สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปฏิวัติวงการทำงานรูปแบบใหม่ ด้วยการทำงานแบบ Remote working

จากประชาชาติธุรกิจ

การทำงานนอกสถานที่ (Remote working) หรือการทำงานแบบยืดหยุ่น (Flexible working) คือการทำงานรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่การทำงานรูปแบบเดิมๆและยึดติดอยู่แค่ใน ออฟฟิศ อันเป็นผลที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีสู่โลกา ภิวัฒน์ในปัจจุบัน

เมื่อเทคโนโลยีช่วยย่อโลกให้เล็กลง เราจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสียเวลากับการเดินทางเพื่อการทำงานอีกต่อไป

รีจัส ได้ทำการสำรวจในประเด็นการทำงานนอกสถานที่ โดยได้สอบถามไปยังผู้จัดการอาวุโสและเจ้าของกิจการกว่า 26,000 คน ในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก ผลการสำรวจพบว่า ร้อยละ 48 ของกลุ่มตัวอย่างได้มีการทำงานนอกสถานที่ประมาณครึ่งหนึ่งของสัปดาห์การทำงาน ซึ่งจากผลการสำรวจดังกล่าวจะสะท้อนให้เห็นว่า ต่อจากนี้ไปพนักงานที่มีรูปแบบการทำงานแบบนั่งโต๊ะประจำในออฟฟิศจะกลายเป็นคนส่วนน้อยไปโดยปริยาย

แนว โน้มดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของรีจัสในช่วงไม่กี่ปี ที่ผ่านมานี้โดยการเปิดศูนย์กลางการดำเนินงานทางธุรกิจ(BusinessCentre) และแนะนำบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองการขยายตัวของประชากรโลก และการทำงานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile device)

แต่ทั้งนี้ก็ยังมีกระแสปรากฏต่อสื่อต่างๆ ที่ไม่เห็นพ้องต่อการทำงานนอกสถานที่ ที่อาจส่งผลต่อการตัดทอนอำนาจการรวมศูนย์กลางทางธุรกิจ มาริสสา เมเยอร์ ซีอีโอของ Yahoo ได้ประกาศออกสื่อในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าเธอเลือกจะทำงานแบบเข้าออฟฟิศ และจะไม่ทำงานที่บ้านอีกต่อไป

เช่นเดียวกับ BestBuy อีกหนึ่งบริษัทในอเมริกา ที่ได้ประกาศต่อต้าน และจะไม่กลับไปทำงานแบบนอกสถานที่อีกแล้ว ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวมีหลายข้อยกเว้นและมีความซับซ้อนทางข้อมูล และยังเป็นมาตรการที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

การทำงานนอกสถานที่ส่งผลดีในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้จะส่งผลต่อการจัดการที่ขาดการควบคุมที่ไม่อาจดึงพนักงานเข้าสู่ส่วนกลางหรือสำนักงานใหญ่ได้ จากเหตุผลทั้งหมด ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการทำงานนอกสถานที่เป็นเรื่องง่าย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถือเป็นเรื่องที่ยากมากในการจัดการจัดการตามความต้องการและการปรับเปลี่ยนทัศนคติของหลายๆระดับขององค์กร

ปัญหา ส่วนใหญ่เกิดจากการรับรู้ของคนทำงานนอกสถานที่มากกว่าการปฏิบัติจริงยก ตัวอย่างจากการสำรวจของบริษัทไมโครซอฟท์ในแคนาดาที่เปิดเผยว่าร้อยละ 60 ของผู้บริหารยืนยันว่าพวกเขาเองมีประสิทธิผลมากขึ้นเมื่อทำงานนอกสถานที่ มีเพียงร้อยละ 25 ที่ไม่เห็นด้วย เช่นเดียวกับมุมมองจากพนักงานร้อยละ 55 ที่มองว่าการทำงานนอกสถานที่ทำให้พวกเขามีประสิทธิผลมากขึ้น

ผู้คน ส่วนใหญ่ต้องการทำงานในรูปแบบที่ยืดหยุ่นและเหมาะสมกับตัวเองแต่การทำงานนอก สถานที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั้งนี้หากมองใน อีกมุมหนึ่งอาจพบว่าหากเกิดข้อผิดพลาดและผลกระทบในทางลบ การทำงานนอกสถานที่ก็จะถูกปกปิดความผิดพลาดดังกล่าวที่เกิดขึ้น ดังนั้นผู้จัดการจึงต้องการเฝ้าจับตามองการทำงานของพนักงานเพื่อประสิทธิภาพ ที่ดีที่สุดของงาน

จากผลการสำรวจของรีจัส ร้อยละ 55 ของผู้ตอบแบบสอบถาม กล่าวว่า พวกเขาเชื่อมั่นในประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานที่ทำงานนอกสถานที่ เพียงแค่ต้องมีการฝึกอบรมการจัดการและการพัฒนาศักยภาพเพิ่มเติมเท่านั้น

การสำรวจของเราแสดงให้เห็นว่า บริษัทส่วนใหญ่ใช้งานระบบการติดตามและรายงานผลประสิทธิภาพการทำงานของ พนักงานที่ทำงานนอกสถานที่ ซึ่งร้อยละ 43 ของผู้จัดการหรือหัวหน้างานที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่จะใช้ระบบวิดีโอคอลล์ใน การสื่อสารกับทีมงานที่ประจำอยู่ภายในสำนักงานซึ่งการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามา ใช้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางลงได้ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่าใน ประเทศชั้นนำต่างๆทั่วโลก รวมถึงอินเดีย, จีน และบราซิล ต่างตระหนักถึงประสิทธิภาพของการทำงานที่มาจากการใช้เวลาของเหล่าพนักงาน เป็นสำคัญ

ซึ่งในมุมมองของผู้ตอบแบบสอบถามกว่าร้อยละ68แสดงให้เห็นว่ายังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการทำงานนอกสถานที่ โดยคนกลุ่มนี้เชื่อว่าการทำงานนอกสถานที่นั้นจะเป็นการขัดขวางการพัฒนาศักยภาพทางด้านการทำงานของพนักงานระดับปฏิบัติการ

เป็น ที่แน่นอนว่าพนักงานระดับปฏิบัติการจำเป็นต้องมีการควบคุมดูแลเพื่อติดตามผล การดำเนินงานแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องจำกัดบริเวณพวกเขาให้ประจำอยู่แต่ ภายในสำนักงานเท่านั้นซึ่งมันคงจะดีกว่าหากคุณสามารถกำหนดมาตรการในการดูแล ตรวจสอบโดยการให้พนักงานรายงานผลการดำเนินงานกลับมาให้ทราบเป็นระยะๆไม่ว่า จะโดยการส่งวิดีโอลิงค์หรือวิธีการอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะสามารถพัฒนาทักษะการดำเนินงานได้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพ

ซึ่งใครก็ตามที่คิดว่าการทำงานนอกสถานที่จะไม่ประสบความ สำเร็จนั้นเป็นความคิดที่ผิดไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องมีพนักงานจอมขี้เกียจ บางคนใช้ผลประโยชน์จากการทำงานนอกสถานที่แต่นั่นก็เนื่องมาจากการมีหัวหน้า งานที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่านั้นซึ่งผู้บริหารระดับสูงต้องขจัดอุปสรรคดัง กล่าวโดยการเปิดใจ มุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลจากการทำงานเป็นสำคัญ

มีหลาก หลายบทเรียนที่ได้รับจากผลการวิจัยชิ้นนี้ซึ่งสิ่งที่สำคัญหรือเรียกได้ว่า เป็นปราการด่านแรกในการจัดการระบบการทำงานนอกสถานที่คือการเอาชนะความกลัว และความสงสัยที่ไม่เคยเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการจัดการที่มีประสิทธิภาพ

ในทางกลับกัน เราควรดูที่การปฏิบัติงานจริงเพื่อรับมือกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งต้องขอขอบคุณเทคโนโลยีที่เข้ามามีส่วนช่วยทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ผู้จัดการฝ่ายขายสามารถติดต่อกับทีมขายของตนได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก ในขณะที่ระบบ GPS ช่วยให้ศูนย์บริการสามารถติดตามความคืบหน้าของวิศวกรและทีมบำรุงรักษา หรือฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ก็สามารถดูแลให้ความสำคัญกับลูกค้าของพวกเขาได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ

การจัดการที่เหมาะสมที่สุด คือ การเลือกงานให้เหมาะกับคน ระบุหน้าที่ความรับผิดชอบและขอบข่ายของงานที่จำเป็นต้องทำให้ชัดเจน ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และสร้างกระบวนการที่ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จัดให้มีการฝึกอบรมที่จำเป็นทั้งสำหรับผู้บริหารและพนักงาน เปิดรับทุกช่องทางการติดต่อสื่อสาร รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ วิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ หรืออีเมล เป็นต้น

เหนือสิ่งอื่นใด ควรให้ความไว้วางใจแก่พนักงานของคุณ ว่าเขาจะสามารถปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายอย่างดีและเต็มความสามารถแม้จะไม่เข้าออฟฟิศก็ตามที


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ปฏิวัติวงการทำงาน รูปแบบใหม่ การทำงาน Remote working

view