http://www.108acc.com
  
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

หน้าแรก

วิสัยทัศน์/พันธกิจ

บริการของเรา

LINK 4 A/C

DOWNLOAD

ติดต่อเรา

.......... บทความ 108 ..........

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน (๔)

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน (2)

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน (๓)

ราชกิจจาฯ ประกาศมาตรการคง VAT 7% ออกไปอีก 1 ปี ถึงวันที่ 30 ก.ย.61 ..... คั่นเวลา

บัญญัติ 10 ประการที่ต้อง คำนึงในการวางระบบบัญชี และการควบคุม ภายใน (1)

อะไรคือข้อมูลทางบัญชี ?

องค์กรในมุมมองของนักบัญชี

วิธีการเลือกสำนักงานบัญชี

เจ้าของกิจการควรไปพบ สรรพากรเองหรือไม่

บัญญติ 10 ประการที่ต้อง คำนึงในการวางระบบบัญชี และการควบคุมภายใน (2)

สำนักงานบัญชีในฝัน (2)

สำนักงานบัญชีในฝัน (3)

สำนักงานบัญชีในฝัน (4)

สำนักงานบัญชีในฝัน (5)

สำนักงานบัญชีในฝัน (6)

การสุ่มตัวอย่างทางสถิติในการสอบบัญชี

ค่าทำบัญชีปีละ 2-3 หมื่นบาท คุณไปอยู่ที่ไหนมา

พรก.ยกเว้นการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากร 2558 ยื่นดีไหม

ธุรกิจปั่นป่วน เจอปัญหาขาดแคลนผู้สอบบัญชี จริงหรือ(1)

คุณสมบัตินักบัญชีที่ดี

จรรยาบรรณ ของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี

ธรรมบรรยาย ชุด จริยธรรมกับบัณฑิต - พุทธทาสภิกขุ

คลิปนี้ ชอบมาก

KPI เท่าไหร่ถึงพอ (1)

KPI เท่าไหร่ถึงพอ (2)

สถิติการจ่ายภาษีรายจังหวัด

สถิติการจ่ายภาษีตามภาค

สำนักงานบัญชีในฝัน (1)

สมาชิก

ลืมรหัสผ่าน?
สมัครสมาชิก
Gold charts on InfoMine.com

ปล้นเรือขนเงินร้อยล้าน จะปล่อยให้จบแค่นี้หรือ

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

คดีใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้ไม่ดังเท่าคดีฆ่า "เอ็กซ์ นักแม่นปืน" แต่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือ

คดีกองปราบโชว์ผลงานจับ"แก๊งปล้นเรือขนเงิน" มูลค่าถึง 119 ล้านบาทเหตุเกิดช่วงต้นเดือน ต.ค.ในทะเลอ่าวไทย พื้นที่ต่อเนื่องระหว่าง จ.สงขลา กับ ปัตตานี

งานนี้ต้องปรบมือให้ตำรวจกองปราบที่ตามจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว 4 คน แม้จะยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 4-5 คนก็ตาม...

แต่ที่น่าตั้งคำถามก็คือ เหตุใดจึงปล่อยให้คดีจบลงห้วนๆ ง่ายๆ แค่จับผู้ต้องหาได้เท่านั้น!

คำถามที่แหลมคมที่สุดแต่ดูจะไม่ค่อยมีในคดีพูดถึงเลยก็คือ เงิน 119 ล้านบาทที่ถูกปล้นไปจากเรือขนเงินนั้น เป็นเงินอะไร มีที่มาที่ไปจากไหน และเหตุใดจึงใช้วิธีขนทางเรือ ไม่ทำธุรกรรมผ่านสถาบันการเงินเหมือนที่คนอื่นเขาทำกัน?

ที่สำคัญเงินที่ขนนั้นเป็นเงินสดๆ ทั้งดอลลาร์สิงคโปร์ และริงกิตมาเลเซีย...

ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทเจ้าของเรือตอบคำถามผู้สื่อข่าวแบบสั้นๆ ง่ายๆ ว่า บริษัททำธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตรา กำลังนำเงินไปส่งให้ลูกค้า"ระดับวีไอพี"ที่เกาะโลซิน จ.ปัตตานี แต่ระหว่างทางถูกดักปล้นเสียก่อน

จากปากคำของ"ไต๋เรือ"ที่หันมาสวมบท"โจรปล้นเงิน"บอกว่าเงินสดๆ มูลค่า 119 ล้านบาท ถูกบรรจุอยู่ในลังเบียร์เก่าๆ วางระเกะระกะอยู่ในห้องควบคุมเรือ ไม่ได้ใส่ตู้เซฟหรือมีระบบการขนส่งอันทันสมัยสมดังคำกล่าวอ้างที่ว่าเตรียมไปส่งให้"ลูกค้าวีไอพี"แต่อย่างใด

หนำซ้ำยังบอกว่าปลายทางที่"วีไอพี"ให้นำเงินไปส่ง คือ"เกาะโลซิน"จ.ปัตตานี

เปิดกูเกิลดูจะพบว่า เกาะโลซินเป็นเพียง"กองหินปูน" ในอ่าวไทย ห่างจากฝั่ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ประมาณ 72 กิโลเมตร โดยกองหินส่วนที่โผล่พ้นน้ำมีขนาดพื้นที่ไม่เกิน 100 ตารางเมตร เทียบกับคอนโดมีเนียมกลางกรุงก็ไม่เกิน 3 ห้อง บนเกาะไม่มีต้นไม้ใบหญ้าหรือผู้คนอาศัยอยู่ มีเพียงประภาคารส่องไฟยามค่ำคืนให้กับเรือประมงไม่ให้เข้าไปชนเท่านั้น

คนเรือที่ปัตตานีให้ข้อมูลว่า เกาะนี้ไม่ได้มีความสำคัญใดๆ สำหรับการเดินเรือ เพราะมีขนาดเล็กมาก จะเข้าไปพักหลบคลื่นลมก็ไม่ได้ หนำซ้ำรอบๆ เกาะน้ำยังตื้น เรือใหญ่ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้

สิ่งที่ขึ้นชื่อสำหรับ"เกาะโลซิน"ก็คือ ปะการังและทิวทัศน์ใต้ท้องทะเลอันสวยงาม สมัยที่ชายแดนใต้ยังไม่ลุกเป็นไฟเหมือนทุกวันนี้ เคยมีนักท่องเที่ยวเช่าเรือไปชมความงามของธรรมชาติ หรือไม่ก็ไปตกปลาอยู่บ่อยๆ

แต่ปัจจุบันหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ จะเรียกว่าเป็นเกาะร้างก็คงไม่ผิด!

แล้วเรือขนเงิน 119 ล้านไปส่งเงินให้ใครก็ไม่ทราบที่เกาะร้างชื่อ"โลซิน"

การประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนเงิน หรือขนส่งเงินตรา อาจไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย แต่การส่งเงินทางเรือดูจะแปลกประหลาดเกินไป แน่นอนว่าในแง่ของความปลอดภัยน่าจะดีกว่าขนเงินทางรถยนต์ เพราะมีโอกาสเจอด่าน ถูกเรียกตรวจ หรือถูกปล้นได้ง่ายกว่า แต่ปัญหาก็คือเงินที่ว่านี้เป็นเงินอะไร ทำไมถึงต้องกลัวถูกตรวจด้วย

ตำรวจในชุดสืบสวนจับกุม ตั้งข้อสังเกตว่ารูปแบบการขนเงินไปส่งปลายทาง เหมือนนำไปจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอะไรบางอย่างมากกว่า...

ข้อมูลที่น่าสนใจก็คือ เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และดีเอสไอ ได้ร่วมกันทลายโกดังแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองปัตตานี พร้อมยึดรถบรรทุกน้ำมันหนีภาษีได้หลายคัน โดยเป็นโกดังของ"เสี่ย"คนหนึ่งที่กว้างขวางในยุทธจักรน้ำมัน โกดังที่ว่านี้มีชื่อกิจการละม้ายคล้ายกับบริษัท ที่ประกอบธุรกิจเรือขนเงินที่เพิ่งถูกปล้นเป็นอย่างยิ่ง

การบุกเข้าตรวจค้นในครั้งนั้นว่ากันว่าได้"บัญชีจ่าย"ที่บันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ไปด้วย เจ้าหน้าที่ดีเอสไอแกะข้อมูลมาเป็นปีแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าปรากฏต่อสาธารณะว่าบัญชีที่ว่านั้นเกี่ยวโยงไปถึงใครบ้าง แต่พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตรเลขาธิการ สมช.เคยเปรยกลั้วหัวเราะว่า"น่าจะเกี่ยวกันทั้งภาค"

ไม่รู้ว่า 2 เรื่องนี้เกี่ยวข้องกันหรือไม่ แต่ถ้าเกี่ยวก็นับว่าน่าสนใจ เพราะไม่ทราบว่าด้วยเหตุนี้หรือไม่ที่คดีปล้นเรือขนเงินมันจึงจบลงห้วนๆ ง่ายๆ แบบที่เป็นอยู่!


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ปล้นเรือขนเงินร้อยล้าน ปล่อยให้จบ

view

*

view