จาก โพสต์ทูเดย์

วงเสวนาป.ป.ช.เผย ค่าสินบนเพิ่มสูง 30% เล็งเสนอแก้กฎหมายเพิ่มอำนาจปราบโกง 

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี ได้จัดเวทีเสวนาโต๊ะกลม เรื่อง “การแบ่งปันประสบการณ์ 1 ปี กับการเฝ้าระวังตรวจสอบการทุจริตของเครือข่ายหมาเฝ้าบ้าน” โดยนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวว่า ที่ผ่านมาป.ป.ช.ได้ส่งคำเตือนไปยังผู้เกี่ยวข้องในหลายกรณี อาทิ โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน โครงการรับจำนำข้าว และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ป.ป.ช.ไม่ใช่ผู้ถือไม้กายสิทธิ์หรือซุปเปอร์แมน ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคอื่นๆ ด้วย หน้าที่ที่ดีที่สุดของ ป.ป.ช.ในเวลานี้ก็คือการกระตุ้นให้มีการสร้างเครือข่ายช่วยกันติดตามตรวจสอบ เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น

นายมานะ นิมิตรมงคล ผู้อำนวยการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า ขณะนี้พบว่ามีการเรียกรับสินบนที่หนักขึ้นเรื่อยๆจาก 5 % เป็น 30 %ในปัจจุบัน ทำให้เวลานี้ต้องจับตาโครงการลงทุนขนาดใหญ่ต่างๆ ของรัฐบาลที่อาจมีปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ประกอบด้วย 1.โครงการรับจำนำข้าว ที่มีพบการทุจริตตั้งแต่ล่างสุดยันบนสุด 2.โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งไม่มีการเปิดเผยข้อมูลในโครงการนี้ 3.โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท และ4.โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 3 พันคันของ ขสมก. ซึ่งผู้เชี่ยวชาญพบว่ามีราคาที่แพงเกินจริงคนละเกือบ 1 ล้านบาท

 นายมานะ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้เสนอแก้ไขอีก 2 ฉบับเพื่อป้องกันการทุจริตด้วย ได้แก่ 1.ร่างกฎหมายป้องกันการเรียกรับสินบนจากการขอใบอนุญาต เพราะที่ผ่านมาคนที่ไปยื่นขอใบอนุญาตตั้งโรงงานกับกระทรวงอุตสากรรมมักจะถูก เรียกรับสินบนใบละ 3-5 ล้านบาท และ 2.ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้มีผู้สังเกตการณ์ในกระบวนการจัด ซื้อจัดจ้างของภาครัฐ โดยสาระสำคัญคือให้มีบุคคลที่สามเข้าไปสังเกตการณ์การจัดซื้อจัดจ้างของภาค รัฐและสามารถขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งปัจจุบันร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ด้านนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา กล่าวว่า ยังมีภาคเอกชนบางส่วนไม่ยอมเข้าร่วมการเฝ้าระวังการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต โดยเฉพาะบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ และแม้ธนาคารต่างๆ จะอยู่ในองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น แต่ก็ยังปล่อยกู้ให้กับบริษัทเหล่านั้น ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของภาคประชาชนอีกทางหนึ่งที่จะลุกขึ้นมาเป็นพลังกดดัน

จากนั้นได้มีการแถลงถึงผลงาน 1 ปีโครงการส่งเสริมและพัฒนาการสร้างเครือข่ายป้องกันและปราบปรามการทุจริตใน ด้านคุณธรรม จริยธรรม และการเฝ้าระวังตรวจสอบการทุจริตในภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง (โครงการหมาเฝ้าบ้าน)

นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมีโครงการนี้ขึ้นมาเพราะป.ป.ช.ต้องการสร้างเครือข่ายในภาค ประชาชนให้มาร่วมกันตรวจสอบการทุจริต โดยป.ป.ช.ไม่สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้แต่เพียงลำพัง ประกอบกับในความจริงรัฐบาลมักจะไม่ค่อยให้สำคัญกับการจัดสรรงบประมาณให้กับ ป.ป.ช.เนื่องจากไม่ต้องการให้ป.ป.ช.เพิ่มกำลังคนเข้ามาตรวจสอบตัวเอง จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ป.ป.ช.ต้องสร้างเครือข่ายกับสังคมให้มีความ เข้มแข็ง

"เครือข่ายหมาเฝ้าบ้านถือว่าเวลานี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากกรณีทุจริตโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ซึ่งป.ป.ช.สามารถชี้มูลความผิดบุคคลในระดับรัฐมนตรีได้นั้นก็มาจากการทำงาน ร่วมกับภาคประชาชนโดยเฉพาะการลงพื้นที่เก็บข้อมูล" นายวิชา กล่าว

นายวิเชียร พงศธร กรรมการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในภาคเอกชนอย่างในกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้มีมาตรการออก มาแล้วว่าทุกบริษัทจะต้องมีนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามทุจริตมา ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ด้วยนอกเหนือไปจา การมีนโยบายการแสดงความรับผิดชอบต่องสังคม (ซีเอสอาร์) เท่านั้น

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน