สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เปิดตัว 4 โครงการดูงาน หลักสูตรนิติฯ ม.บูรพา ฉาว!! นิสิต ยัน ไม่เคยไป ไฉนมีชื่อเบิกเงิน?

เปิดตัว 4 โครงการดูงาน หลักสูตรนิติฯ ม.บูรพา ฉาว!! นิสิต ยัน ไม่เคยไป ไฉนมีชื่อเบิกเงิน?

จากสำนักข่าวอิสรา

"..ตั้งแต่เข้าเป็นนิสิต ได้ลงลายมือชื่อแค่ตอนเข้าเรียนที่มีเจ้าหน้าที่ของทางคณะใส่แฟ้มมาให้เซ็น ระหว่างเรียนเท่านั้น และไม่เคยลงลายมือชื่อด้วยวัตถุประสงค์อื่นใด.."  

กรณี ปรากฏข้อมูลว่า อาจารย์กลุ่มหนึ่ง ได้ปลอมลายมือชื่อนิสิตปริญญาโท รุ่น 2 รหัส 54 คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อนำไปเบิกจ่ายเงินงบประมาณ เดินทางไปศึกษาดูงานด้านกฎหมาย ที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งที่ มีการยืนยันข้อมูลจากนิสิต ว่า ไม่เคยได้เดินทางไปดูงานโครงการดังกล่าว ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข้อเท็จจริงไปก่อนหน้านี้ นั้น

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจ สอบข้อมูลเอกสาร ที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนข้อเท็จจริงโครงการศึกษาดูงานด้านกฎหมายนอกสถาน ที่ ของ นิสิตปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

พบ ว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา ผู้ช่วยศาสตรจารย์ ว่าที่เรือตรี ดร.เอกวิทย์ มณีธร คณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ได้ทำบันทึกข้อความ เลขที่ ศธ 6612/0195 ถึง นิสิตหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มสาขาวิชากฎหมายมหาชน และกลุ่มสาขาวิชากฎหมายอาญาและอาชญวิทยา ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ตอบรับยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรแก่คณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง เรื่องการศึกษาดูงานของนิสิต 

โดย ระบุว่า "..ตามคำสั่ง คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ที่ 0002/2556 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริง กรณีการบริหารหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ลงวันที่ 15 มกราคม 2556 นั้น ตามเอกสารคำสั่ง ดังกล่าว เพื่อให้การปฏิบัติงานของคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องและรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

ที่ ประชุมคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2556 จึงมีมติให้เรียกบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการในหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิตรอบดำเนินการ ปี 2555 มาให้ข้อมูลยืนยันเพิ่มเติมแก่คณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเพื่อนำไปประกอบ การทำรายงานข้อเท็จจริงเสนอต่อคณบดีต่อไป

ทั้งนี้ ในส่วนโครงการที่ให้นิสิตยืนยันข้อมูล มีอยู่ 4 โครงการ ประกอบไปด้วย

1.โครงการ ศึกษาดูงานหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ที่สำนักงานอัยการ จ.เชียงใหม่ และสำนักงานคุมประพฤติ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25 – 28 ตุลาคม 2555 งบประมาณ 199,200 บาท มีจำนวนนิสิตเข้าร่วมโครงการจำนวน 84 คน

2.โครงการ ศึกษาดูงานนอกสถานที่หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กระทรวงยุติธรรม, สถาบันกฎหมายอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.), ศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 9 – 10 สิงหาคม 2555 งบประมาณ 192,000 บาท จำนวนนิสิตเข้าร่วมโครงการจำนวน 202 คน

3.โครงการ ปฐมนิเทศนิสิตใหม่และเตรียมความพร้อมหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ที่เดอะเซส บางแสน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2555 งบประมาณ 137,500 บาท จำนวนนิสิตเข้าร่วมโครงการ 246 คน

และ 4.โครงการศึกษาดูงานนอกสถานที่หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ที่สำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม, สถาบันกฎหมายอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด, ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 16 – 17 มกราคม 2555 งบประมาณ 212,400 บาท จำนวนนิสิตเข้าร่วมโครงการจำนวน 246 คน

ทั้ง นี้ ในบันทึกข้อความดังกล่าวย้ำว่า เนื่องจากมีนิสิตเป็นผู้เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก คณะกรรมการฯ จึงเห็นควรให้ดำเนินการในลักษณะให้ท่านทำหนังสือยืนยันใน 2 ประเด็น คือ

1.ยืนยันการเข้าร่วมหรือไม่ได้เข้าร่วมในโครงการต่าง ๆ

และ 2.ยืนยันว่าเป็นลายเซ็น /ไม่ใช่ของตนเอง ตามที่ปรากฏลายมือชื่อในโครงการดังกล่าวข้างต้น เพื่อเป็นเอกสารประกอบการพิจารณาการสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป

เบื้อง ต้น มีนิสิตปริญญาโทรายหนึ่ง ให้ยืนยันข้อมูลว่า ไม่รู้เรื่องโครงการดังกล่าวแม้แต่โครงการเดียว และเพิ่งทราบว่ามีโครงการดูงานนอกสถานที่จากหนังสือข้างต้น

นิสิตปริญญาโทรายนี้ ยืนยันว่า ตั้งแต่ เข้าเป็นนิสิตคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา ได้ลงลายมือชื่อแค่ตอนเข้าเรียนที่มีเจ้าหน้าที่ของทางคณะใส่แฟ้มมาให้เซ็น ระหว่างเรียนเท่านั้น และไม่เคยลงลายมือชื่อด้วยวัตถุประสงค์อื่นใดอีก

“ลาย มือชื่อตามเอกสารที่อ้างมานั้น ไม่ใช่ของข้าพเจ้า และไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่ข้าพเจ้าประสงค์จะลงรายมือชื่อในเอกสารดังกล่าว” นิสิตปริญญาโทรายนี้ ระบุ

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ ผู้ช่วยศาสตรจารย์ ว่าที่เรือตรี ดร.เอกวิทย์ มณีธร คณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ให้ยืนยันข้อเท็จจริง

แต่ไม่สามารถติดต่อได้

ขณะ ที่ รศ.อัฌชา ก.บัวเกษร รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา ยืนยันกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ไม่สามารถพูดเรื่องนี้ได้ ....เนื่องจากเป็นคำสั่งของอธิการบดี?  

 


บิ๊ก ม.บูรพา อ้างอธิการฯ สั่งปิดปากปมสอบอาจารย์นิติฯ ปลอมลายมือ นิสิตฯ ดูงาน “ลม”

วันเสาร์ที่ 01 มิถุนายน 2013 เวลา 12:11 น. เขียนโดย isranews

บิ๊ก ม.บูรพา ปิดปากเงียบ ปมสอบอาจารย์นิติฯ ปลอมลายมือชื่อ นิสิตฯ เบิกงบประมาณโครงการศึกษาดูงาน “เท็จ" อ้างอธิการฯ สั่งห้ามให้ข้อมูล -พบอีก 3 โครงการใหม่ ส่อ “ลม”

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง รศ.อัฌชา ก.บัวเกษร รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อขอสัมภาษณ์ความคืบหน้าเกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการสอบสวน อาจารย์ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ กลุ่มหนึ่ง ที่ถูกกล่าวหาว่า มีการปลอมแปลงเอกสารหลายชิ้น เพื่อทำเรื่องเบิกจ่ายเงินงบประมาณ โครงการศึกษาดูงานด้านกฎหมาย ที่จังหวัดเชียงใหม่ ของนิสิต ปริญญาโท ในระหว่างวันที่ 25-28 ตุลาคม 2555 แต่ไม่ได้มีการเดินทางไปดูงานจริง

อย่างไรก็ตาม รศ.อัฌชา ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล โดยระบุว่า “ไม่สามารถพูดเรื่องนี้ได้ เนื่องจากเป็นคำสั่งของอธิการบดี ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ ศ.นพ.สมพล พงศ์ไทย อธิการบดี ม.บูรพา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ 

 

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงาน ว่า ล่าสุดนอกเหนือจากโครงการศึกษาดูงานด้านกฎหมาย จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกตรวจสอบพบว่า ไม่ได้มีการเดินทางไปดูงานจริงแล้ว ยังมีโครงการศึกษาดูงาน อีก 3 ครั้ง ที่ส่อว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน ได้แก่

1. โครงการศึกษาดูงานนอกสถานที่หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กระทรวงยุติธรรม, สถาบันกฎหมายอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.), ศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 9 – 10 สิงหาคม 2555 งบประมาณ 192,000 บาท จำนวนนิสิตเข้าร่วมโครงการจำนวน 202 คน

2.โครงการ ปฐมนิเทศนิสิตใหม่และเตรียมความพร้อมหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ที่เดอะเซส บางแสน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2555 งบประมาณ 137,500 บาท จำนวนนิสิตเข้าร่วมโครงการ 246 คน

3. โครงการศึกษาดูงานนอกสถานที่หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ที่สำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม, สถาบันกฎหมายอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด, ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 16 – 17 มกราคม 2555 งบประมาณ 212,400 บาท จำนวนนิสิตเข้าร่วมโครงการจำนวน 246 คน

ทั้ง นี้ เมื่อนับรวมโครงการศึกษาดูงานด้านกฎหมาย ที่สำนักงานอัยการ จ.เชียงใหม่ และสำนักงานคุมประพฤติ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25 – 28 ตุลาคม 2555 งบประมาณ 199,200 บาท มีจำนวนนิสิตเข้าร่วมโครงการจำนวน 84 คน ที่มีการเปิดเผยข้อมูลไปก่อนหน้านี้ 

โครงการศึกษาดูงานที่ส่อว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นทั้งหมด มีจำนวน 4 โครงการ รวมวงเงินทั้งสิ้น 741,100 บาท


อัยการจังหวัดเชียงใหม่ ยันถูกปลอมลายมือชื่อ เบิกจ่ายงบดูงาน ป.โท ม.บูรพา

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม 2013 เวลา 18:55 น. เขียนโดย isranews

อัยการจังหวัดเชียงใหม่ ยันถูกปลอมลายมือชื่อ เบิกจ่ายงบดูงาน ป.โท ม.บูรพา – คนใน วอนผู้บริหารยุติปัญหาโดยด่วน หลังนิสิต เสียงแตก ฝ่ายหนุน อาจารย์ - ต้าน ทะเลาะ กันหนัก ถึงขั้นเกลียด ด่าเนรคุณ กลัวเรียนไม่จบ 

 

กรณีการ ร้องเรียนอาจารย์ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ปลอมลายมือชื่อ นิสิต ปริญญาโท จำนวน 90 ราย เบิกจ่ายเงินงบประมาณในการเดินทางศึกษาดูงาน ที่ สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 25-28 ตุลาคม 2555 ตามข่าวที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานก่อนหน้านี้นั้น 

(อ่านประกอบ นิสิต ร้อง อาจารย์ คณะนิติฯ ม.บูรพา ส่อปลอมลายมือชื่อ- เบิกเงินดูงาน “เท็จ”)

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2556 นายพูนศักดิ์ ศรีเจริญ อัยการจังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 25-28 ตุลาคม 2555 ไม่เคยมีนิสิตปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เดินทางมาดูงาน ที่สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ ตามที่การนำไปกล่าวอ้างในเอกสารการเบิกจ่ายเงินของคณะรัฐศาสตร์และ นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา แต่อย่างใด

“ ผมได้ทำหนังสือแจ้งไปให้ทาง คณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ รับทราบแล้วว่า ไม่เคยมีนิสิตปริญญาโท มาดูงานที่สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่แต่อย่างใด ส่วนจะเป็นผลอะไรต่อไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องที่ทางมหาวิทยาลัยบูรพา จะต้องไปพิจารณากันเอง”

เมื่อ ถามว่า ในการเสนอเรื่องเบิกจ่ายงบประมาณดูงานโครงการฯ ดังกล่าว มีการระบุถึงเอกสารการตอบรับการดูงาน ที่ออกให้โดยสำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า ทางสำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ทราบเรื่องการดูงานอะไรมาก่อน และไม่เคยมีการทำหนังสือตอบรับไป

“เอกสารที่นำไปใช้ในการตั้งเบิกงบประมาณ เป็นเอกสารปลอมที่ทำขึ้นมาเอง ”

เมื่อ ถามว่า กรณีนี้ มีการแอบอ้างชื่อสำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เสียหาย จะฟ้องร้องดำเนินคดีอะไรกับผู้เกี่ยวข้องหรือไม่ อัยการจังหวัดเชียงใหม่ ตอบว่า “เราคงไม่ได้ทำอะไร เพราะเราไม่ใช่ผู้เสียหาย ผู้เสียหายจริงๆ คือ มหาวิทยาลัย เพราะเป็นผู้จ่ายเงินไป ส่วนมหาวิทยาลัยจะดำเนินการอะไรก็เป็นเรื่องของเขาเราไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ด้วย”

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่โครงการศึกษาดูงานของนิสิต ปริญญาโท รุ่น ที่ 2 รหัส 54 จำนวน 90 ราย ที่ สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 25-28 ตุลาคม 2555 ถูกตรวจพบว่ามีการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อตั้งเรื่องเบิกจ่ายงบประมาณ นายพูนศักดิ์ ศรีเจริญ ได้ทำหนังสือ ไปถึงคณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ยืนยันว่า ไม่เคยได้รับหนังสือเข้าศึกษาดูงาน จากมหาวิทยาลัยบูรพา และไม่ได้ลงลายมือชื่อ ในหนังสือตอบรับการดูงานแต่อย่างใด

 

(อ่านประกอบในเรื่อง : จับพิรุธ! อาจารย์นิติฯ ม.บูรพา ปลอมลายมืออัยการ เบิกเงินค่าดูงาน ป.โท -ทำพลาดตรงไหน?)

 

แหล่งข่าวจาก มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในจำนวนนิสิตปริญญาโท รุ่น 2 รหัส 54 ที่ถูกปลอมลายมือชื่อ เบิกจ่ายเงินโครงการศึกษาดูงาน ที่สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ มีนิสิตคนหนึ่ง ที่กำลังบวชเป็นพระ และในช่วงวันที่ 25-28 ตุลาคม 2555  ก็อยู่ที่วัดไม่ได้ไปไหน จึงเป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า มีการปลอมแปลงลายมือชื่อนิสิตเกิดขึ้นจริง 

แหล่ง ข่าวรายนี้ กล่าวต่อไปว่า ต้องการให้ผู้บริหารของมหาวิทยาลัย รีบออกมาเคลียร์เรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เพราะนับตั้งแต่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น นิสิต ป.โท ในรุ่น 2 ที่ปรากฎชื่อเป็นกลุ่มที่เดินทางไปดูงานที่สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ มีความแตกแยกกันเกิดขึ้น  

นิสิต ฝ่ายหนึ่งก็สนับสนุนอาจารย์เพราะมองว่าเป็นเรื่องการเมืองภายใน จากการแย่งชิงตำแหน่งผู้บริหาร ทำให้ถูกใส่ร้าย และไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่ต้องเสียเงินเรียนเพิ่มก็พอแล้ว 

ส่วน นิสิตอีกฝ่ายหนึ่ง ที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มหาวิทยาลัย ตรวจสอบเรื่องนี้ มองว่า เป็นเรื่องใหญ่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน เพราะมีหลักฐานการกระทำความผิดปรากฎชัดเจน ไม่ยอมให้เรื่องเงียบ พร้อมที่จะต่อสู้เพื่อเรียกร้องความถูกต้องต่อไป แม้จะถูกต่อว่าว่าเป็นพวกเนรคุณอาจารย์

ทำให้เกิดการทะเลาะกันรุนแรงของทั้งสองฝ่ายบางคนถึงขั้นเกลียดกันไปเลย

“ ตอนนี้นิสิตหลายคนที่ออกมาต่อต้านอาจารย์ที่ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ เรื่องการปลอมแปลงลายมือชื่อ กำลังมีความกังวลอย่างมาก ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการเรียน เนื่องจากอาจารย์ที่ถูกระบุว่ามีปัญหาก็ยังมีอำนาจอยู่ สามารถชี้เป็นชี้ตายเรื่องการเรียนว่าจะจบหรือไม่จบได้ มหาวิทยาลัยควรจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่างโดยเร็ว" แหล่งข่าวกล่าว 

และเสนอว่า  "ถ้า ไม่ย้ายอาจารย์คนนี้ออกจากตำแหน่งไปก่อน ระหว่างรอผลการตรวจสอบ ก็ควรรีบสรุปผลการสอบสวนให้เร็วที่สุด ถ้าอาจารย์ไม่ผิดก็ไม่ผิด จะได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองด้วย ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ทำอะไร มีแต่ผลเสียที่จะเกิดขึ้น”


อาจารย์ ม.บูรพาใช้ชื่อร้านเบเกอรี่“ผี”เบิกเงิน“ค่าของว่าง”ปฐมนิเทศนิสิตฯป.โท

วันอังคารที่ 04 มิถุนายน 2013 เวลา 17:33 น. เขียนโดย isranews

เปิดข้อมูลใหม่ อาจารย์ ม.บูรพา อ้างชื่อร้านเบเกอรี่“ผี” เบิกเงินค่าของว่าง งานปฐมนิเทศนิสิตฯ ป.โท

 

นอก เหนือจากการปลอมแปลงเอกสารตอบรับการดูงาน และลายมือชื่อผู้มีอำนาจของหน่วยงาน อาทิ สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ วิทยาลัยการยุติธรรมทางปกครอง สำนักงานศาลปกครอง เพื่อนำไปใช้ประกอบเป็นหลักฐานการตั้งเบิกเงินงบประมาณ โครงการศึกษาดูงานของ นิสิตปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ หลักสูตรนิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา จำนวน 2 โครงการ คือ

1.โครงการ ศึกษาดูงานหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ที่สำนักงานอัยการ จ.เชียงใหม่ และสำนักงานคุมประพฤติ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25 – 28 ตุลาคม 2555 และ

2.โครงการ ศึกษาดูงานนอกสถานที่หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กระทรวงยุติธรรม, สถาบันกฎหมายอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.), ศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 9 – 10 สิงหาคม 2555

ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า โครงการปฐมนิเทศนิสิตใหม่และเตรียมความพร้อมหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ที่เดอะเซส บางแสน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2555 งบประมาณ 137,500 บาท ซึ่งระบุว่ามีจำนวนนิสิตเข้าร่วมโครงการ 246 คน ก็ส่อว่าจะมีการนำเอกสารเท็จมาใช้ในการตั้งเรื่องเบิกงบประมาณโครงการเช่น กัน

กล่าวคือ ในการตั้งเรื่องเบิกเงินงบประมาณโครงการนี้ มีการระบุค่าใช้จ่ายในส่วน ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม เช้า 250 ชุด และบ่าย 250 ชุด คิดจำนวนหน่วยละ 30 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 15,000 บาท

จากการตรวจสอบพบว่า เอกสารที่นำมาใช้ในการตั้งเรื่องเบิกเงินงบประมาณดังกล่าว คือ ใบเสร็จรับเงิน จาก “ร้าน มานะ เบเกอรี่” แจ้งที่อยู่เลขที่ 47/2 หมู่ที่ 4 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี แจ้งโทรศัพท์หมายเลข 085-93107XX

(ดูหลักฐานประกอบ)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามตรวจสอบข้อมูล ร้านมานะเบเกอรี่ ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ แต่ไม่ปรากฏข้อมูลร้านดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เมื่อโทรศัพท์ติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์ร้านดังกล่าว พบว่า ถูกระงับการใช้งานชั่วคราว

แหล่ง ข่าวจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีโครงการศึกษาดูงานนอกสถานที่ นิสิตปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ หลักสูตรนิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า คณะกรรมการฯ ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับร้านมานะเบเกอรี่ ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ ในเสร็จรับเงิน ที่นำมาใช้ในการตั้งเรื่องเบิกงบประมาณ

พบว่า ร้านแห่งนี้ ไม่มีตัวตนอยู่จริง

“ ขณะนี้การตรวจสอบเรื่องนี้ ผ่านขั้นตอนการสอบสวนของทางคณะฯ ไปแล้ว เรื่องไปอยู่ที่ผู้บริหารของทางมหาวิทยาลัย และมีเรื่องเกี่ยวข้องกับทางวินัย จึงไม่สามารถพูดอะไรได้มาก คาดว่าในเร็วๆ นี้ มหาวิทยาลัยคงจะมีการเปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้อย่างเป็นทางการต่อสื่อมวลชนอีก ครั้ง”

แหล่งข่าว จากคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า โครงการปฐมนิเทศนิสิตใหม่และเตรียมความพร้อมหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ดังกล่าว ถูกนิสิตหลายคนร้องเรียนว่า มีการนำชื่อไปใช้ในการเบิกจ่ายงบประมาณ ทั้งที่ไม่ได้รวมเดินทางไปด้วยจำนวนมากเช่นกัน

“โครงการ นี้ ระบุว่า มีนิสิตรวมเดินทางไปจำนวน 246 คน แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว มีนิสิตไปไม่ถึง แต่ก็ถูกนำลายมือชื่อ ไปใช้เป็นหลักฐานในการเบิกเงินด้วย”

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยังโรงแรม เดอะเซส บางแสน จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบข้อมูลการจัดงานปฐมนิเทศนิสิตฯ ดังกล่าว ได้รับการยืนยันว่า ในการจัดงานเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2555 มีนิสิตของม.บูรพา เดินทางไปร่วมงานจำนวน 180 คน

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเอกสารแสดงค่าใช้จ่าย ในโครงการ พบว่า มีการระบุค่าชุดสินค้า พรีเมี่ยม ไว้จำนวน 22,200 บาท ค่าถ่ายเอกสาร จำนวน 3,000 บาท ค่าหมึก จำนวน 2,400 บาท ค่าป้าย จำนวน 2,600 บาท นอกเหนือจากค่าอาหารและบริการคาราโอเกะ จำนวน 84,000 บาท (เบิกจริง 5 หมื่น) และค่าอาหารว่าง จำนวน 15,000 บาท

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ประกอบการที่ปรากฏชื่ออยู่ในเอกสารการเบิกจ่ายเงิน ล้วนแต่มีสถานที่ตั้งในอ.เมือง จังหวัดชลบุรี

ส่วนสถานที่จัดงานแจ้งไว้ 2 แห่ง คือ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา และ โรงแรม เดอะเซส บางแสน จ.ชลบุรี

ขณะ ที่ ร้านบ้านป้าย&มายพริ้นติ้ง ที่ถูกระบุว่า เป็นผู้ขาย หมึก จำนวน 2,400 บาท ให้ ตั้งอยู่ที่ 3522 ถนนลาดพร้าว แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ

(ดูเอกสารประกอบ)  


พบอีก ปลอมใบเสร็จเบิกค่าอาหาร “บุฟเฟ่ต์” จัดงานปฐมนิเทศนิสิต ป.โท ม.บูรพา

วันเสาร์ที่ 08 มิถุนายน 2013 เวลา 11:17 น. เขียนโดย isranews

พบอีก ปลอมใบเสร็จเบิกค่าอาหาร “บุฟเฟ่ต์” จัดงานปฐมนิเทศนิสิต ป.โท ม.บูรพา –เจอหลักฐานชัดๆ แจ้งที่อยู่บริษัทส่งอาหารในใบเสร็จคนละแห่งกับสถานที่ตั้งจริง พนักงานยันเอกสารเท็จ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เผยผู้บริหารมหาวิทยาลัย รับทราบข้อมูลนี้หลายเดือนแล้ว

 

นอกเหนือจากการนำใบเสร็จรับเงินจาก ร้านเบเกอรี่ที่ใช้ชื่อว่า “มานะเบเกอรี่” ซึ่งไม่มีตัวตนอยู่จริง มาใช้เป็นหลักฐานเบิกจ่ายเงินค่าของว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 15,000 บาท ในการจัดทำโครงการปฐมนิเทศนิสิตใหม่และเตรียมความพร้อมหลักสูตรนิติศาสตรมหา บัณฑิต ของนิสิตปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ หลักสูตรนิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2555 แล้ว

(อ่านประกอบ : อาจารย์ ม.บูรพาใช้ชื่อร้านเบเกอรี่“ผี”เบิกเงิน“ค่าของว่าง”ปฐมนิเทศนิสิตฯป.โท)

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจ สอบพบว่า ในการตั้งเรื่องเบิกจ่ายเงินงบประมาณ โครงการปฐมนิเทศนิสิตใหม่และเตรียมความพร้อมหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ของนิสิตปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ยังมีการนำใบเสร็จรับเงิน ค่าอาหาร (BUFFET) สำหรับผู้เข้าร่วมงาน จำนวน 250 คน ที่ออกให้โดย บริษัท ดี เคเทอริ่ง จำกัด จำนวนเงิน 37,500 บาท มาใช้ประกอบเป็นหลักฐานเบิกจ่ายเงินด้วย

จาก การตรวจสอบข้อมูลใบเสร็จรับเงินที่ออกโดย บริษัท ดี เคเทอริ่ง จำกัด ดังกล่าว พบว่า มีการระบุที่อยู่บริษัทไว้ คือ เลขที่ 97 ถ.สุขุมวิท ต.มะขามหย่ง อ.เมือง จ.ชลบุรี

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ดี เคเทอริ่ง จำกัด กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2550 ทุน 5 ล้านบาท

แจ้ง ประกอบธุรกิจการให้บริการรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ งานสัมมนาและงานมงคลต่างๆ ปรากฏชื่อ นางทิพย์ จันทจรูญพงษ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ

อย่าง ไรก็ตาม บริษัทฯ แจ้งที่อยู่ไว้เลขที่ 97 ซอยลาดพร้าว 81 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ไม่ใช่ เลขที่ 97 ถ.สุขุมวิท ต.มะขามหย่ง อ.เมือง จ.ชลบุรี ตามที่ระบุไว้ในใบเสร็จรับเงินดังกล่าว

ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง บริษัท ดี เคเทอริ่ง จำกัด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องใบเสร็จรับเงินดังกล่าว

ได้ รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทางผู้บริหารของมหาวิทยาลัยบูรพา ได้ประสานมายังบริษัทฯ ให้ทำการตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้แล้ว และทางบริษัทฯ ได้ยืนยันไปว่า ใบเสร็จรับเงินดังกล่าว ไม่ใช่ของบริษัท เป็นเอกสารเท็จ 

“ เราได้ทำเรื่องยืนยันกับ ม.บูรพาไปแล้วว่า เรื่องนี้เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย ใบเสร็จรับเงินที่เอาไปอ้างก็ไม่ใช่ของเรา และบริษัทก็ไม่เคยมีที่อยู่อื่น นอกจากที่กรุงเทพฯ” เจ้าหน้าที่ บริษัท ดี เคเทอริ่ง จำกัด ระบุ

เมื่อ ถามว่า บริษัทฯ เสียหาย ถูกแอบอ้างชื่อ ทางผู้บริหารจะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุว่า “เท่าที่ทราบทางผู้บริหารบริษัทฯ ได้พูดคุยกับทางผู้แทนของมหาวิทยาลัยไปแล้ว เข้าใจว่าเคลียร์กันแล้ว แต่ไม่ทราบว่าผลออกมาเป็นอย่างไร”

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า บริษัท ดี เคเทอริ่ง จำกัด มีเว็บไซต์ส่วนตัวชื่อว่า www.deecatering.com เพื่อแสดงรายละเอียดการทำธุรกิจรับจ้างานเลี้ยงของบริษัท ให้กับลูกค้าทั่วไปได้รับทราบ

ทั้ง นี้ ในเว็บไซต์ดังกล่าว ได้แสดงที่อยู่ของบริษัท ไว้ชัดเจนคือ เลขที่ 97 ซอยลาดพร้าว 81 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 

ไม่ใช่ เลขที่ 97 ถ.สุขุมวิท ต.มะขามหย่ง อ.เมือง จ.ชลบุรี ตามที่ระบุไว้ในใบเสร็จรับเงินดังกล่าวแต่อย่างใด


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เปิดตัว โครงการดูงาน หลักสูตรนิติฯ ม.บูรพา ฉาว นิสิต ไม่เคยไป มีชื่อเบิกเงิน

view