จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

การวางแผนการเงินดี ไม่ใช่ผลทางความมั่งคั่งอย่างเดียว แต่เหมือนเป็นการวางหมากการใช้ชีวิตของเราให้ปลอดภัยและมั่นคง

หนุ่มวิศวะดีกรีนักเรียนนอกผู้มีประสบการณ์มาก ซึ่งเคยทำงานในบริษัทรถยนต์รายใหญ่ หรือแม้กระทั่งเคยลงสมัคร ส.ส. แต่ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ สะเทือนการเงินครั้งใหญ่ของไทย "นท เกริกฤทธิ์วณิช" ได้ผันตัวเองมาเป็นนักลงทุนอย่างจริงจัง บนเส้นบางๆ ของคำว่าเสี่ยง แต่เขาสามารถฟันฝ่าทุกอย่าง และ ล่าสุด เขาดำรงตำแหน่งประธานบริหาร บริษัท สตาร์เทรดเดอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด

ในเรื่องของเงินๆ ทองๆ นั้น เขาเล่าย้อนให้ฟังว่า เรียนรู้เรื่องการจัดสรรรายได้ตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆ ที่บ้านสอนให้รู้จักบริหารรายได้และค่าใช้จ่ายเอง โดยเริ่มต้นมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และ ATM แต่หลังจากเรียนจบและเริ่มทำงานก็เริ่มศึกษาการบริหารเงินและมีบัญชีเพื่อการลงทุนแยกออกมาอีกหนึ่งบัญชี เพื่อให้มีวินัยในทางการเงินเพิ่มมากขึ้น

"โดยส่วนตัวผมคิดว่าคนที่จะมีวินัยในการจัดสรรและวางแผนทางการเงินที่ดี ก็จะสามารถเป็นนักลงทุนที่ดีได้"

ทุกวันนี้ นท บอกว่ารายได้ของเขาถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือค่าใช้จ่ายทั่วๆไป ตามปกติแล้วรายได้ส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดเพราะจะเป็นตัวกำหนดสัดส่วนในการลงทุน ถ้ามีการใช้จ่ายมากเกินไป ความสามารถในการลงทุนก็จะลดน้อยลงไปตามลำดับ

"ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบการลงทุน เลยพยายามจะใช้จ่ายในส่วนนี้เท่าที่จำเป็น โดยจะตั้งงบไว้ว่าต่อเดือนจะใช้ไม่เกินจากที่กำหนด ไม่ว่าเป็นค่ากินอาหาร ค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ ถ้าใช้เกิน เดือนถัดไปก็ต้องจัดสรรเฉลี่ยตามที่เราวางแผนไว้ ถ้าเราวางแผนการเงินในชีวิตประจำวันได้ การวางแผนการลงทุนของเราก็จะง่ายตามกันไปด้วย"

อีกส่วนหนึ่ง นท บอกว่าเป็นเงินออมเพื่อการลงทุน เขาบอกว่ารายได้ส่วนใหญ่ของเขามีไว้เพื่อ “การลงทุน” ซึ่งต้องเป็นการลงทุนที่ต้องรับความเสี่ยง ค่อนข้างสูงควรเริ่มทำเมื่อเรายังอายุน้อย ส่วนใหญ่เขาลงทุนในตลาดหุ้น และอสังหาริมทรัพย์ ถ้าสภาวะตลาดหุ้นไม่เป็นใจเราก็ควรรอโอกาส ไม่ควรฝืนตลาดทุ่มจนหมดตัว เพราะบางครั้งหุ้นลงหนักๆ แต่เราไม่มีการเตรียมพร้อม ก็เหมือนเรามีปืนในมือแต่ไม่มีกระสุน ก็จะเสียโอกาสนั้นๆ ไปได้ ถ้าโอกาสมาก็ต้องรีบตัดสินใจ เพราะการลงทุนเป็นเรื่องของจังหวะและโอกาส การเป็นนักลงทุนที่เก่งสำหรับเขา คือ การรู้จักรอจังหวะที่ดีและตัดสินใจในช่วงเวลาที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ ที่สำคัญที่สุดคือ "เงินสำรองฉุกเฉิน" เงินส่วนนี้จะเก็บไว้ใช้ในยามที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องสามารถนำมาใช้ได้ทันทีในเวลาคับขัน ยกตัวอย่างเช่น เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว เกิดรายจ่ายที่ไม่ได้คาดคิดค่อนข้างสูงไม่ว่าจะกั้นบ้านน้ำท่วม ซ่อมบ้านหลังน้ำลด ฯลฯ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้เสมอ เราจึงต้องเตรียมพร้อมทุกขณะ การออมอย่างรอบคอบจะทำให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีสติ

สำหรับโหมดของการลงทุนนั้น นทบอกว่า ส่วนใหญ่จะลงทุนในตลาดหุ้น เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ชอบติดตามข่าวสาร สถานการณ์ต่างๆ และวิเคราะห์ข่าวนั้นๆ ว่าส่งผลกระทบต่อบริษัท หรือหุ้นตัวไหนบ้าง ข่าวดีหรือร้ายสามารถเปลี่ยนเป็นได้ทั้งวิกฤติและโอกาส ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและการวิเคราะห์ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการลงทุนของเรา ทั้งนี้เราต้องอาศัยประสบการณ์เพื่อเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะสม ที่เอื้อต่อสถานการณ์นั้นๆ เพื่อก่อให้เกิดกำไรสูงสุดต่อการลงทุน

"ผมเริ่มมาลงทุนในตลาดหุ้นอย่างจริงจังในช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ในปี 2009เป็นช่วงที่ตลาดหุ้นตกต่ำมาก ราคาหุ้นถูก จนสามารถเลือกซื้อหุ้นตัวไหนก็ได้ตามต้องการ วิธีการเลือกซื้อหุ้นของผมอย่างแรก คือ ผมเลือกที่จะพิจารณาหุ้นที่ผมเข้าใจพื้นฐานของบริษัทซึ่งอยู่ในหมวดยานยนต์และหมวดเทคโนโลยี โดยส่วนตัวสนใจธุรกิจในด้านนี้เป็นพิเศษอยู่แล้ว ทำให้เข้าในโครงสร้างของบริษัทมากขึ้น"

ส่วนสไตล์การลงทุน ก็จะมีทั้งระยะสั้นและระยะยาว ขึ้นอยู่ที่ว่าหุ้นตัวนั้นๆ มีแนวโน้นในการเติบโตมากแค่ไหน ซึ่งต้องมาวิเคราะห์กันอีกที ส่วนหุ้นที่เขาไม่เล่นเลยคือ "หุ้นปั่น"เพราะเราไม่เข้าใจในตัวบริษัท และไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะนำมาวิเคราะห์ได้ เล่นข่าวล้วนๆ ไม่มีหลักการ หรือกฎเกณฑ์ เขาเชื่อว่าหุ้นคือการลงทุน ต้องมีการศึกษา ไม่เล่นโดยใช้อารมณ์ มิฉะนั้นการเล่นหุ้นจะไม่ต่างอะไรเลยจากการพนัน

ในโลกการลงทุน เขาชื่นชมนักลงทุนหลายๆ คน แต่คนที่ชอบที่สุดคือ "ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ" เพราะเป็นคนไทยที่มีความรู้ และประสบการณ์ในการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกมากที่สุดในวงการการเงิน และเป็นคนจุดประกายให้ผมมีความสนใจในตลาดหุ้นทั่วโลก

"จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ผมเลือกลงทุนในระยะที่เกิดเหตุวิกฤตการณ์ หรือ การเปลี่ยนแปลงนโยบายสำคัญของสถานการณ์ต่างๆ เนื่องจากเป็นช่วงที่เราจะได้เปรียบในเรื่องของโอกาสในการลงทุนและสามารถทำกำไรได้มากในอนาคต ทั้งนี้เราต้องมีการเตรียมพร้อมในเรื่องของการออม เพื่อรอจังหวะการลงทุนที่ถูกต้อง"

เขายังพูดถึงกระแสวัตถุนิยมในปัจจุบันว่ามีอิทธิพลมากต่อคนในยุคปัจจุบัน ทำให้เกิดความอยากได้ อยากมี มากกว่าความจำเป็น เขาขอฝากไว้สั้นๆ ว่า ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ถามตัวเองง่ายๆ สามข้อว่า มีหรือยัง จำเป็นหรือไม่ ได้ใช้หรือเปล่า ถ้าเราจะใช้ของฟุ่มเฟือย "ให้ใช้เงินเมื่อมีเงินเหลือที่จะเก็บ แต่ไม่ใช่เก็บเงินเพื่อที่จะได้ใช้"

"การวางแผนทางด้านการเงิน ไม่ใช่ผลทางความมั่งคั่งอย่างเดียว แต่มันเหมือนเป็นการวางหมากการใช้ชีวิตของเราด้วย การคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต การวางแผนครอบครัว หรือแม้กระทั่งแผนการเกษียณอายุ เพราะฉะนั้น การเริ่มที่จะมีวินัยในการเงินก็เหมือนเราได้สร้างความปลอดภัยและมั่นคงให้แก่ชีวิตเราเอง ในทางตรงกันข้าม การไม่มีวินัยส่งผลเสียไม่ใช่แค่ตัวบุคคล แต่รวมไปถึงครอบครัวและอนาคตของบุคคลนั้นๆ ด้วย"

เขามองว่า โดยส่วนใหญ่ในสังคมชั้นกลาง ยังไม่ได้คำนึงถึงเรื่องวางแผนการเงินกันมากนัก ค่านิยม การปลูกฝัง การออม และความรู้ในเรื่องการลงทุนยังมีไม่มากพอ ดังนั้น ครอบครัวมีส่วนสำคัญในการปลูกฝังนิสัยการใช้เงิน เราต้องสามารถเลือกเชื่อและไม่ตามความนิยมของคนหมู่มากจนเกินความพอดี รวมทั้งต้องศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุน ไปพร้อมๆ กัน

"ผมคิดว่าพอเพียง คือ ความพอใจและมีความสุขในสิ่งที่ตัวเองมี ซึ่งจุดเริ่มต้นของการวางแผนทางการเงิน คือ การกำหนดความหมายของความมั่งคั่งของตัวเองก่อน เพราะนิยามคำว่ามั่งคั่ง ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน พอเรามีนิยามที่เป็นของตัวเองแล้ว ก็จะได้เกิดความพอเพียง โดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่ทุกวันนี้ผมให้ความสำคัญกับสุขภาพ ตอนที่ทำงานเป็นพนักงานประจำอยู่ ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์แทบทั้งวัน จนมีอยู่วันหนึ่งขับรถไปทำงานแล้วตอนที่กำลังจะลงจากรถ มันมีความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาที่หลัง จะเดินต่อก็ไม่ไหว นั่งลงก็ไม่ได้ หาคนช่วยก็ไม่มี เจ็บมากจนน้ำตาแทบไหล กว่าจะเดินต่อได้ต้องใช้เวลาอีกสักพัก เลยทำให้เรากลับมาคิดถึงตัวเองมากขึ้น แต่ก่อนต้องตื่นหกโมง กลับบ้านเที่ยงคืน สุขภาพไม่ดีเลย หลังจากเหตุการณ์นั้นเลยตัดสินใจลาออก เพื่อมาดูแลสุขภาพตัวเอง"

นท พูดทิ้งท้ายว่า "ความรวย" ในทัศนะของเขาไม่ได้สำคัญอะไรมาก แต่ความสุขสำคัญมากกว่า "ความรวย" คนเราควรจะมีความพอใจและความพอดี ถ้าเรามีมากก็ต้องรู้จักแบ่งปัน ใช้เงินเพื่อสร้างความสุขตามความพอดี ให้ความสำคัญกับมัน แต่อย่าให้เงินมาเป็นเจ้านายเรา คิดง่ายๆ "การที่ไม่ต้องเป็นหนี้ใคร ผมว่านั้นคือรวยแล้ว"

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน