http://www.108acc.com
  
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

หน้าแรก

วิสัยทัศน์/พันธกิจ

บริการของเรา

LINK 4 A/C

DOWNLOAD

ติดต่อเรา

.......... บทความ 108 ..........

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน (๔)

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน (2)

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน (๓)

ราชกิจจาฯ ประกาศมาตรการคง VAT 7% ออกไปอีก 1 ปี ถึงวันที่ 30 ก.ย.61 ..... คั่นเวลา

บัญญัติ 10 ประการที่ต้อง คำนึงในการวางระบบบัญชี และการควบคุม ภายใน (1)

อะไรคือข้อมูลทางบัญชี ?

องค์กรในมุมมองของนักบัญชี

วิธีการเลือกสำนักงานบัญชี

เจ้าของกิจการควรไปพบ สรรพากรเองหรือไม่

บัญญติ 10 ประการที่ต้อง คำนึงในการวางระบบบัญชี และการควบคุมภายใน (2)

สำนักงานบัญชีในฝัน (2)

สำนักงานบัญชีในฝัน (3)

สำนักงานบัญชีในฝัน (4)

สำนักงานบัญชีในฝัน (5)

สำนักงานบัญชีในฝัน (6)

การสุ่มตัวอย่างทางสถิติในการสอบบัญชี

ค่าทำบัญชีปีละ 2-3 หมื่นบาท คุณไปอยู่ที่ไหนมา

พรก.ยกเว้นการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากร 2558 ยื่นดีไหม

ธุรกิจปั่นป่วน เจอปัญหาขาดแคลนผู้สอบบัญชี จริงหรือ(1)

คุณสมบัตินักบัญชีที่ดี

จรรยาบรรณ ของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี

ธรรมบรรยาย ชุด จริยธรรมกับบัณฑิต - พุทธทาสภิกขุ

คลิปนี้ ชอบมาก

KPI เท่าไหร่ถึงพอ (1)

KPI เท่าไหร่ถึงพอ (2)

สถิติการจ่ายภาษีรายจังหวัด

สถิติการจ่ายภาษีตามภาค

สำนักงานบัญชีในฝัน (1)

สมาชิก

ลืมรหัสผ่าน?
สมัครสมาชิก
Gold charts on InfoMine.com

ยถากรรม คนไข้ ประกันสังคม

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ ชั้น5ประชาชาติ โดย สุชาฎา ประพันธ์วงศ์

เริ่มจากเรื่อง "ปวดฟัน" ลามไปสู่หัวข้อการสนทนาเรื่องสวัสดิการประกันสุขภาพจากสำนักงานประกันสังคม มอบให้มนุษย์เงินเดือน เพื่อคำนวณสิทธิประโยชน์อันพึงได้จากเงินที่สำนักงานประกันสังคมหักไปทุก เดือนสรุปได้ความว่า 1 ปี สามารถเบิกค่าทำฟันได้ไม่เกิน 600 บาท จากเดิมเบิกได้ไม่เกิน 500 บาทต่อปี

ย้ำว่าไม่เกิน ส่วนที่เกินก็จ่ายกันเองแต่ก็ยังดีที่เพิ่มให้ตั้ง 100 บาท ลองคิดคำนวณดูแล้ว ยังไงก็ไม่น่าจะพอรักษาฟันอยู่ดีเอาง่าย ๆ แค่ขูดหินปูนตามคลินิกก็ไม่พอจ่ายแล้วขูดหินปูนครั้งเดียวก็ราคา 600-900 บาท

ยังไม่นับโรคที่เพื่อนร่วมงานตั้งสมมุติฐานว่า อาจจะต้องรักษารากฟัน เพราะเคสนี้อาจจะต้องใช้เงินหลักพันหลักหมื่นบาท ตามกติกาที่ประกันสังคมกำหนด ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน รับบริการทันตกรรมที่สถานพยาบาล หรือคลินิก ให้นำใบเสร็จมาเบิกได้ไม่เกินครั้งละ 300 บาท และไม่เกิน 600 บาท/ปี

 

อีกกรณีคือ รอให้ฟันหมดปากก่อน จึงจะเบิกค่าฟันเทียมได้ ถ้าใส่ฟันเทียมฐานอะคริลิก ชนิดถอดได้บางส่วน ตั้งแต่ 1-5 ซี่ เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,300 บาท มากกว่า 5 ซี่ เบิกได้เท่าที่จ่ายจริง ในวงเงินไม่เกิน 1,500 บาท

ส่วนฟันเทียมฐาน อะคริลิก ชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่าง ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์และค่าฟันเทียมเท่าที่จ่าย จริงไม่เกิน 2,400 บาท และสูงสุดไม่เกิน 4,400 บาท ในระยะเวลา 5 ปี ราคานี้ไม่รู้จะซื้อฟันปลอมริมถนนท่าพระจันทร์ได้ไหม วงเงินที่ทางประกันสังคมมอบให้ ช่างไม่สมดุลกับค่าใช้จ่ายจริง ๆ เอาซะเลย
ดังนั้นความหวังที่จะพึ่งประกันสังคมจึงต้องพับไป

หากจะให้ความยุติธรรมกับยอดเงินที่ประกันสังคมกำหนดมาให้ คิดคำนวณจากค่ารักษาพยาบาลในสังกัดรัฐ อาจจะดูเป็นความจริงขึ้นมาได้บ้าง

แต่ การไปรักษาฟันที่สถานพยาบาลรัฐในเคสที่ทำมากกว่า "ถอนฟัน" อาจจะต้องรอนานหน่อย เพราะมีคิวที่รอรับรักษายาวเหยียด แถมอาการ "ปวด" แบบปัจจุบันทันด่วนเดี๋ยวนั้น ยังเป็นข้อห้ามในการรักษาต้องกลับมานอนซมกินยาระงับปวดให้เหงือกเยียวยาตัว เองไปก่อน

ส่วนเคสไหนที่ไปถอนฟัน รับรองว่าได้รับบริการอย่างประทับใจยากจะลืมได้ลงโดยเฉพาะ "ฟันกราม"จากที่ได้สัมผัสการรักษาฟันจากทั้งภาครัฐและเอกชน ในเคสเดียวกัน คือ "ฟันคุด" บอกได้คำเดียวว่า แตกต่างกันหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว ส่วนข้อดีและข้อเสีย ลองพิจารณากันเอาเอง

เริ่มจากการผ่าตัดฟันคุด ในคลินิกแห่งหนึ่ง ไม่นับบริการที่ดีกว่ารัฐอยู่แล้วคลินิกเลือกใช้วิธีการผ่าตัดเอาฟันคุดออก มา ซึ่งขั้นตอนก็ยุ่งยากทีเดียว ต้องเอกซเรย์ก่อน จากนั้นก็ลงมือผ่าตัดแบบเบามือ ขั้นตอนสุดท้ายคือต้องกลับไปตัดไหมที่เย็บให้เหงือกติดกัน ตอนนี้อาจจะไม่ต้องเพราะมีไหมละลาย

ขณะที่ผ่าตัดนั้นแทบไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะฤทธิ์ของยาชา แต่หลังจากยาหมดฤทธิ์แทบไม่ต้องเอ่ย...เจ็บเจียนตาย
โชค ดีที่ได้ยาระงับปวด ช่วยบรรเทา แต่ก็เจ็บอยู่หลายวันกว่าจะหายหมดไป 2,500 บาท เช่นเดียวกับสถานพยาบาลของรัฐ ก็มียาระงับปวดให้กลับไปรับประทานที่บ้านเหมือนกันผลสำเร็จเหมือนกัน แต่ต่างกันที่วิธีการรักษา ในอนามัยแห่งหนึ่งย่านชานเมืองซี่ละร้อยเดียว

เมื่อ คนไข้มาถึงทั้งแพทย์พยาบาลไม่พิรี้พิไร พยาบาลจับฉีดยาชาอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันจะชา แพทย์ก็ตามมาติดๆ เช็ก ว่า "ชาหรือยัง" ไม่ถามเปล่า มือตบตามมาติด ๆ

"ยังค่ะ"

"ชารึยัง"

"ยังค่ะ"

ปล่อยให้คุณหมอเช็กด้วยฝ่ามือ 3 ที สุดท้ายต้องยอม "ชาแล้ว" ไม่รู้เพราะฤทธิ์ยาหรือถูกตบจนหน้าชา (ฮา)

จากนั้นหมอก็หันไปหยิบผ้ามาคลุมหน้า เหลือไว้แค่ช่องปาก/จมูก มีช่องให้มองเห็นความเคลื่อนไหวได้บ้าง

 

ระหว่างนั้นก็หาทางคุยกับหมอ เพื่อยืดเวลายาออกฤทธิ์ แต่หมอก็ถามคำตอบคำ แล้วหันไปหยิบอุปกรณ์ซึ่งถึงตอนนี้ก็ไม่รู้เรียกว่าอะไร รู้เพียงแต่ว่า หมอใช้อุปกรณ์บางอย่างที่เหมือนค้อนทุบลงไปที่ก้านเหล็กซึ่งจิ้มอยู่บนฟัน ทุบเพื่อให้ฟันแตกออกจากกัน

ทุบอยู่หลายที ลักษณะเหมือนกับตอกเสาเข็ม จนสะเทือนไปทั้งหน้า ก่อนทำการรื้อถอนดึงรากฟันที่แตกออก

 

...รู้สึกหลอนและขยาดการทำฟันนับแต่นั้นเป็นต้นมา

แม้ วิธีการจะดูรุนแรง แต่ระยะเวลาปวดกลับน้อยกว่าการผ่าตัดอย่างเบามือ แต่สิ่งที่ได้มาคือ หลุมขนาดใหญ่ เพราะกว่าเหงือกจะประสานกันได้ ต้องคอยแงะเศษอาหารที่ตกลงไปในร่องอยู่นานทีเดียว

แทบไม่ต้องโหวตว่าจะเลือกรักษาที่ไหน

นี่ แค่เรื่องฟัน ยังไม่รวมเรื่องประกันสุขภาพอื่น ๆ ที่ทางประกันสังคมจ่ายแบบจำกัดจำเขี่ยอย่างเคสที่รักษามะเร็งในโรงพยาบาลรัฐ ค่าผ่าตัดไป 1.5 แสนบาท ได้คืน 6 พันบาท นี่มันอะไรกัน คำนวณผิดหรืออย่างไร รอวันที่สวัสดิการเรื่องสุขภาพของไทยจะพัฒนาไปไกลกว่านี้ ถึงไม่เพิ่มเงิน แต่เพิ่มการบริการก็ยังดี


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ยถากรรม คนไข้ ประกันสังคม

view

*

view