สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ขุดข้อมูล เฉลิม อยู่บำรุง ฉายหนังม้วนเก่า ซัด 3 ทุนใหญ่โค่นยิ่งลักษณ์?

ขุดข้อมูล“เฉลิม อยู่บำรุง”ฉายหนังม้วนเก่า ซัด 3 ทุนใหญ่โค่นยิ่งลักษณ์?

จากสำนักข่าวอิสรา

แกะรอย“เฉลิม อยู่บำรุง”ฉายหนังม้วนเก่า ซัด 3 กลุ่มทุนใหญ่ลงขันปลุกม็อบโค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไฉน!แค้นฝังหุ่นทุนน้ำเมา-แบงก์กรุงเทพ?

กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์แบบขี่ม้าเลียบค่ายเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2556 ทำนองว่า ขอให้กลุ่มธุรกิจ 3 กลุ่มที่สนับสนุนม็อบโค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้แก่ “ธุรกิจธนาคารหนึ่งคน ขายหมูเห็ดเป็ดไก่หนึ่งคน และขายของเมาอีกคน” ขอให้หยุดสนับสนุนเงินทุน

สองกลุ่มหลังแม้ ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้ระบุตรงไปตรงมา แต่พอรู้กันว่าผู้ถูกพาดพิงเป็นกลุ่มทุนใด?

กระนั้น ก็ยังไม่มีข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ว่าข้ออ้างดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่?

ทว่ากรณีกลุ่มทุนธนาคารที่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอ้าง หากย้อนไปดูคำอภิปรายของ ร.ต.อ.เฉลิมในอดีตพอคาดเดาได้ไม่ยาก?

ใน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้กล่าวถึงกรณีการบุกรุกที่ดินบนเขาสอยดาว จ.จันทบุรี ว่า ได้ตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลในเรื่องนี้ ตั้งแต่ปี 2532 แต่มาถูกคณะรักษาความสงบและเรียบร้อยแห่งชาติ ( รสช.) ยึดอำนาจก่อน จึงต้องหยุดการตรวจสอบเรื่องนี้ไป แต่เมื่อเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็ได้ตรวจสอบเรื่องนี้อีก ครั้ง คดีกลับมาติดอยู่ที่อัยการ เขาลือกันว่ามีธนาคารบางแห่งสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ และมีบริษัทน้ำเมาแห่งหนึ่งออกเงินให้เยอะแยะเพื่อมาล้มพวกตน

“กรณี ที่ดินเขาสอยดาวนี้น่าสงสัยว่าคนในตระกูลโสภณพนิช เป็นผู้ครอบครองที่ดิน 4,000 กว่าไร่ และมี 400 กว่าไร่ที่บุกรุกป่าสงวน แล้วนายชาตรี โสภณพนิช ประธานแบงก์กรุงเทพ เอาโฉนดที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมาจำนองกับธนาคารกรุงเทพ เพื่อกู้เงิน ซึ่งเป็นเงินฝากของประชาชน เพื่อเอามาซื้อที่ดินในบริเวณนี้ ผมท้าให้นายชาตรีฟ้องร้องได้เลย และใส่ชื่อนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไว้ในบัญชีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ขณะ ที่ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงว่า เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวหาพาดพิงตระกูลโสภณพนิชซึ่งเป็นบุคคลภายนอก จึงไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ดังนั้นขอให้ไปเจอกันที่ศาลก็แล้วกัน

ต่อ มาในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้นเดือนกรกฎาคม 2555 นักการเมืองพรรคเพื่อไทยคนหนึ่งออกมาปล่อยข่าวทำนองว่านักการเมืองใหญ่ภาค ใต้อักษรย่อ ส. จับมือนักการเมืองใหญ่ภาคอีสานอักษรย่อ น. ลงขันกับนักธุรกิจน้ำเมาด้วยเงิน 6,000 ล้านบาท ปั่นกระแสสร้างสถานการณ์ให้ทหารออกมารัฐประหารโค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
จากนั้นข่าวชิ้นนี้ก็จางหายไป

อย่าง ไรก็ตาม ถ้าพิจารณาจากผู้สนับสนุนเงินบริจาคพรรคการเมืองตามที่มีการเปิดเผยโดยสำนัก งานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พบว่า ตระกูลโสภณพนิช กลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี และกลุ่มซี.พี.ของตระกูลเจียรวนนท์ เป็นผู้บริจาคเงินรายใหญ่ให้พรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด

เดือนตุลาคม 2543 คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช บริจาค 50,000 บาท

เดือนพฤศจิกายน 2543 นายชาตรี โสภณพนิช บริจาค 600,000 บาท

เดือนธันวาคม 2543 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช บริจาค 2,000,000 บาท (ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปปี 2544)

เดือนมกราคม 2548 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช บริจาค 1,500,000 บาท

เดือนกุมภาพันธ์-ธันวาคม 2548 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช บริจาคหลายครั้ง รวม 1,500,000 บาท

เดือน พฤศจิกายน 2551 นายชาญ โสภณพนิช บริจาค 1,000,000 บาท บริษัท วัฒนาโชติ จำกัด (ของตระกูลโสภณพนิช) 1,000,000 บาท ธนาคารกรุงเทพ 1,000,000 บาท

เดือนพฤศจิกายน 2552 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช บริจาค 5,000,000 บาท

รวมนับสิบล้านบาท

ขณะ ที่บริษัทของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าพ่อน้ำเมา บริจาคเงินให้ประชาธิปัตย์ 3 ช่วง ช่วงแรก เดือนธันวาคม 2543 (ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 6 มกราคม 2544) ในนามบริษัท แสงโสม จำกัด 600,000 บาท ช่วงที่สองเดือนพฤศจิกายน 2551 บริษัท ทีซีซีแลนด์ จำกัด 100,000 บาท ช่วงที่สามในงานระดมทุนของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อต้นปี 2554 จำนวน 51 ล้านบาทผ่านบริษัทเครือข่ายถึง 18 บริษัท (ก่อนการเลือกตั้งเดือน ก.ค.2554)

ส่วนกลุ่ม ซี.พี.บริจาคผ่านบริษัทในเครือให้พรรคประชาธิปัตย์ในช่วงปี 2554 จำนวน 65.9 ล้านบาท

จาก การตรวจสอบพบว่า นายชัย โสภณพนิช เคยบริจาคเงินให้พรรคไทยรักไทยในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพียงครั้งเดียว เมื่อปี 2548 จำนวน 3 ล้านบาท และไม่ปรากฏชื่อบริษัทในกลุ่มเป็นผู้บริจาคในยุคพรรคเพื่อไทย

นอกจากนี้ในช่วงกลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปี 2553

ได้ พุ่งเป้าโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงเชื่อว่าเป็นหัวหน้าอำมาตย์และมีความสัมพันธ์พิเศษกับ นายชาตรี โสภณพนิช เป็นพิเศษ

เพราะฉะนั้นด้วยเหตุผลนี้หรือไม่ ที่ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิมออกมาฉายหนังม้วนเก่าอีกครั้ง?


“เสี่ยบุญชัย”เมียสวย เหยื่อตีกินของ“เฉลิม” ส่งท่อน้ำเลี้ยง โค่นปู?

วันอังคารที่ 04 มิถุนายน 2013 เวลา 20:00 น. เขียนโดย isranews

พลิกนายทุน ปชป.หาตัวอดีตนักธุรกิจสื่อสาร มีเมียสวย เหยื่อตีกินรายล่าสุดของ“เฉลิม อยู่บำรุง”หลังปูดชุดข้อมูล ส่งท่อน้ำเลี้ยงให้นักการเมือง ส.โค่นรัฐบาลปู?

นอก จาก 3 กลุ่มธุรกิจที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหาก่อนหน้านี้ว่าอยู่เบื้องหลังสนับสนุนม็อบ)โค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือ ธุรกิจธนาคาร ขายหมูเห็ดเป็ดไก่ และขายของเมา

 

(อ่านประกอบ :ขุดข้อมูล“เฉลิม อยู่บำรุง”ฉายหนังม้วนเก่า ซัด 3 ทุนใหญ่โค่นยิ่งลักษณ์?)

ล่าสุดวันที่ 4 มิถุนายน 2556 ร.ต.อ.เฉลิมออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองเดิมแต่ได้เพิ่มข้อมูลอีก 1 ราย

“เมื่อ เช้าได้ข่าวมาอีกอันหนึ่ง เตือนด้วยความรักเคารพ อดีตนักธุรกิจสื่อสารที่ได้เมียสวยมีข่าวไปทั้งประเทศยังพยายามไปสนับสนุน เพราะมีลูกน้องตกค้างอยู่ในแวดวงที่คิดล้มรัฐบาล”

“ผม เตือนนักธุรกิจ เงินก็มีแล้ว เมียก็สวย เป็นข่าวทั้งประเทศ คุณแต่งงานคุณก็เอาเปรียบผม ตอนหนุ่มๆ ผมแต่งงานไม่เป็นข่าว นี่ข่าวคุณออกทั้งประเทศ แล้วคุณมายุ่งกับเขาทำไม พาเมียไปฮันนีมูน อย่าเอาเงินส่งมาให้ไอ้ ส.”

แม้ ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้กล่าวตรงไปตรงมา (อีกครั้ง)ว่าผู้ถูกพาดพิงเป็นใคร?

กระนั้นหากโฟกัสไปที่พรรคประชาธิปัตย์คู่แข่งก็จะคาดเดาไม่ยาก

หาก พลิกรายชื่อผู้บริจาคของพรรคประชาธิปัตย์นับตั้งแต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้เปิดเผยเงินบริจาคในปลายปี 2543 จนถึงเดือนเมษายน 2554 ผู้บริจาคมากสุดคือ บริษัทในเครือ ซี.พี. จำนวน 65.9 ล้านบาท

รอง ลงมา นายประกอบ จิรกิติ ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเครือญาติ ผู้บริหารกลุ่มยูคอม ประกอบด้วย นายประทีป จิรกิติ ประเสริฐ จิรกิติ นางสิริกานต์ ทองไท และ นางสาวสมรศรี จิรกิติ รวมทั้งสิ้น 58.9 ล้านบาท

เมื่อ โฟกัสไปที่นายประกอบก็พบว่าเป็นอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นสามี นางวรรณา จิรกิติ ซึ่งเป็นน้องสาวนายบุญชัย เบญจรงคกุล นักธุรกิจดังเจ้าของกลุ่มยูคอม และเพิ่งแต่งงานกับ น.ส.บงกช คงมาลัย (ตั๊ก) ดารานักแสดงดังและตกเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศเมื่อไม่นานมานี้

ทั้ง นี้ ปัจจุบันนายบุญชัยเป็นเจ้าของกลุ่มเบญจจินดาโฮลดิ้ง ถือหุ้นรวม 30 บริษัท จำนวน 7,612,762 หุ้น มูลค่าหุ้นตามทุนจดทะเบียน 597,521,090 บาท

บริษัทที่นายบุญชัยถือครองหุ้นมูลค่ามากที่สุด 5 อันดับ

1. บริษัท วาย แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด 2,375,000 หุ้น มูลค่า 237.5 ล้านบาท

2.บริษัท ไพรเวท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด 1,865,000 หุ้น มูลค่า 186.5 ล้านบาท

3.บริษัท สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. จำกัด 678,837 หุ้น มูลค่า 67,883,700 บาท

4.บริษัท เบญจจินดา โฮลดิ้ง จำกัด 400,000 หุ้น มูลค่า 40 ล้านบาท

5.บริษัท รักบ้านเกิด จำกัด 1,200,000 หุ้น มูลค่า 30.6 ล้านบาท

นาย สมชาย เบญจรงคกุล เมื่อครั้งรับตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี วันที่ 11 ตุลาคม 2540 มีทรัพย์สินรวม 525,042,498.66 บาท ในจำนวนนี้ 2 รายการเป็นเงินฝาก 271,242,498.66 บาท ที่ดิน 103,400,000 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 265,988,615.37 บาท 

นาย วิชัย เบญจรงคกุล เมื่อครั้งรับตำแหน่งประสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี วันที่ 11 ตุลาคม 2540 มีทรัพย์สิน 834,393,881.21 บาท ในจำนวนนี้ 3 รายการเป็นเงินฝาก 417,542,446.21 บาท เงินลงทุน 260,336,935 บาท เงินให้กู้ยืม 115,000,000 บาท ไม่มีหนี้สิน นางจุฑามาศ คู่สมรส มีทรัพย์สิน 163,186,461.18 บาท ในจำนวนนี้เป็นเงินฝาก 73,415,661.18 บาท ไม่มีหนี้สิน บุตรไม่บรรลุนิติภาวะมีทรัพย์สิน 2,861,521.53 บาท รวมทรัพย์สินทั้งครอบครัว 1,000,441,863.92 บาท

ขณะ ที่ นางวรรณา จิรกิติ เมื่อครั้งนายประกอบ จิรกิติ รับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 22 มกราคม 2551 มีทรัพย์สิน 2,070,979,328.17 บาท นายประกอบ มีทรัพย์สิน 411,531,081.54 บาท รวมทั้งสิ้น 2,482,510,409.71 บาท

ดังนั้น ถ้าอดีตนักธุรกิจสื่อสารรายนี้คือนายบุญชัย เท่ากับ สามี“ตั๊ก บงกช” ตกเป็นเหยื่อตีกินทางการเมืองของ ร.ต.อ.เฉลิม อีกราย?
……

อ่านประกอบ:

เปิดขุมทรัพย์เจ้าสัว“บุญชัย”1.7 หมื่นล้าน “เมียเก่า”ถือหุ้น ไม่มี“ตั๊ก-บงกช”

ขุมทรัพย์นอกบัญชีฯ“บุญชัย” 3 พี่น้องเบญจรงคกุล 4 พันล้าน


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ขุดข้อมูล เฉลิม อยู่บำรุง ฉายหนังม้วนเก่า ซัดทุนใหญ่ โค่นยิ่งลักษณ์

view