สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พบ 30 บริษัทปริศนา!ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 3.6 พันล้าน เพิ่งก่อตั้ง-เบอร์โทร.เดียวกัน(19)

เปิดหนังสือ“ซี 9”บางรัก ให้ระงับจดทะเบียนบริษัทคืนภาษี หลังเสียหาย 3.6 พันล.

จากสำนักข่าวอิสรา

เปิดหนังสือ “ซี 9”สรรพากร บางรัก ร่อนถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระงับจดทะเบียน“เสร็จชำระบัญชี”เลิกบริษัทเครือข่ายคืนภาษี หลังตัวเองสั่งคืนไปแล้ว 3.6 พันล้าน แต่ไร้ผล นายทะเบียนรับจดชำระฯเกือบหมด

001sauuy

กรณีคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ นิติบุคคลที่จดทะเบียนก่อตั้งอย่างมีเงื่อนงำ 30 บริษัทในพื้นที่บางรัก กรุงเทพฯ วงเงิน รวมประมาณ 3.6 พันล้านบาท (ไม่รวมพื้นที่สมุทรปราการและนนทบุรี รวมทั้งสิ้นกว่า 60 บริษัท) ซึ่งสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงาน ข่าวครั้งแรกวันที่ 9 มิถุนายน 2556 และนำเสนออย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ขณะที่กระทรวงการคลังและกรมสรรพากรได้ตั้งคณะกรรมการอย่างน้อย 2 ชุดตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบนั้น

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2556 (หลังตกเป็นข่าว) นายศุภกิจ ริยะการ สรรพากรพื้นที่ 22 ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 5 ฉบับ (เท่าที่ตรวจสอบพบ) ขอให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัทที่ ถูกตรวจภาษีอากรไว้ก่อน ภายในกำหนดเวลา 6 เดือนนับแต่วันที่ที่ได้รับหนังสือนี้ โดยให้เหตุผลว่า สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ได้ตรวจสอบภาษีอากรบริษัทดังกล่าว (ฉบับละ 1 บริษัท)

ทั้งนี้ นิติบุคคลที่ถูกขอให้ระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี ได้แก่ บริษัท เดอะสตาร์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท บี.เค.แอล.เมทัล จำกัด บริษัท พีพีทรัพย์โลหะ จำกัด บริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด

อย่างไรก็ตาม หนังสือขอให้ระงับการรับจดทะเบียนชำระบัญชีทั้ง 5 ฉบับทำขึ้นพร้อมกันเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2556 แต่ทว่า สำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 ได้ลงรับวันที่ 17 มิถุนายน 2556 จำนวน 3 ฉบับ คือกรณี บริษัท พีพีทรัพย์โลหะ จำกัด บริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด และ บริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด ส่วนอีก 2 ฉบับคือกรณี บริษัท เดอะสตาร์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท บี.เค.แอล.เมทัล จำกัด สำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 ลงรับหนังสือดังกล่าววันที่ 18 มิถุนายน 2556

น่าสังเกตว่า นายศุภกิจ ริยะการ ผู้ออกหนังสือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 30 บริษัทที่ก่อตั้งอย่างมีเงื่อนงำในพื้นที่บางรัก ในฐานะสรรพากรพื้นที่ 22 ขณะเดียวกันเมื่อตกเป็นข่าวกรณีคืนภาษีอาจมีเงื่อนงำ นายศุภกิจก็มีคำสั่งขอให้ระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัทดัง กล่าว

จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจ การค้าพบว่า บริษัท พีพีทรัพย์โลหะ จำกัด บริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด นายทะเบียนได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 บริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด นายทะเบียนได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556

ขณะที่ บริษัท เดอะสตาร์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท บี.เค.แอล.เมทัล จำกัด ได้จดทะเบียนเลิกบริษัท ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้วเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 และ วันที่ 20 พฤษภาคม 255 ตามลำดับ ขณะนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี
 

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภกิจเป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกสอบสวนข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อ เท็จจริงของกระทรวงการคลัง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ได้รับการร้องทุกข์กล่าวโทษจากกระทรวงการคลัง
………
อ่านประกอบ:

เปิดโฉมหน้า 14 กรรมการ 30 บริษัทปริศนา!12 คนอยู่“พิจิตร”

เปิด“ชื่อ -วงเงิน” 30 บริษัทปริศนา! ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 3.6 พันล้าน

พบ 30 บริษัทปริศนา!ขอคืนภาษี 3.6 พันล้าน เพิ่งก่อตั้ง-ใช้เบอร์โทร.เดียวกัน

ข้อมูลฉบับเต็ม 58 บริษัทเครือข่ายคืนภาษี 4.2 พันล้านใช้กรรมการ 31 คน

001saaa


ซี 8 สรรพากรเอาบ้าง!ร่อนหนังสือ“แช่แข็ง”30 บริษัทคืนภาษี ไล่หลังซี 9 เกือบ 2 สัปดาห์

เขียนวันที่วันศุกร์ ที่ 23 สิงหาคม 2556 เวลา 20:00 น.เขียนโดย isranews

ซี 8 สรรพากร เอาบ้าง!ร่อนหนังสือถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้ระงับจดทะเบียน“เสร็จชำระบัญชี”เลิก 30 บริษัทเครือข่ายคืนภาษีในพื้นที่บางรักเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง หลังมีส่วนกรณี 3.6 พันล้าน ทั้งที่ “ศุภกิจ” ซี 9 ส่งก่อนหน้านี้แล้ว 13 วัน

001ghjuu

ภายหลังเกิดกรณีคืนภาษีมูลค่า เพิ่ม 3.6 พันล้านในพื้นที่บางรัก มิใช่แค่นายศุภกิจ ริยะการ สรรพากรพื้นที่ 22 (บางรัก) ที่ขอให้ผู้อำนวยการสำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัทที่ถูกตรวจภาษีอากรไว้ก่อน ภายในกำหนดเวลา 6 เดือน

(อ่านประกอบ:เปิดหนังสือ“ซี 9”บางรัก ให้ระงับจดทะเบียนบริษัทคืนภาษี หลังเสียหาย 3.6 พันล.)

นายมานิตย์ พลรัตน์ นัก วิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติราชการแทนสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 ขอให้ระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัทดังกล่าวไว้เหมือนกัน

ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจ สอบพบว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2556 นายมานิตย์ พลรัตน์ นักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติราชการแทนสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 ระบุว่า สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ได้ทำการตรวจสอบภาษีอากรรายนิติบุคคล จำนวน 30 ราย ดังนี้เพื่อประโยชน์ของทางราชการ จึงขอความอนุเคราะห์

1.ขอคัดหลักฐานการจดทะเบียนนิติบุคคลและงบการเงินจำนวน 30 ราย

2.ระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีไว้ก่อนภายในกำหนดเวลา 1 ปี 6 เดือนนับแต่วันที่ได้ลงนามในหนังสือนี้

รายชื่อนิติบุคคล 30 รายได้แก่

1.บริษัท เค.เค.พี.โอ.ไอ. จำกัด 2.บริษัท จี.จี.พี.เอส.ไอ. จำกัด 3.บริษัท เกิดทรัพย์มั่งมี จำกัด 4.บริษัท โอ.เอ.โอ.พี. จำกัด5.บริษัท พี.เอส.สำราญ จำกัด

6.บริษัท หอกิตติทรัพย์ จำกัด 7.บริษัท พีพีทรัพย์ โลหะ จำกัด 8.บริษัท นำชัยเจริญโลหะเก่า จำกัด 9.บริษัท เอ็ม.กรุ๊ป เมทัล จำกัด

10.บริษัท เค.วี.เมทัล จำกัด 11.บริษัท วี.เอ็ม.ที.เมทัล จำกัด 12.บริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด 13.บริษัท สเตรทเทรด จำกัด 14.บริษัท แซดคาซ่า จำกัด 15.บริษัท ไอ.เอส.เอส.เทรดดิ้ง จำกัด

16.บริษัท ดี.เอส.ที.เทรดดิ้ง จำกัด 17.บริษัท ลีดเดอร์สตีล จำกัด 18.บริษัท เดอะสตาร์กรุ๊ป จำกัด 19.บริษัท เมเจอร์ เมทัล จำกัด 20.บริษัท เอส.ยู.พี.สตีล จำกัด

21.บริษัท ซัพพลาย เมทัล จำกัด 22.บริษัท บี.เค.แอล.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด 23.บริษัท โอ.เค.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด 24.บริษัทไซเบอร์ เทรดดิ้ง จำกัด 25.บริษัท วี.อี.อาร์.เค. จำกัด

26.บริษัท ทีเอ็นอาร์สตีล เมทัล จำกัด 27.บริษัท โนเว็น สตีล จำกัด 28.บริษัท เอส.สตีล.เทรดดิ้ง จำกัด 29.บริษัท ฟูลลี่ เมทัล จำกัด 30.บริษัท ไมนัส เมทัล จำกัด

น่าสังเกตว่า การส่งหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ของนายมานิตย์ เกิดขึ้นภายหลังจากนายศุภกิจ ริยะการ สรรพากรพื้นที่ 22 ที่ทำหนังสือ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2556 ถึงผู้อำนวยการสำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 ขอให้ระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัทที่ถูกตรวจภาษีอากรไว้ ก่อน ภายในกำหนดเวลา 6 เดือน ได้แก่ บริษัท เดอะสตาร์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท บี.เค.แอล.เมทัล จำกัด บริษัท พีพีทรัพย์โลหะ จำกัด บริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งในความเป็นจริงบางบริษัทในกลุ่มนี้ได้จดทะเบียนชำระบัญชีเสร็จไปก่อน หน้านี้แล้ว 

สำหรับ นายมานิตย์ นักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ (หัวหน้าทีมกำกับดูแล ก06) พื้นที่ 22 ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกรณีคืนภาษีมูลค่าเพิ่มราย 30 บริษัทดังกล่าวด้วย

001ppgo


“แช่แข็ง”บริษัทคืนภาษีฉาว“นนทบุรี-สมุทรสาคร” พบ“รายเดียว”โผล่ 2 จว.

เขียนวันที่วันเสาร์ ที่ 24 สิงหาคม 2556 เวลา 20:00 น.เขียนโดย isranews

เปิดหนังสือสรรพากร“นนทบุรี-สมุทรสาคร” เอาด้วย“แช่แข็ง”บริษัทเครือข่ายคืนภาษี จี้ระงับจดทะเบียนเสร็จชำระบัญชี อ้าง จนท.ยังสอบไม่เสร็จ พบรายเดียวมีชื่อโผล่ 2 จังหวัด

001awerrtt

การขอให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคืน ภาษีมูลค่าเพิ่มกว่า 4.3 พันล้าน (ตัวเลขที่กระทรวงการคลังแถลงล่าสุดเมื่อ 22 ส.ค.56) มิใช่เกิดขึ้นเฉพาะสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ซึ่งมีความเสียหายจำนวนมากเท่านั้น หากแต่มีการร้องขอจากสรรพากรพื้นที่สมุทรสาครและและนนทบุรีด้วย

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2556 นายสุวัฒน์ หิรัญวัฒน์วนิช นักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติราชการแทนสรรพากรพื้นที่สมุทรสาคร 2 ได้ทำหนังสือถึงหัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสมุทรสาครขอให้ ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัท ทองสุขพี เอ การ ค้าจำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 14/116 ตำบลบางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยให้เหตุผลว่า บริษัทดังกล่าวค้างชำระภาษีอากรกับกรมสรรพากรและยังมิได้ชำระหนี้ภาษีอากร ให้เสร็จสิ้น

หนังสือระบุว่า จึงขอให้เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสมุทรสาครตรวจสอบว่า ผู้ค้างภาษีรายดังกล่าวได้จดทะเบียนเลิกบริษัทและหรือจดทะเบียนเสร็จการชำระ บัญชีแล้วหรือไม่ จดเมื่อ วันเดือน ปีใด หากยังขอให้ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีไว้จนกว่าสำนักงานสรรพากร พื้นที่สมุทรสาคร 2 จะดำเนินการเร่งรัดจัดเก็บภาษีอากรค้างดังกล่าวแล้วเสร็จสิ้น

สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสมุทรสาครได้รับหนังสือดังกล่าวเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556

ขณะที่วันที่ 18 กรกฎาคม 2556 นายปัญญา พรหมจรรย์ นักตรวจสอบภาษีชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติราชการแทนสรรพากรพื้นที่นนทบุรี ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักข้อมูลธุรกิจ ขอให้ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัท ทองสุขพี เอ จำกัด และบริษัท บาลานซ์ สตีล จำกัด โดยให้เหตุผลว่า สำนักงานสรรพากรพื้นที่นนทบุรีได้ตรวจสอบการเสียภาษีอากรของนิติบุคคลดัง กล่าวยังไม่แล้วเสร็จจึงขอให้เจ้าหน้าที่ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระ บัญชีไว้คราวก่อน จนกว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จ

สำนักข้อมูลธุรกิจได้รับหนังสือดังกล่าวเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ทองสุขพี เอ จำกัด ซึ่งถูกสรรพากรพื้นที่สมุทรสาคร 2 และสรรพากรพื้นที่นนทบุรีระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีนั้น ได้จดทะเบียนจัดตั้งต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2555 มีนายสุรเชษฐ์ มหารำลึก (1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีคืนภาษีที่ถูกศาลออกหมายจับ) เป็นผู้จองชื่อนิติบุคคล นายเสน่ห์ สิงหา เป็นผู้ก่อการจดทะเบียน แต่มอบอำนาจให้นายสุรเชษฐ์ยื่นจดทะเบียนบริคณห์สนธิและจัดตั้งบริษัทต่อนาย ทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดสมุทรสาคร ที่ตั้งเลขที่ 286/1 ถนนเพชรเกษม อ.อ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร ต่อมาวันที่ 18 มกราคม 2556 ได้ย้ายที่ตั้งเลขที่ 14/116 หมู่ที่ 7 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งที่ตั้งเลขที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งเลขที่เดียวกับบริษัท โฮกิตติคุณ จำกัด และ บริษัท สินทรัพย์อนันต์สุข จำกัด เป็นเครือข่ายคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ส่วนบริษัท บาลานซ์ สตีล จำกัด จดทะเบียนวันที่ 14 พฤศจิกายน 2555 ที่ตั้งเลขที่ 99/1087 หมู่ที่ 6 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ต่อมาวันที่ 20 มีนาคม 2556 ย้ายที่ตั้งเลขที่ 78/14 หมู่ที่ 2 ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี (ที่ตั้งเดียวกับบริษัท รีเวอร์สตีลเมทัล เทรดดิ้ง จำกัด)นายอนันต์ คำงาม และ นายสุรเชษฐ์ มหารำลึกเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
…………

อ่านประกอบ:

เปิดหนังสือ“ซี 9”บางรัก ให้ระงับจดทะเบียนบริษัทคืนภาษี หลังเสียหาย 3.6 พันล.

ซี 8 สรรพากรเอาบ้าง!ร่อนหนังสือ“แช่แข็ง”30 บริษัทคืนภาษี ไล่หลังซี 9 เกือบ 2 สัปดาห์

พบ 9 บริษัท“นนทบุรี-สมุทรปราการ”โยงกลุ่มคืนภาษีฉาว 3.6 พันล้าน

ปูดอีกอุปโลกน์“บ้านร้าง”ตั้ง 2 บริษัท โยงเครือข่ายคืนภาษี 3.6 พันล้าน

001ipi

001opi


เปิดชื่อซี 9-18 ขรก.สรรพากรเสี่ยงถูกเชือดปมคืนภาษีฉาว 4.3 พันล้าน?

เขียนวันที่วันอาทิตย์ ที่ 25 สิงหาคม 2556 เวลา 20:00 น.เขียนโดย isranews

แกะรอยผลสอบสวนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีคืนภาษีมูลค่าเพิ่มฉาว 4.3 พันล้าน เปิดชื่อ ข้าราชการอยู่ในข่ายกลุ่มเสี่ยงถูกเชือดวินัย พื้นที่บางรักอื้อ“ศุภกิจ-ลัดดา-มานิตย์”ติดโผ 18 คน?

001gfkldo

ในการแถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จ จริงกรณีคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากการส่งออกกว่า 4 พันล้านบาทมีนายประสิทธิ์ สืบชนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธานคณะกรรมการฯเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2556 สรุปผลในเบื้องต้นว่ามีเจ้าหน้าที่อาจจะเกี่ยวข้อง จำนวน 18 ราย แบ่งเป็นข้าราชการอำนวยการระดับสูง ซี 9 จำนวน 4 ราย และข้าราชการระดับปฏิบัติงานอีกจำนวน 14 ราย (ผลสอบเบี้องต้น เสียหาย 4.3 พันล้าน)
 

ขณะที่ผลสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อ เท็จจริงที่กรมสรรพากรแต่งตั้งขึ้นซึ่งชิงแถลงข่าวก่อนประมาณ 2 ชั่วโมงในวันเดียวกัน สรุปผลสอบสวนเบื้องต้นว่ามีเจ้าหน้าที่สรรพากรเกี่ยวข้องจำนวน 10 ราย แต่ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ว่าทั้ง 10 รายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตด้วยหรือไม่ เพราะต้องรอข้อมูลการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อีกครั้ง
 

เท่ากับคณะกรรมการฯทั้งสองชุดมิได้เปิดเผยรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับกรณีคืนภาษี 4.3 พันล้านว่ามีใครบ้าง?
 

อย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณาจากพื้นที่ที่เครือข่ายนายวีรยุทธ แซ่หลก กับพวกจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทประกอบไปด้วย 4 พื้นที่คือ
 

1.พื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตบางรัก
 

2.พื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ
 

3.พื้นที่จังหวัดนนทบุรี
 

4.พื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร
 

พื้นที่บางรักเป็นพื้นที่หลักเกิดความเสียหายมากที่สุด ขณะเกิดเหตุมีนายศุภกิจ ริยะการ ผู้ บริหารระดับ 9 รับผิดชอบ หลักฐานสำคัญที่เกี่ยวโยงคือบันทึกคำสั่งของนายศุภกิจเวียนถึงทุกส่วนและทีม กำกับภาษีที่อ้างถึงคำสั่งอธิบดีระบุว่า
 

“ให้ทุกทีมกำกับตรวจความเรียบ ร้อยของแต่ละสำนวนการตรวจของตนเอง ให้เรียบร้อยตามแนวปฏิบัติของ มก. แต่สำหรับผลการตรวจเยี่ยม ข้อ 3 วรรคท้ายที่ให้ชะลอการคืนภาษี 6 เดือนแรกนั้น เป็นเพียงความเห็นของผู้ตรวจซึ่งเรื่องนี้ท่านอธิบดีได้แจ้งให้ที่ประชุม คราวตรวจเยี่ยม สท.22 ให้คืนได้ทันทีเมื่อผลการตรวจไม่พบประเด็นความผิด โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 6 เดือน”
 

บันทึกความเห็นฉบับนี้เกิดขึ้นภายหลังจาก นางชนาทิพย์ วีรสืบพงศ์ และคณะผู้ตรวจราชการสำนักมาตรฐานการกำกับและตรวจสอบภาษี เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2556 เพื่อสุ่มตรวจสำนวนการตรวจสอบภาษี รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะและให้คำแนะนำทางการแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงาน นางชนาทิพย์มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ชะลอการคืนภาษีช่วง 6 เดือนภาษีแรกไว้ก่อน แม้ว่าผลการตรวจจะกลับมาก่อนครบ 6 เดือนก็ตาม
 

รองลงมา ลำดับ 2 คือ นางลัดดา บวรสมบัติ ผู้ช่วย สท.22 อยู่ในข่ายร่วมรับผิดชอบในฐานะผู้บริหาร ล่าสุดมีข่าวระบุว่าเจ้าตัวทำใจ
 

ลำดับ 3 นายมานิตย์ พลรัตน์ นักตรวจสอบภาษีชำนาญการพิเศษ (หัวหน้าทีมกำกับดูแล ก06) ซึ่งปรากฎชื่อเป็นผู้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอให้ระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัท 30 บริษัทเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2556 ซึ่งทีมกำกับดูแลทีม ก06 มีเจ้าหน้าที่ ทั้งหมด 6 คน มีหัวหน้าทีมย่อย 2 คน คือ นางสาวกรพินธุ์ ปิ่นมี หัวหน้าทีมย่อย และนางสาวจารุณี ฉิมคล้าย หัวหน้าทีมย่อย และมีเจ้าหน้าที่ในทีมย่อยอีก 4 คน
 

จากการตรวจสอบพบว่า ทีมกำกับดูแล ก06 คือ นางสาวกรพินธุ์ ปิ่นมี และนางสาวจารุณี ฉิมคล้าย ปรากฏชื่อในท้ายหนังสือของนายศุภกิจที่ส่งถึงผู้อำนวยการสำนักบริการข้อมูล ธุรกิจ 4 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอให้ระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัทที่ถูกตรวจภาษีอากรไว้ ก่อน เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2556 ด้วย โดยนางสาวกรพินธุ์ ปิ่นมี ปรากฏชื่อในหนังสืออย่างน้อย 3 ฉบับ นางสาวจารุณี ปรากฏชื่อในท้ายหนังสืออย่างน้อย 2 ฉบับ (อ่านประกอบ:เปิดหนังสือ“ซี 9”บางรัก ให้ระงับจดทะเบียนบริษัทคืนภาษี หลังเสียหาย 3.6 พันล.)
 

พื้นที่จังหวัดสมุทรปราการมีความเสียหายรองลงมา 1,135 ล้านบาท ขณะเกิดเหตุมีนายพายุ สุขสุดเขียว สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1 ผู้บริหารระดับ 9 เป็นผู้รับผิดชอบ

จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่นี้ได้คืนภาษี มูลค่าเพิ่มให้บริษัทกลุ่มนายวีระยุทธ แซ่หลก อย่างน้อย 5 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท ฟรีไทม์ ค้าโลหะ จำกัด 2.บริษัท เอ็นอีเอ โลหะการค้า จำกัด 3.บริษัท บีบีรีไซเคิล จำกัด 4.บริษัท บีบีกรุ๊ป วัน จำกัด 5.บริษัท บีบีบิ๊ก จำกัด รวม 5 บริษัท 650.8 ล้าน บาท
 

และพบอีกว่านายพายุเป็นผู้ทำ หนังสือถึงหัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสมุทรปราการขอให้ระงับ การจดทะเบียนเลิกบริษัทดังกล่าวในเวลาต่อมาอีกด้วย
 

ขณะที่พื้นที่จังหวัดนนทบุรีและ สมุทรสาคร บริษัทกลุ่มนายวีรยุทธได้จดทะเบียนในพื้นที่นี้หลายบริษัท อาทิ บริษัท โฮกิตติคุณ จำกัด บริษัท สินทรัพย์อนันต์สุข จำกัด บริษัท บาลานซ์ สตีล จำกัด เป็นต้น ในจำนวนนี้ 1 แห่งย้ายมาจากสมุทรสาคร คือ บริษัท ทองสุขพี เอ การค้า จำกัด
 

แต่ทว่าในเวลาต่อมาสำนักงานสรรพากร พื้นที่นนทบุรีได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักข้อมูลธุรกิจให้ระงับการจด ทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีนิติบุคคลของบริษัทที่จดทะเบียนในพื้นที่นนทบุรี ผู้ลงนามคือ นายปัญญา พรหมจรรย์ นักตรวจสอบภาษีชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติราชการแทนสรรพากรพื้นที่นนทบุรี
 

ส่วนสำนักงานสรรพากรพื้นที่สมุทรสาคร 2 คนที่ทำหนังสือถึงหัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสมุทรสาครคือนายสุวัฒน์ หิรัญวัฒน์วนิช นักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติราชการแทนสรรพากรพื้นที่สมุทรสาคร 2

กระนั้นไม่มีข้อมูลว่า ทั้งสองคนเกี่ยวข้องกับการคืนภาษีให้แก่บริษัทกลุ่มนี้หรือไม่
 

ถ้ามองในภาพรวมผู้บริหารระดับ 9 จำนวน 4 คนที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยตามผลสอบสวนของกระทรวงการคลังนั้น โอกาสที่พื้นที่ 22 หลุดรอดสังเวย มีน้อยที่สุด?
 

ที่น่าสนใจ มีสูงกว่าระดับ 9 ด้วยหรือไม่?


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : พบ 30 บริษัทปริศนา ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 3.6 พันล้าน เพิ่งก่อตั้ง เบอร์โทร.เดียวกัน

view