สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

นายกฯวอนปชป.อย่ายื่นเงื่อนไขเวทีหาทางออก

นายกฯวอนปชป.อย่ายื่นเงื่อนไขเวทีหาทางออก

นายกฯวอนฝ่ายค้านเห็นใจประชาชนอย่ายื่นเงื่อนไขร่วมเวทีทางออกประเทศ ยินดีข้อเสนอ"อุกฤษ" ตั้งสภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นเงื่อนไขใน การเข้าร่วมเวทีปฏิรูปการเมืองหาทางออกประเทศ โดยให้รัฐบาลถอนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกจากวาระการประชุมสภาก่อน ว่า ต้องขอความกรุณาฝ่ายค้านว่า อย่ายื่นเงื่อนไขเลย เพราะถ้ายื่นเงื่อนไขการพูดคุยกันก็จะเริ่มได้ยาก เรามีทั้งเวทีในส่วนของรัฐสภา และเวทีหาทางออกประเทศในการพูดคุยกัน แต่หากต่างคนต่างยื่นเงื่อนไข ก็ต้องขอความเห็นใจ เพราะจะทำให้ไม่สามารถเดินหน้าไปได้ จึงขอความเห็นใจให้กับพี่น้องประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน จึงอยากขอให้มีทางออก และมีแนวทางในการพูดคุยกัน

น.ส.ยิ่ง ลักษณ์ กล่าวว่า จะพยายามให้เวทีในการพูดคุยเพื่อหาทางออกในปัญหาทางการเมืองเป็นไปด้วยดีที่ สุด ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังในแต่ละมุมมอง เรียนว่าแม้จะเห็นโอกาสเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็คงต้องทำเพราะไม่อยากให้โอกาสนี้ผ่านเลยไป รัฐบาลทำงานมา 2 ปีแล้ว หากต่างคนต่างยื่นเงื่อนไขก็ ไม่มีทางออกในการเริ่มพูดจากัน แต่หากมีส่วนหนึ่งส่วนใดที่ต้องพูดคุยกัน สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน มองเห็นทิศทางในการเดินไปข้างหน้าด้วยกัน

"ต้อง เรียนว่างานครั้งนี้ไม่ใช่งานของ รัฐบาล แต่เป็นวาระที่เราต้องร่วมกันคิด ร่วมกันแก้ไขปัญหา เพื่อลูกหลาน ในเรื่องของกรอบเวลาก็ไม่มี เพราะต้องใช้เวลาในการพูดคุยกัน ซึ่งต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ เราจะพยายามทำอย่างเต็มที่ ทำอย่างดีที่สุด หวังว่าจะได้รับความร่วมมือ"นายกรัฐมนตรีกล่าว

เมื่อ ถามว่า เพียงแค่มีแนวคิดเริ่มต้น ก็มีหลายฝ่ายออกมาปฏิเสธกันแล้ว นายกฯ กล่าวว่า รู้ว่าหนทางต่างๆ ข้างหน้ามีอุปสรรคมากมาย แต่ถ้าเราช่วยกันทำเพื่อประเทศชาติ หากทุกคนเสียสละเข้ามาพูดคุยกัน แม้ที่ผ่านมาอาจจะมีความเห็นที่ต่างกัน แต่ถ้าทุกคนเสียสละเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน คิดว่าวันนี้หลายคนยังรอรับความยุติธรรมและความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน จึงเรียนขอความเห็นใจฝ่ายค้านว่าอย่าตั้งเงื่อนไขกันเลย

เมื่อ ถามถึงข้อเสนอของนายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ(คอ.นธ.) ให้จัดตั้งสภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน โดยเชิญพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา และขอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศนั้น นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลยินดีแต่ขอให้อยู่ในเวทีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า วันที่ 7 ส.ค.นี้จะเข้าร่วมประชุมสภาอย่างแน่นอน

ภูมิธรรม'ย้ำนายกฯไม่ร่วมวงปฏิรูปการเมือง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"ภูมิธรรม"ระบุ"ยิ่งลักษณ์"เป็นเจ้าภาพ แต่ไม่ร่วมวงคุยปฏิรูปทางการเมือง ชี้ข้อเสนอนายกฯไม่เกี่ยวกับม็อบ

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง ข้อเสนอของนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะให้เชิญฝ่ายต่างๆมาพูดคุยเพื่อกลไกไปสู่การปฏิรูปการเมืองว่า เป็นเรื่องที่ทางพรรคพูดคุยกันมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่เคยประกาศไว้

ถามว่าได้ประสานไปทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือยัง นายภูมิธรรม ไม่ตอบตรงๆ แต่บอกว่าพยายามประสานผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงในฝ่ายต่างๆแล้วพอสมควร ซึ่งจากการประสานไปในเบื้องต้น ถือว่ามีบรรยากาศที่ดี ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่นายกฯจะเป็นเจ้าภาพในการเปิดเวทีให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งโดยตรง มาร่วมพูดคุยกับคนกลาง และฝ่ายต่างๆของสังคม โดยอาจจะเชิญสื่อมวลชนมาร่วมด้วยที่ผ่านมามีเพียงให้คนกลางไปคิด จึงเชื่อว่าจะข้อเสนอนี้จะเป็นแนวทางที่ดี

"นายกฯจะไม่ร่วมพูดคุยในเวทีด้วย แต่จะเป็นเจ้าภาพในการเปิดเวทีให้"นายภูมิธรรม กล่าว

ถามว่าข้อเสนอนี้ ออกมาเพื่อดักทางการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณหรือไม่ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย บอกว่า"ไม่เกี่ยวกันเลย เป็นคนละเรื่องกัน และเป็นคนละส่วนกับเรื่องร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่จะเข้าสภาในวันพุธนี้ ข้อเสนอของนายกฯเป็นเรื่องระยะยาว ที่อยากช่วยกันออกแบบประชาธิปไตยแบบไทยๆ เท่าที่เราจะยอมรับกันได้ขึ้นมา ส่วนจะสำเร็จแค่ไหนยังไม่ทราบ แต่อย่างที่นายกฯยิ่งลักษณ์บอกคือ แม้มีโอกาสสำเร็จเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ก็ต้องทำ"

ส่วนที่มีการตั้งเงื่อนไขว่าต้องถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการล้างความผิดออกมาก่อนนั้น ไม่เช่นนั้นจะไม่มาร่วมวงคุย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มาก็ไม่เป็นไร ก็คุยเฉพาะคนที่มา ไม่อยากให้มีการตั้งเงื่อนไข เพราะถ้ามัวตั้งเงื่อนไขกันอยู่ก็ไม่มีทางมาพูดคุยกันได้ และคนที่ตั้งเงื่อนไขก็จะถูกตั้งคำถามว่าต้องการจะสร้างความปรองดองหรือไม่

"ในเวที จะเป็นการพูดคุยกันถึงอนาคต ไม่คุยเรื่องอดีต เพราะถ้ามัวคุยเรื่องอดีตก็ไม่จบ"นายภูมิธรรม กล่าว


นายกฯวอนปชป.อย่ายื่นเงื่อนไขเวทีหาทางออก

นายกฯวอนฝ่ายค้านเห็นใจประชาชนอย่ายื่นเงื่อนไขร่วมเวทีทางออกประเทศ ยินดีข้อเสนอ"อุกฤษ" ตั้งสภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นเงื่อนไขใน การเข้าร่วมเวทีปฏิรูปการเมืองหาทางออกประเทศ โดยให้รัฐบาลถอนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกจากวาระการประชุมสภาก่อน ว่า ต้องขอความกรุณาฝ่ายค้านว่า อย่ายื่นเงื่อนไขเลย เพราะถ้ายื่นเงื่อนไขการพูดคุยกันก็จะเริ่มได้ยาก เรามีทั้งเวทีในส่วนของรัฐสภา และเวทีหาทางออกประเทศในการพูดคุยกัน แต่หากต่างคนต่างยื่นเงื่อนไข ก็ต้องขอความเห็นใจ เพราะจะทำให้ไม่สามารถเดินหน้าไปได้ จึงขอความเห็นใจให้กับพี่น้องประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน จึงอยากขอให้มีทางออก และมีแนวทางในการพูดคุยกัน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จะพยายามให้เวทีในการพูดคุยเพื่อหาทางออกในปัญหาทางการเมืองเป็นไปด้วยดีที่ สุด ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังในแต่ละมุมมอง เรียนว่าแม้จะเห็นโอกาสเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็คงต้องทำเพราะไม่อยากให้โอกาสนี้ผ่านเลยไป รัฐบาลทำงานมา 2 ปีแล้ว หากต่างคนต่างยื่นเงื่อนไขก็ ไม่มีทางออกในการเริ่มพูดจากัน แต่หากมีส่วนหนึ่งส่วนใดที่ต้องพูดคุยกัน สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน มองเห็นทิศทางในการเดินไปข้างหน้าด้วยกัน

"ต้องเรียนว่างานครั้งนี้ไม่ใช่งานของ รัฐบาล แต่เป็นวาระที่เราต้องร่วมกันคิด ร่วมกันแก้ไขปัญหา เพื่อลูกหลาน ในเรื่องของกรอบเวลาก็ไม่มี เพราะต้องใช้เวลาในการพูดคุยกัน ซึ่งต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ เราจะพยายามทำอย่างเต็มที่ ทำอย่างดีที่สุด หวังว่าจะได้รับความร่วมมือ"นายกรัฐมนตรีกล่าว

เมื่อถามว่า เพียงแค่มีแนวคิดเริ่มต้น ก็มีหลายฝ่ายออกมาปฏิเสธกันแล้ว นายกฯ กล่าวว่า รู้ว่าหนทางต่างๆ ข้างหน้ามีอุปสรรคมากมาย แต่ถ้าเราช่วยกันทำเพื่อประเทศชาติ หากทุกคนเสียสละเข้ามาพูดคุยกัน แม้ที่ผ่านมาอาจจะมีความเห็นที่ต่างกัน แต่ถ้าทุกคนเสียสละเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน คิดว่าวันนี้หลายคนยังรอรับความยุติธรรมและความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน จึงเรียนขอความเห็นใจฝ่ายค้านว่าอย่าตั้งเงื่อนไขกันเลย

เมื่อถามถึงข้อเสนอของนายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ(คอ.นธ.) ให้จัดตั้งสภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน โดยเชิญพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา และขอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศนั้น นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลยินดีแต่ขอให้อยู่ในเวทีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า วันที่ 7 ส.ค.นี้จะเข้าร่วมประชุมสภาอย่างแน่นอน


'อุทัย'ตอบรับร่วมปฏิรูป แต่ให้ถอนก.ม.นิรโทษฯ

"อุทัย"ตอบรับร่วมเวทีสภาปฏิรูปของนายกฯ แต่ยื่นจดหมายเปิดผนึกให้ถอนพ.ร.บ.นิรโทษออกจากสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความเคลื่อน ไหวในความพยายามสร้างความปรองดองจากฝ่ายรัฐบาลตามแนวทางของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีการแถลงเชิญทุกภาคส่วนเข้าร่วมเวทีปฏิรูปเพื่อให้เกิดความปรองดองของคน ในชาติ ซึ่่งก่อนหน้านี้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรมช.เกษตรเเละสหกรณ์ เป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเชิญบุคคลต่างๆมาร่วมนั้น ช่วงบ่ายวันนี้นายพงศ์เทพ และนายวราเทพ เดินทางต่อไปยังชั้น21 อาคารเอทาวเวอร์(อโยธยาเดิม) ซอยรัชดาภิเษก18 ซึ่งเป็นสำนักงานของนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาฯ เพื่อส่งเทียบเชิญให้นายอุทัยมาร่วมในเวทีสภาปฏิรูปฯ

โดยทั้งหมดได้พบปะพูดคุยกันในห้องทำงานของนายอุทัยเป็นเวลานานเกือบ 1ชั่วโมง และได้ร่วมแถลงข่าวพร้อมกัน แต่ก่อนการแถลงนายอุทัยได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงข้อกังวลเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและร่างพ.ร.บ.ปรองดองที่อยู่ในสภา ที่ต้องการให้ถอน2วาระนี้ออกไป ทั้งนี้นายอุทัยส่งมอบจดหมายเปิดผนึกให้กับนายพงศ์เทพเพื่อส่งต่อให้ถึงนายก รัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี พร้อมกันนี้นายอุทัย ยังกล่าวว่า ตนมีหนังสือเปิดผนึกนี้ถึง ส.ส. ส.ว.และตุลาการด้วย

จากนั้น นายอุทัย กล่าวว่า ตนฟังนายกฯแถลงทางทีวีตนก็คิดว่าเป็นแนวทางที่ดี ถ้านายกฯเปิดใจกว้างที่จะเอาคนทั่วไปที่ไม่ใช่แค่ส.ส.และส.ว. ที่มีงานการเมืองอยู่แล้ว แต่เอาคนข้างนอกที่เคยผ่านงานการเมืองมาแล้วที่ไม่มีตำแหน่งแต่มีประสบการณ์ ด้านการบริหารประเทศด้านอื่นมาร่วมเป็นคณะ ซึ่งตนก็ยินดี

"ถ้าถามว่ารับไหมก็คือรับ ถ้าเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ท่านรองนายกฯบอก เอาว่ารับเพื่อจะแก้ปัญหาเเพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง แต่ไม่ขอรับตำแหน่งทางการเมือง ส่วนปัญหาที่จะหารือกันก็ว่ากันอีกทีหนึ่ง เวลานี้ปัญหามันมีเยอะอยู่ แต่ก็ถือโอกาสฝากว่าปัญหาเฉพาะหน้าเราก็มีคือเรื่องปัญหาของกฎหมายที่เข้า สภาที่เนื้อความเป็นไปตามจดหมายก็ลองพิจารณาดู"นายอุทัย กล่าว


อุกฤษ'แนะเชิญ'เปรม-ธานินทร์'ร่วมสภาอาวุโส

"อุกฤษ"ยื่นข้อแม้ร่วมนั่งโต๊ะเจรจาปฎิรูปประเทศ แนะตั้งสภาอาวุโสประเทศ เชิญ"ป๋าเปรม-ธานินทร์-อดีตนายกฯ"เข้าร่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมายังบ้านพักของนายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะ กรรมการองค์กรอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอนธ.) เพื่อเชิญเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการปฎิรูปประเทศ ตามข้อเสนอทางออกประเทศไทยของนายกรัฐมนตรี

ภายหลังจากการเข้าพบและเจรจา นายอุกฤษ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ได้รับตอบรับเข้าร่วมตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี แต่ตนมีข้อเสนอว่านายกฯ จะต้องดำเนินการตั้งสภาที่ปรึกษาบริหารราชการแผ่นดิน หรือสภาอาวุโสขึ้นมาด้วย โดยให้เชิญอดีตนายกฯ อดีตประธานสภาฯ อดีตประธานศาลฎีกา ที่ยังมีชีวิตและไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเข้ามาร่วมเป็นคณะชุดดังกล่าว

ทั้งนี้เห็นว่าพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองค์มนตรี และนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องค์มนตรี ที่ถือเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองมาร่วมด้วย และหลังจากนั้นให้นายกฯนำความกราบบังคมทูล เพื่อให้ทรงโปรดเกล้าสภาดังกล่าวนี้ขึ้นมา ซึ่งหากตามข้อเสนอไม่สำเร็จก็จะไม่เข้าร่วม เนื่องจากถือว่ายังไม่ถึงเวลา เนื่องจากคนในกลุ่มที่นายกฯคิดเอาไว้เห็นยังพร้อม แต่อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นความตั้งใจดี และขอบคุณนายกฯ ที่ส่งคนมาทาบทาม ซึ่งดูจากแววตาและท่าทางของนายกฯหญิงคนแรกแล้ว มีความจริงใจที่ต้องการให้เกิดความสสมานฉันท์ในชาติ

เมื่อถามว่า จะเชิญอดีตนายกฯทักษิณด้วยใช่หรือไม่ นายอุกฤษ กล่าว่า ก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้ระบุตัวบุคคล

เมื่อถามว่า จะรวมถึงนายอภิสิทธิ์รวมด้วยหรือไม่ นายอุกฤษ กล่าวว่า ยังยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอยู่หรือไม่ ขอย้ำว่าจะไม่ขอระบุชื่อบุคคล ข้อเสนอตนเป็นเพียงแต่การเสนอแนวคิด ส่วนรัฐบาลจะไปเชิญใครได้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของรัฐบาล

ด้านนายพงศ์เทพ กล่าวว่า จะนำเสนอข้อนี้ของนายอุกฤษไปเสนอต่อนายกฯต่อไป


'วรชัย'ย้ำไม่ถอนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

วรชัย"ย้ำไม่ถอนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถามปชป.ออกเป็นพ.ร.ก.เอาหรือไม่ จะได้ไม่ต้องข้องใจแปรญัตติเอื้อใคร

นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ว่า วันนี้ได้ชี้แจงต่อวิปรัฐบาลในเรื่องการเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม และยังยืนยันว่ายังเสนอให้พิจารณา โดยไม่มีการเลื่อนระเบียบวาระอย่างแน่นอน และยืนยันหลักการและเหตุผลว่า ทำไมจึงต้องเสนอพ.ร.บ.ฉบับนี้มีเหตุการณ์อย่างไร สถานการณ์เป็นอย่างไร ตนยืนยันกับวิปรัฐบาลว่าเจตนารมณ์ คือช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจริงๆ วิปรัฐบาลได้ถามเรื่องนี้ แต่ได้ยืนยันไปตามนั้นไม่แอบแฝง

นายวรชัย กล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์มาอ้างว่าพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต้องตั้งกรรมาธิการและจะมีการแปรญัตติเพื่อช่วยบุคคลอื่น ถ้าอย่างนั้นตนจึงบอกว่าให้รัฐบาลออกเป็นพ.ร.ก.แทนพ.ร.บ. และประกาศทันทีเพื่อช่วยพี่น้องออกจากเรือนจำ โดยประกาศชัดเจนว่าเป็นพี่น้องประชาชนจริงๆทุกสีเสื้อ ถ้ารัฐบาลประกาศพ.ร.ก.ก็สามารถประกาศใช้ได้เลย พี่น้องก็ออกได้ทันทีจะได้ไม่ต้องเคลือบแคลงสงสัยว่าแปรญัตติช่วยใคร หากเราออกพ.ร.ก.เพื่อช่วยประชาชนจากเรือนจำก็จะได้ไม่ต้องมีข้ออ้าง หากรัฐบาลออกพ.ร.ก.ทุกคนจะมาร่วมกันทำปฎิรูปสภาการเมืองหรือไม่ นี่คือความคิดที่บริสุทธิ์จริงๆ

"การที่ผมเสนอให้ออกพ.ร.ก.แทนพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะต้องทำตาม แต่เป็นทางเลือกหนึ่ง เพราะพรรคประชาธิปัตย์บอกให้เราถอน เราก็บอกว่าถอนร่างได้ แต่ต้องให้ออกพ.ร.ก.เพราะช่วยประชาชนทันที"นายวรชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป้าหมายฝ่ายค้านคือไม่ต้องการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่มีแนวทางล้มรัฐบาลอย่างเดียว นายวรชัย กล่าวว่า คิดว่าการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยเชิญชวนประชาชน มีอย่างเดียวที่พูดคือจะล้มระบอบทักษิณ ล้มรัฐบาล ไม่มีสาเหตุใหญ่ที่ต้องการล้มร่างพ.ร.บ.นี้ เพราะฉะนั้นเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกับสิ่งที่เขาดำเนินการ อย่างไรก็ตาม คิดว่าสภาฯมีกลไกอยู่หากมีปัญหาอะไรก็ควรมาพูดกัน ถ้ารัฐบาลทำไม่ถูกไม่ดีก็ใช้กลไกของสภาฯ เพราะเป็นระบบสากลยอมรับ ให้มาพูดกันในสภาฯทีเดียวก็จบ


คุมเข้มทำเนียบขั้นสูงสุด อ้างจ้องปาระเบิดขวด

รัฐบาลสั่งคุมเข้มทำเนียบฯ ขั้นสูงสุด หลังการข่าวรับแจ้งผู้ไม่หวังดีเตรียมปาระเบิดขวด พุ่งเป้าทำเนียบ-รัฐสภา ศอ.รส.ส่งตำรวจ รปภ. 11 กองร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่า นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากบ้านพักในซอยโยธินพัฒนา 3 ตั้งแต่เวลา 08.10 น. โดยในส่วนของการรักษาความปลอดภัยยังคงเป็นไปตามปกติ ขบวนรถของนายกรัฐมนตรี มีเพียงรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนำขบวน 1 คัน ตามด้วยรถโฟล์คกันกระสุนป้ายแดง ทะเบียน ต 2321 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของนายกรัฐมนตรี รถติดตามซึ่งเป็นรถฟอร์จูนเนอร์อีก 2 คัน และรถเก๋งคัมรีโตโยต้าของ 191 อีก 1 คันเท่านั้น

ขณะที่บริเวณหน้าบ้านพักของนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจของ บก.น.4 ยังคงรักษาความปลอดภัยของเข้มข้น โดยนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.45 น. ใช้เส้นทางด่วนยมราช แยกเข้าถนนหลานหลวง ถนนนครสวรรค์ และเข้าทำเนียบรัฐบาลทางประตูอรทัย โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล ตลอดทั้งวัน เริ่มตั้งแต่เวลา 09.15 น. ให้การต้อนรับ H.E. Mrs. Jocelyn S. Batoon-Garcia เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย ที่เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะและ13.30น.เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสและเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรนอร์เวย์ประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกฯเช่นกัน

สำหรับบรรยากาศภายในทำเนียบรัฐบาล ได้มีการตรวจเข้มการเข้าออกของบุคคลอย่างละเอียด โดยรถยนต์ส่วนตัวหากไม่มีบัตรอนุญาตเข้าออกทำเนียบฯ จะไม่ให้นำเข้ามาภายในโดยเด็ดขาด ส่วนรถยนต์ที่มีบัตรจะอนุญาตให้เข้า-ออกทางประตูสะพานอรทัยเพียงประตูเดียวเท่านั้น ขณะที่บุคคลที่มีบัตรแสดงตน เข้า-ออกได้ 3 ทาง คือประตูฝั่งสะพานอรทัย ประตูน้ำพุ และประตู5 สำหรับบุคคลที่ไม่มีบัตรแสดงตน เข้า-ออกสามารถ แลกบัตรได้ที่ประตูสะพานอรทัยเพียงประตูเดียว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก ศอ.รส. จำนวน 11 กองร้อย ได้ผลัดเปลี่ยนกันยืนรักษาการดูแลความปลอดภัยทุกประตู และโดยรอบทำเนียบฯ พร้อมกันนี้ยังมีการเตรียมรถปั่นไฟ รถดับเพลิง และรถควบคุมฝูงชน และอุปกรณ์ไว้จำนวนหนึ่งหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

รายงานข่าวแจ้งว่าสาเหตุที่ ศอ.รส. ได้สั่งให้ปิดประตูเข้า ออกโดยรอบทำเนียบรัฐบาล โดยอนุญาตให้เข้าออกเพียงประตูอรทัยประตูเดียวเท่านั้น เนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการข่าวแจ้งว่า ได้มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ไม่ไม่หวังดี เตรียมการที่จะสร้างความวุ่นวายเกิดขึ้น เช่นการปาขวดน้ำมันเข้ามาภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา จนอาจเกิดความวุ่นวายขึ้นได้ จึงต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่ทั้ง 2 แห่งขั้นสูงสุด

ทั้งนี้ การจราจรโดยรอบทำเนียบฯ ติดขัดอย่างหนักตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้แจ้งปิดการจราจรในเส้นทาง ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือนถึงแยกราชวิถิ ถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานี ถึงถนนราชวิถี ถนนอู่ทองในตั้งแต่แยกพระรูปฯถึงแยกอู่ทองใน ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกพาณิชย์ ผ่านแยกสวนมิกสกวัน ถึงแยกวังแดง ถนนราชดำเนินตั้งแต่แยกสวนมิสักวัน ถึงแยกมัฆวาน


กกต.ร่วมปฏิรูปประเทศไทยหากรัฐบาลเชิญ

"ภุชงค์"เผยร่วมวงถกปฏิรูปประเทศไทย หากได้รับหนังสือเชิญจากรัฐบาล

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมเปิดเวทีปฏิรูปประเทศไทย โดยเชิญตัวแทนทุกภาคส่วนรวมถึงองค์กรอิสระ ในการร่วมหาทางออกประเทศว่า ขณะนี้ กกต. ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญดังกล่าว

แต่ถ้ามีหนังสือมาก็จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมกกต.ก่อน เพื่อปรึกษาหารือว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ ทั้งนี้ไม่กล้าเสนอความคิดเห็นใดๆ ในเรื่องดังกล่าว เพราะจะต้องเห็นหนังสือเชิญเข้าร่วมเวทีปฏิรูปการเมืองเสียก่อน แต่ถ้ามีหนังสือเชิญมาจริงคาดว่า กกต.น่าจะเข้าร่วมเวทีปฏิรูปการเมืองด้วย


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : นายกฯวอน ปชป. อย่ายื่นเงื่อนไข เวทีหาทางออก

view