สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สัมภาษณ์บิล เกตส์

สัมภาษณ์บิล เกตส์

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




นิตยสาร Bloomberg Businessweek ฉบับควบ 12-25 สิงหาคม พิมพ์บทสัมภาษณ์นักบริหารธุรกิจเป็นส่วนใหญ่กว่า 30 คน

อภิมหาเศรษฐี บิล เกตส์ รวมอยู่ในนั้นด้วย แม้จะได้ติดตามเรื่องราวของเขามานาน (ดังที่เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง “เสือ สิงห์ กระทิง แรด” ซึ่งพิมพ์เมื่อปี 2543 และอาจดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของมูลนิธินักอ่านบ้านนา www.bannareader.org หรือจาก www.openbase.in.th) แต่การให้สัมภาษณ์ของเขาครั้งนี้ยังมีมุมมองน่าสนใจชวนให้ติดตาม จึงขอนำบางส่วนมาเล่าสำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสอ่านนิตยสารนั้น

ประเด็นแรกที่พูดถึงได้แก่โอกาสที่ความพยายามกำจัดโรคไขสันหลังอักเสบ (โปลิโอ) และไข้จับสั่น (มาลาเรีย) จะประสบความสำเร็จหรือไม่ บิล เกตส์ตอบว่าขณะนี้มีโครงการกำจัดโปลิโอแบบเป็นรูปธรรมแล้วซึ่งอยู่ในระหว่างการระดมทุนจำนวน 5,500 ล้านดอลลาร์ มูลนิธิของเขาจะบริจาค 1,800 ล้านดอลลาร์ (ข้อมูลเกี่ยวกับมูลนิธิของเขาเข้าไปดูได้ที่ www.gatesfoundation.org ตั้งแต่ก่อตั้งมา มูลนิธินี้บริจาคเงินเพื่อการกุศลไปแล้ว 26,100 ล้านดอลลาร์ เฉพาะในปีที่ผ่านมาบริจาค 3,400 ล้านดอลลาร์) เขาแน่ใจว่าอีกไม่นานการกำจัดโปลิโอจะประสบความสำเร็จและความสำเร็จนั้นจะปูฐานไปสู่การกำจัดมาลาเรียและหัด การกำจัดมาลาเรียเป็นเรื่องใหญ่ คงต้องใช้เวลาแบบทั้งชีวิตของเขาจึงจะสำเร็จ

การเดินทางเข้าไปในท้องถิ่นต่างๆ ทำให้เขาเข้าใจเรื่องความแตกต่างระหว่างโลกที่เขาอยู่และโลกของความยากจน เด็กที่ป่วยด้วยมาลาเรียเป็นภาพชนิดติดตา การช่วยเหลือเช่นการส่งวัคซีนไปให้ได้ผลเป็นที่ประจักษ์แล้ว การมีสุขภาพดีมีผลต่อการพัฒนาสติปัญญาของคนซึ่งส่งผลต่อการลดความยากจนต่อไป

ในขณะนี้ กูเกิลมีโครงการจะใช้ลูกโป่งขนาดใหญ่เชื่อมต่อโครงข่ายระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในประเทศด้อยพัฒนาเพราะเชื่อว่าการเชื่อมต่อนั้นจะเกิดประโยชน์หลากหลาย บิล เกตส์ แสดงความเห็นว่าทั้งที่เขามีความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อกันของศูนย์การรักษาพยาบาลและของโรงเรียนเป็นสิ่งที่ดีแน่ แต่สำหรับคนกำลังจะตายด้วยไข้จับสั่น ลูกโป่งนั้นไม่น่าจะช่วยอะไรได้ หรือเด็กกำลังท้องร่วงอย่างหนัก คงไม่มีเว็บไซต์ที่จะช่วยเขาได้ ฉะนั้น ในประเทศที่ยากจนมากๆ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะไม่ค่อยมีประโยชน์นัก เขามองว่า กูเกิลประกาศว่าจะทำอะไรต่อมิอะไรสารพัด แต่หลังจากเรียกความสนใจได้อย่างกว้างขวางแล้วก็ไม่ทำอะไรสักอย่างยกเว้นสิ่งที่ตนมีความเชี่ยวชาญเพียงด้านเดียวซึ่งจะไม่ช่วยคนยากจน

ต่อคำถามที่ว่านักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จสูงบางคนให้ความสนใจต่อด้านอวกาศ เขาไม่สนใจในด้านนั้นบ้างหรือและมันจะคุ้มค่าสำหรับมนุษยชาติหรือไม่ เขาตอบว่าคนเราจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ไม่เหมือนกัน จริงอยู่เรื่องนั้นอาจจะสนุกสนานสำหรับบางคน แต่เขาไม่เห็นว่ามันจะมีค่าต่อมนุษยชาติอย่างไร ฉะนั้น เขาจะไม่ทุ่มเงินลงไปในด้านนั้นแน่

มูลนิธิของเขามีขนาดใหญ่มาก จึงมักถูกตำหนิว่าสามารถลากจูงผู้อื่นให้ไปในทางของตนได้โดยเฉพาะทางด้านการศึกษา เกี่ยวกับคำตำหนินี้ เขาตอบว่า จริงอยู่เมื่อมูลนิธิของเขาเข้าไปช่วยในด้านใดก็ตาม เขานำความเชื่อพื้นฐานในด้านนั้นเข้าไปด้วย แต่ผู้ที่มีขนาดใหญ่เกินไปมิใช่มูลนิธิของเขา หากเป็นรัฐบาล ในปัจจุบันนี้ เราโชคดีที่มีโรงเรียนรับเหมา ระบบนี้เอื้อให้ปิดโรงเรียนที่ขาดประสิทธิภาพได้ง่ายและนำรูปแบบของโรงเรียนที่มีประสิทธิภาพไปขยายออกไปได้อย่างรวดเร็ว

เกี่ยวกับการเปิดวิชาต่างๆ ให้เรียนอย่างเสรีทางอินเทอร์เน็ต บิล เกตส์ ตอบว่าเท่าที่ผ่านมามันจำกัดอยู่ในหมู่พวกชนชั้นสูงเท่านั้น จริงอยู่ มันดูน่าตื่นเต้น แต่มันไม่ค่อยได้ผลโดยเฉพาะทางด้านการหางานทำ การเปิดให้เรียนเช่นนี้ก็เหมือนการบอกให้ผู้เรียนไปอ่านหนังสือ มันจะได้ผลก็ต่อเมื่อมันได้รับความร่วมมือจากนักศึกษาและเสริมด้วยส่วนประกอบจำพวกการจับกลุ่มกันทำงานและการทดลองในห้องปฏิบัติการ

ทางด้านการหยุดภาวะโลกร้อน เขามองว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มากและยังอีกนานกว่าจะเห็นผล เขาเข้าไปลงทุนไว้ในบริษัท 20 แห่งซึ่งทำกิจการด้านต่างๆ รวมทั้งทางด้านแบตเตอรรี่ ด้านพลังงานแสงอาทิตย์และด้านนิวเคลียร์ แต่เราต้องการบริษัทจำพวกนั้นนับร้อยนับพันแห่ง ฉะนั้น เราอาจจะต้องใช้เวลาอีก 20 ปีก่อนที่จะสามารถเปลี่ยนปัจจัยพื้นฐานทางด้านพลังงานได้

สำหรับการเปรียบเทียบความท้าทายในการทำงานของเขาระหว่างในช่วงแรกที่เขาทุ่มเทให้กับคอมพิวเตอร์ และในช่วงนี้ที่เขาทุ่มเทให้แก่งานการกุศล เขาตอบว่า เขามีความอิ่มเอิบใจในช่วงยังเป็นหนุ่มและบ้าคลั่งกับการทำระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ งานที่เขาทำในขณะนี้ไม่ต่างจากงานที่เขาเคยทำมากนักเมื่อมองจากด้านการเลือกเฟ้นคนมาทำงานและจะทำอย่างไรจึงจะส่งสิ่งของลงไปในแหล่งที่มีความต้องการได้ เขาเสริมว่าตอนนี้เขาไม่ทำงานอย่างบ้าคลั่งเหมือนดังในสมัยเป็นหนุ่มเนื่องจากเขามีครอบครัวแล้ว เขาใช้เวลาเป็นบางส่วนทำงานให้ไมโครซอฟท์และอุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้กับมูลนิธิของเขา

ต่อคำถามที่ว่าอะไรจะเป็นตัวชี้วัดว่ามูลนิธิของเขาประสบความสำเร็จ เขาตอบว่า ถ้าอัตราการตายของเด็กยากจนลดลงมาเหลือเท่าๆ กับของเด็กมั่งมี เขาจะถือว่านั่นเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ หรือในระบบการศึกษา ถ้าเด็กยากจนในกลางใจเมืองมีโอกาสเท่าเทียมกับเด็กที่มีอันจะกินในย่านชานเมือง เขาจะมองว่างานของเขาประสบความสำเร็จเช่นกัน


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : สัมภาษณ์ บิล เกตส์

view