สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ขาใหญ่ตั้งโต๊ะสกรีน เปอร์เซนต์

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ปัญหาเศรษฐกิจที่อยู่ในจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ ยังไม่รู้ว่าจะขยายตัวอย่างที่รัฐบาลหวังไว้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เมื่อวานนี้

ครม.เศรษฐกิจ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฟิตจัด เรียกประชุมรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ เพื่อติดตามสถานการณ์ประจำสัปดาห์

ทุกคนเห็นตรงกันว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 มีสัญญาณชะลอตัว แต่ตรงกันข้าม รัฐบาลกลับคาดหวังแบบโชคช่วย ว่าเศรษฐกิจไตรมาส 3-4 จะมีทิศทางที่ดีขึ้น มิหนำซ้ำยังเชื่อไปถึงขั้นว่าจะดีขึ้นกว่าปีก่อน

รัฐบาลยังหวังอีกว่า การส่งออกครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวกว่าช่วงครึ่งปีแรก แถมบอกด้วยว่า รัฐบาลจะเจรจากับผู้ซื้อ แต่สินค้าที่ทำให้การส่งออกตกวูบ เห็นทีจะเป็นสินค้าที่แสนสาหัสอยู่ ตรงนี้อาจจะเป็นความหวังของรัฐบาล

แต่คำตอบคงจะอยู่ที่ผู้ซื้อ ว่าเขาจะซื้อจากเราจริงหรือ? ในภาวะที่ประเทศผู้ซื้อก็มีปัญหาเศรษฐกิจอยู่เหมือนกัน
เมื่อวานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เข้าชี้แจงถึงภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2556 รวมถึงมาตรการกระตุ้น

เชื่อว่าคณะกรรมาธิการฯ เอง ก็คงจะมองไม่ออกเหมือนกันว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวด้วยเหตุผลใด ที่สำคัญกระทรวงพาณิชย์ ดูเหมือนจะสารภาพกลายๆ ทำนองว่า การส่งออกปีนี้ไม่น่าจะเติบโตดีสักเท่าไหร่ ตัวเลขที่โผล่ออกมากลางวงคณะกรรมาธิการฯ ปรากฎว่า การส่งออกปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 2.68%

หากสถานการณ์จะเป็นไปอย่างนี้ ก็เท่ากับว่า กระทรวงพาณิชย์คงต้องทบทวนตัวเลขการส่งออกอีกครั้งใช่หรือไม่ และถ้าการส่งออกโตแค่นี้ จะเกิดอะไรขึ้นตามมา เป็นเรื่องที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิดทีเดียว

อีกมุมหนึ่ง แม้เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร จะชะลอหรือเลวร้ายแค่ไหน แต่มีคนกลุ่มหนึ่งที่ "ไม่สนใจ" ตัวเลขความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เพราะคอยแต่จ้องจะฉกฉวยโอกาสหาผลประโยชน์ อย่างเป็นล่ำเป็นสัน

คนกลุ่มนี้ ทำงานกันเป็น "ก๊วน" เรียกง่ายๆ ว่าเป็นกลุ่มที่คอยบริหารจัดการผลประโยชน์ ในทุกๆ ส่วน ทั้งราชการและรัฐวิสาหกิจ ใครจะได้งาน ไม่ได้งาน จะต้องผ่าน "ขาใหญ่" ในกลุ่มนี้เท่านั้น แถมการเจรจาแต่ละเรื่อง ใช่ว่าครั้งเดียวจะผ่าน อาจต้องเจรจาต่อรอง 2-3 ครั้งเป็นอย่างน้อย บางโครงการหากมูลค่าลงทุนหลายพันล้าน ก็มีเงื่อนไขขอไปศึกษารายละเอียดก่อน โดย "ขาใหญ่" จะไม่ตอบรับโอเคหรือไม่โอเคในเวลานั้น เพราะต้องนำไปคำนวณกันทุกกระเบียดนิ้ว

ฉะนั้น การเจรจาหรือต่อรอง จะกี่ครั้งก็ตาม ผลสุดท้ายต้องจบที่ตัวเลข ที่ "สูงลิ่ว"

ตัวเลขที่ว่านี้ "ขาใหญ่" รับไปส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งต้องมีข้อเสนอ ที่พร้อมจะซัพพอร์ต "ส่วนกลาง" ด้วย หากรับข้อเสนอนี้ไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าจะได้งานอะไรจากรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจที่ "ขาใหญ่" กลุ่มนี้แฝงตัวอยู่ รวมไปถึงโครงการที่มี "เครือข่าย" ดูแลอยู่

วันนี้ ผู้ที่อยากได้งานจากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวนไม่น้อยต้อง "จำยอม"กับเงื่อนไขที่ถูกสร้างขึ้นไม่ หากไม่ยินดีที่จะรับเงื่อนไขโหดที่วางไว้ อย่าหวังที่จะได้งาน ไม่ว่างานนั้นๆจะเป็นอะไรก็ตาม

กลุ่มนี้จะมีการคัดกรองเปอร์เซ็นต์ละเอียดยิ่งกว่า "คิวซี" งานบางอย่างเสียด้วยซ้ำ ที่น่าสนใจ แต่เดิมเรียกเคยเปอร์เซ็นต์ตามความพอใจ แต่ยุคใหม่นี้เรียกโดย คิดคำนวณเปอร์เซ็นต์จากมูลค่าของโครงการ

ข้อพึงระวัง เครือข่ายหรือผู้มีอำนาจกระทรวงไหน ที่คิดแตกแยก แอบไปรับข้อเสนอผลประโยชน์เอง โดยไม่ผ่าน"ขาใหญ่" กลุ่มนี้ ก็อย่าหวังที่จะนั่งอยู่ในตำแหน่งได้ ที่ผ่านมา ใครมีพฤติกรรมเรียกเอง ก็จะเจอปลดออกกลางคัน แบบหาสาเหตุไม่ได้ ตัวอย่างนี้ มีให้เห็นอยู่หลายกระทรวง หลายหน่วยงาน

ฉะนั้น หากบ้านเมืองยังมีเรียกเปอร์เซ็นต์สูง เพียงเพื่อผลประโยชน์ของคนในกลุ่มก๊วนอยู่อย่างนี้ โดยไม่แคร์ แล้วเศรษฐกิจบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร

ถามว่าคนที่ได้งานไป "ต้นทุนสูง" เขาจะไม่เรียกคืนจากประชาชนคนอย่างเราๆ หรืออย่างไร

สำคัญยิ่ง เงินใต้โต๊ะที่นับวันต้องจ่ายกันเป็นล่ำเป็นสัน ใช่เงินภาษีประชาชนหรือไม่

เรื่องนี้ อยากให้ผู้นำประเทศ ช่วยส่งทีมไปสอดส่องสักหน่อย เศรษฐกิจก็ใช่ว่าจะดีนัก หากยังต้องเผชิญอยู่กับเรื่องอย่างนี้ แล้วประเทศชาติจะอยู่รอดได้อย่างไร


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ขาใหญ่ ตั้งโต๊ะ สกรีน เปอร์เซนต์

view