 บาท หรือการโหมโครงการประชานิยมที่ไม่ได้วางแนวทางรองรับ หรือบรรเทาสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

รัฐบาลเองก็รู้ดีว่าปัญหาของแพงเป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลต่อคะแนนนิยม ทำให้ต้องตีวงจำกัด ไม่ให้ถูกรุมถล่มมากกว่านี้ แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า และปล่อยให้ทีมงานออกมาชี้แจงว่า เรื่องของแพงเป็นไปตามฤดูกาลที่มีการปรับตัวสูงขึ้นในหน้าร้อน พร้อมอ้อนวอนไม่ให้นำมาขยายผลเป็นเรื่องการเมือง

ยิ่งหากดูผลงานการแก้ปัญหาของแพงย้อนหลังที่ผ่านมา ยิ่งน่าเป็นห่วงที่จะคลี่คลายสถานการณ์ของแพงรอบนี้ เมื่อรูปแบบการแก้ปัญหาของรัฐบาลยังวนเวียนอยู่กับการทุ่มงบเข้าไปแทรกแซง ราคา หรือจัดโครงการขายของถูก ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างเป็นระบบ

รอบที่แล้วกระทรวงพาณิชย์มีนโยบาย “ร้านถูกใจ” ที่จะขายของถูกกว่าตลาด 20% โดยตั้งเป้าจะเปิดให้ได้ 1 หมื่นร้าน แต่สุดท้ายนอกจากจะไม่สามารถหาของถูกมาขายได้จริง ร้านก็เปิดไม่ได้ตามเป้า สุดท้ายก็ค่อยๆ ทยอยปิดตัว ทำให้งบประมาณ 1,320 ล้านบาท ที่ทุ่มลงไปเสียเปล่า

การตรึงราคาสินค้าควบคุมหลายรายการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ที่ผ่านมาก็ทำได้แบบกระท่อนกระแท่น ขณะที่โครงการธงฟ้าขายสินค้า อาหาร ราคาถูก ก็ยังจำกัดอยู่แค่ในบางพื้นที่ ไม่สามารถกระจายไปให้บริการในทุกพื้นที่ได้แบบทั่วถึง

รอบนี้ทุกอย่างก็ยังวนเวียนอยู่ในรูปแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดร้านโชสวย หรือการจัดขายไข่ไก่ราคาถูกผ่านโลตัส บิ๊กซี ฯลฯ

ขณะที่ฝั่งรายได้ของชาวบ้านที่เหมือนจะเพิ่มขึ้น แต่สุดท้ายก็ไล่ไม่ทันค่าครองชีพที่ขยับไปสูงกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา สัดส่วนหนี้สินต่อรายได้อยู่ที่ 0.82% เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ 0.74%

หากมองในส่วนของรายได้ โดยเฉพาะจากภาคเกษตร ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ของประเทศ กลับไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น ยิ่งมีแต่จะซ้ำเติมสถานการณ์ให้รุนแรงยิ่งขึ้น

หากรัฐบาลยังไม่สามารถสร้างหลักประกันว่าจะแก้ไขปัญหาของแพงให้เป็น รูปธรรม ย่อมมีแต่จะฉุดให้คะแนนนิยมของรัฐบาลลงเรื่อยๆ เมื่อผนวกกับการเตรียมเดินหน้าผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม แก้ไขรัฐธรรมนูญ ย่อมทำให้เส้นทางการบริหารงานของรัฐบาลต่อจากนี้ยากลำบากมากขึ้น


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : สินค้าแดง ยิ่งลักษณ์ ซวนเซ

view