สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สิ้นยุคทอง.. ทอง กองทุนถล่มขาย ทุบราคา

สิ้นยุคทอง..'ทอง'กองทุนถล่มขาย ทุบราคา

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




สิ้นยุคทอง.."ทอง" กองทุนถล่มขาย! ทุบราคา นักวิเคราะห์ประเมินราคาทองยังลงต่อเนื่อง รูบินีมองร้ายสุดหลุด 1,000 ดอลลาร์ปีนี้

สอดคล้องเครดิตสวิสชี้ราคาต่ำ 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ช่วง 5 ปีข้างหน้า และระยะสั้นแตะ 1,100 ดอลลาร์ราคาลดลง 20% ขณะที่ผลสำรวจของสมาคมผู้ค้าทองคำแห่งลอนดอนระบุ มี 6 สถาบันจากทั้งหมด 23 สถาบันกลุ่มตัวอย่าง ประเมินทองน่าจะปรับลดลง ขณะที่กองทุนกับนักลงทุนทิ้งทองโยกเงินเล่นหุ้นต่อเนื่อง

6 สถาบันประเมินราคาทองลง

สมาคมผู้ค้าทองคำแห่งลอนดอน หรือ London Bullion Market Association (LBMA) ได้สำรวจนักวิเคราะห์ทองคำจากทั่วโลกตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยปีนี้มีนักวิเคราะห์ 23 ราย จาก 23 สถาบันร่วมวงพยากรณ์ โดยแต่ละสถาบันจะคาดการณ์ ราคาทองคำสูงสุด-ราคาเฉลี่ย-ราคาต่ำสุด ซึ่งผลการสำรวจปีนี้ ออกมาว่าราคาเฉลี่ยทั้งปี อยู่ที่ 1,753 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากราคาคาดการณ์เฉลี่ยเมื่อปี 2555 อยู่ที่ 1,766 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขณะที่เว็บไซต์ www.trustablegold.com ได้มีการรวบรวมความเห็นเรื่องราคาทองคำของสถาบันการเงินต่างๆ และมี 21 สำนักที่ออกมาปรับเป้าราคาทองคำกันใหม่

โดยมีถึง 15 สถาบันเชื่อมั่นว่า อย่างไรก็ตามราคาทองหลังจากนี้จะยังคงปรับขึ้นแน่นอน เพียงแต่อาจจะไม่ร้อนแรงเหมือนปีก่อนๆ ที่เหลืออีก 6 สถาบัน มองว่าราคาทองคำน่าจะปรับลดลง

ตัวอย่างของผลสำรวจของสมาคมผู้ค้าทอง ได้สรุปการคาดการณ์ราคาทองคำของนักวิเคราะห์ที่ว่า จะปรับลงไว้ดังนี้ เจมส์ สตีล นักวิเคราะห์จากเอชเอสบีซี นิวยอร์ก เคยมองราคาทองเฉลี่ยปีนี้ที่ 1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปีนี้ทองน่าจะเคลื่อนไหวช่วง 1,575-1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ล่าสุดได้ปรับเป้าเฉลี่ยทั้งปีนี้เหลือ 1,542 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในปี 2557

ก่อนหน้านี้ พาร์ โรบิน นักวิเคราะห์ทองจากโซซิเอเต้ เจเนรัล คาดว่าราคาทองคำปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองน่าจะเคลื่อนไหวที่ 1,400-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่เป้าที่ โซซิเอเต้ เจเนรัล ปรับใหม่คือปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปี 2557 อยู่ที่ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ เคยคาดการณ์ว่า ราคาทองยังเชื่อว่าจะแตะระดับ 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในสิ้นปี 2557 และยังเคยคาดการณ์ราคาทองไม่มีแนวโน้มที่จะร่วงลงต่ำกว่า 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ เพราะมีแรงหนุนจากกลุ่มผู้ซื้อในตลาดเกิดใหม่ ล่าสุด แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ได้ปรับประมาณการอีกรอบหนึ่ง โดยมองค่าเฉลี่ยของราคาทองปีนี้น่าจะอยู่ที่ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และในปี 2557 จะอยู่ที่ 1,838 ดอลลาร์ต่อออนซ์

จากการปรับตัวลดลงของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ของ แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ก็ยังเคยมองว่า เป็นการร่วงลงที่ยากจะอธิบาย และทำให้ตอนนี้ความน่าเชื่อถือในการลงทุนในทองคำเริ่มลดลง

ตั้งแต่ต้นปีนี้นักวิเคราะห์ของ มอร์แกน สแตนเลย์ เคยบอกว่า ทองคำและโภคภัณฑ์ยังอยู่ในลิสต์แนะนำการลงทุนปีนี้ของ มอร์แกน สแตนเลย์ ซึ่งการแนะนำให้ลงทุนทองคำเป็นผลจากคาดการณ์นโยบายผ่อนคลายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางชาติอื่นทั่วโลก มีแนวโน้มจะกดสกุลเงินสำคัญหลายสกุลให้อ่อนค่าลงอีก และกระตุ้นให้เกิดเงินเฟ้อ แต่การเติบโตแข็งแกร่งของประเทศตลาดเกิดใหม่ ควรช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ให้สูงขึ้นได้

มอร์แกน สแตนเลย์ยังมองว่าไตรมาส 2 ปีนี้ ค่าเฉลี่ยของทองคำจะอยู่ที่ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไตรมาส 3 อยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนไตรมาสสุดท้ายของปีอยู่ที่ 1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข้อมูลจากบลูมเบิร์ก บอกว่า โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับตัวเลขคาดหมายของราคาทองลดลงในระยะ 12 เดือนหลังจากนี้ จากเดิมที่เคยมองไว้ที่ 1,615 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ในช่วง 3 เดือนหลังจากนี้ น่าจะปรับลงไปอยู่ที่ 1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และช่วง 6 เดือนลดลงไปอยู่ที่ 1,490 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 12 เดือนหลังจากนี้ อยู่ที่ 1,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเดิม 1,550 ดอลลาร์ต่อออนซ์

รูบินีชี้ต่ำ1,000ดอลล์ปีนี้

ด้านนูเรียล รูบินี ผู้ก่อตั้งรูบินี โกลบอล อีโคโนมิคส์ มองว่าราคาทองคำมีแนวโน้มจะต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปีนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดลงครึ่งหนึ่งของราคาสูงสุดเคยทำไว้ในปี 2554 และปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งจะดึงราคาทองลง คือเรื่องการเมืองโดยเฉพาะการเมืองในสหรัฐ

รูบินีผู้ได้ฉายาดร.ดูมผู้หยั่งรู้หายนะภัยวิกฤตปี2550 ตั้งขอสังเกตุว่า ทองคำไม่ก่อเกิดรายได้ตอนนี้ แต่ในยามเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว สินทรัพย์อย่างหุ้นและอสังหาริมทรัพย์กลับให้ผลตอบแทนสูงกว่าแก่นักลงทุน และคาดการณ์อสังหาริมทรัพย์ปรับดีขึ้น หากเศรษฐกิจโลกยังคงดีขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกถอนการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน (คิวอี) ก็จะเป็นปัจจัยไม่ช่วยหนุนราคทองคำอีกต่อไป

ริค ดีเวอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยโภคภัณฑ์ของเครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี วาณิชธนกิจชั้นนำของยุโรป กล่าวถึงแนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกว่า นับจากเดือนม.ค.ต้นปีนี้ ราคาทองคำลดลงมาแล้ว 17% และคาดว่าจะลดลงอีก 20%ในช่วงปี 2556 เมื่อเงินเฟ้อทั่วโลกไม่ได้เร่งตัวปรับขึ้น และความเสี่ยงเลวร้ายอย่างที่สุดที่มีต่อเศรษฐกิจโลก กำลังจางหายไป

ในฐานะผู้มีประสบการณ์การทำงานกับธนาคารกลางออสเตรเลียมานาน 10 ปี ก่อนลาออกมาทำงานร่วมกับเครดิต สวิสในปี 2553 ดีเวอร์เรลล์มองว่าราคาทองคำจะร่วงลงไปอยู่ที่ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปีนี้ และในช่วง 5 ปีข้างหน้า ราคาทองคำจะดิ่งลงอีกต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และราคาทองคำลดลงต่อเนื่อง จนไม่น่าจะดึงดูดความสนใจให้ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทั่วโลก เข้ามาซื้อทองคำเพิ่มขึ้น

เขาเชื่อว่าทองคำกำลังจะพัง ความจำเป็นที่รักษาความมั่งคั่งไว้ด้วยการซื้อทองคำนั้นลดลง และความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อเป็นปัญหาภายใน 1-3 ปีข้างหน้าก็หมดไปแล้ว ขณะที่รายงานของเครดิต สวิส ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ปีนี้ ระบุว่าเดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมาทองคำกลับตกอยู่ในสภาพตลาดหมีหรือซบเซา หลังจากเคยอยู่ในตลาดกระทิง หรือคึกคักมานาน 12 ปีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ราคาทองคำปรับขึ้นมากถึง 7 เท่า ทำให้ทองคำตอนนี้กลายเป็นกระทิงบาดเจ็บแผลเหวอะ

ดีเวอร์เรลล์คาดว่า ทองคำอาจปรับลดลงไปอยู่ที่ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และในมุมมองของเครดิต สวิส ที่ระบุในรายงานเผยแพร่ในเดือนธ.ค.ปีก่อน เคยให้ข้อมูลว่าราคาทองคำอาจถึงจุดสูงสุดแล้วในปี 2556 ขณะที่ต้นปีนี้ราคาทองคำยังคงแพงเกินไปเมื่อเทียบกับสินทรัพย์แท้จริงอื่นๆ อย่างเช่น โลหะพื้นฐาน เขาย้ำด้วยว่า ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ได้วางแผนครอบคลุมในการกระจายทุนสำรอง เมื่อผู้บริหารสินทรัพย์ของธนาคารกลางไม่ต้องการสูญเงินทุน หากราคาทองคำเข้าสู่ช่วงเวลาการปรับลดลง

"เมื่อราคาทองคำกำลังปรับขึ้น ดูเหมือนเป็นไอเดียดีมากที่จะซื้อทองคำมากขึ้น และเมื่อราคาทองกำลังลง คิดหรือว่าธนาคารกลางมองข้ามความเสี่ยง ด้วยความพยายามยอมรับความเสี่ยงนั้น" ดีเวอร์เรลล์ กล่าว

นักลงทุนโยกเงินลงทุนหุ้น

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด ระบุว่า ทิศทางราคาทองคำปรับลดลงต่อเนื่องจากตัวเลข Consumer Sentiment ของสหรัฐที่ดีขึ้น ทำให้ทองคำหลุดระดับ 1,450 ดอลลาร์ลงมาอีกครั้ง โดยที่ SPDR ยังเป็นผู้ขายต่อเนื่อง

"ทองคำยังเป็นแนวโน้มขาลง โดยมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,330 ดอลลาร์และมีแนวต้านที่ระดับ 1,360 ดอลลาร์ โดยแนะนำให้ใช้กลยุทธ์เก็งกำไรในทิศทางแนวโน้มขาลง ย้ำให้นักลงทุนพยายามปรับพอร์ตให้เหมาะสมและไม่ลงทุนเกินตัว เพราะราคาอาจจะมีการแกว่งได้ค่อนข้างมาก" เอ็มทีเอส โกลด์ ระบุ

ทั้งนี้ นักลงทุนได้เทขายทองในตลาดโลก ส่งผลให้ราคาร่วงลง 20% ตั้งแต่ต้นปีนี้ ขณะที่หุ้นและดอลลาร์ยังคงปรับตัวโดดเด่นกว่าจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

"นักลงทุนมีมุมมองเชิงลบอย่างมากในขณะนี้ ตลาดหุ้นและดอลลาร์ค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยเป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนจะโยกเงินไปลงทุนในหุ้นจากสินค้าโภคภัณฑ์"นายยูอิชิ อิเกมิสุ ผู้จัดการสาขาจากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด แบงก์ กล่าว


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : สิ้นยุคทอง กองทุน ถล่มขาย ทุบราคา

view