สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ทักษิณแจงที่นอร์เวย์ 3 เหตุผลดันร่างนิรโทษสุดซอย หลังประเทศช้ำมาจะ 10 ปี

ทักษิณแจงที่นอร์เวย์ 3 เหตุผลดันร่างนิรโทษสุดซอย หลังประเทศช้ำมาจะ 10 ปี

จากประชาชาติธุรกิจ

เมื่อวันที่ 2พฤศจิกายน 2556...ทักษิณกล่าวถึงพ...นิรโทษกรรมในงานชุมนุมคนรักประชาธิปไตยประเทศสวีเดน โดยมีใจความดังนี้

ร่างพ
...นิรโทษกรรมสุดซอยหรือไม่สุดซอยหลายคนยังไม่เข้าใจหลายคนมองเป็นเรื่องคอร์รัปชั่น

วันนี้ ประชาธิปัตย์พยายามกล่าวหาว่าผมจะเอาเงินคืนและเงินนี้เป็นเงินคอร์รัปชั่น เงินนี้เป็นเงินที่ครอบครัวผมขายหุ้นที่มีตั้งแต่ตั้งเนื้อตั้งตัวมาวันที่ เข้ามาเป็นนักการเมืองมีเท่านี้วันขายหุ้นก็หุ้นจำนวนเดิมแต่ราคาหุ้นขึ้นลง ตามตลาดจะยึดเงินผม

สรุปแล้วรัฐประหารก็มั่วตั้งคนศัตรูผมมาเป็นคตส. สอบ ทุกอย่างหาเรื่อง ความจริงแล้วอาญายังไม่ผิดแต่ยึดทรัพย์ทั้งที่เป็นทรัพย์สินทำมาหากินมาโดย ตลอดและประกาศว่ามีหุ้นเท่านี้ราคาหุ้นเท่าไหร่ก็คูณใหม่ตามราคาหลักทรัพย์ พวกก็หาว่าราคาแตกต่างเป็นคอร์รัปชั่น ทั้งหมดบิดเบือนคอร์รัปชั่นเป็นทรัพย์สินผมเป็นเรื่องการปล้นไปแต่ไปพูดว่า ผมโกงมา

...นี้ เรื่องเดิมเราห่วงพี่น้องที่ติดคุกและต้องยอมรับว่าถูกยัดข้อหาเยอะบางคนไทย มุงบางคนเห็นเค้าเผาจะเอาก็โดนจับและไม่ปล่อยนอกจากไม่ปล่อยบางรายศาลยังไม่ ให้ประกันตัวเพราะเป็นแกนนำ

ทีนี้วรชัย เหมะเสนอกฎหมายให้ปล่อยชาวบ้านยกเว้นแกนนำกับผู้สั่งการแล้วจริงๆ ไม่ใช่แค่นั้นและกฎหมายเองก็ไปยกเว้นไม่ได้เหตุการณ์ขัดแย้งให้คือให้ไม่ให้ก็คือไม่ให้ดังนั้นยกเว้นไม่ได้

อีกเรื่องคือคืนความเป็นธรรมคนที่โดนคตส.เล่นงานหลายคนครม.ชุดเก่าเอาเงินไปซื้อที่ข้างบ้านผมเพราะฉะนั้น สรุปแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกับพ...ฉบับนี้จึงรวมเรื่องการคืนความเป็นธรรมของคตส.

สิ่งที่เป็นปัญหาวันนี้ที่แกนนำเสื้อแดงบางคนไม่ยอมไม่เห็นด้วย มีสองสามนัยยะ

นัย ยะหนึ่งความแค้นที่อภิสิทธิ์สุเทพสั่งการอีกอันอาจเป็นเพราะ อาจจะไม่พอใจบางคนอาจจะยังไม่อยากให้ผมกลับบ้าน บางคนก็ไม่อยากให้ผมกลับบ้าน หลายคนรักผม แต่รักแล้วอยากให้อยู่เมืองนอก รักแต่ไม่อยากให้กลับ รักแบบอย่าเพิ่งกลับมาเลย กลัวผมกลับไปแล้วตกงานก็เลยยังไม่อยากให้กลับ

แต่ถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจำไว้ครับเวลาดวงไม่ดีมันผีซ้ำด้ามพลอยจริงๆยังมีคนรักที่ไม่อยากให้กลับก็มีเค้าเป็นห่วงกลัวผมจะกลับไป

อีกพวกหนึ่งก็อาจจะมองว่าทำไมไม่แก้มาตรา309 เป็นมาตราที่พวกปฏิวัติเขียนไว้ป้องกันผลปฏิวัติผิดกฎหมายถ้าเราเอาออกการปฏิวัติผิดกฎหมายผลคือไม่จบซักที

ที นี้ บ้านเมืองถ้าย้อนรอยถามว่าเกิดความขัดแย้งอะไร เพราะการเมืองเปลี่ยนแปลงจากการเมืองหลายพรรคเป็นการเมืองสองขั้วนอกนั้นมี พรรคเล็กพรรคน้อยพอเป็นอย่างนี้ ประชาธิปัตย์เห็นทางว่าตนเองไม่มีชนะเวลานี้เจอเรื่อง 2 ล้านล้าน ประชาธิปัตย์ร้องลั่นกลัวประเทศจะเจริญมากไป

ประชาธิปัตย์ใช้ ความกลัวและความดุดันทางการเมืองและความสามารถทางการโกหกตอแหลเป็นการต่อสู้ เป็นอาวุธ แต่ของเราใช้สมองและการทำงานให้กับประชาชนเป็นอาวุธ เพราะมันสู้กันคนละแนว

วันนี้ บ้านเมืองเราทะเลาะกันมากแล้วไม่ได้ทะเลาะเพื่อใครแต่ทะเลาะเพื่อตัวเองไม่ได้เพื่อประชาชน ดังนั้น วันนี้ผมจึงบอกทุกฝ่ายว่าพอแล้วเราทะเลาะเพื่อตัวเองประชาชนนั่งฟังแล้วเสียเวลาเราทะเลาะกันจนบอบช้ำผมบอกว่าพอแล้ว ตอนนี้ 8ปีแล้ว จนจะเสียเป็นเกือบ10 ปี ภาษาต่างประเทศเรียก Lost Decade เราจะเสียไปอีก10 ปี หรืออีก Decadeประเทศไทยเสียโอกาสเรากำลังทำให้ลูกหลานเติบโตบนสังคมที่มีปัญหาขัดแย้งไม่มีการสร้างอนาคต

วันนี้ จึงจำเป็นที่จะบอกว่าเอาล่ะ พอได้แล้ว เรายื่นมือไปบอกว่าถึงเวลากลับมาทำงานให้ประชาชนได้แล้วแต่เค้าไม่ต้อนรับแต่ความจริงอยากได้อภิสิทธิ์ก็อยากได้ สุเทพก็อยากได้เพราะคำสงวนแปรญัตติของประชาธิปัตย์แปรเผื่อให้อยากได้ทั้งนั้นแล้วทำไมปล่อยผ่านสภาง่ายจังมาทะเลาะ สู้ยื้อตลอดอยากได้แต่ขอด่า เหมือนบอกว่าผมอยากกินข้าวบ้านคุณนะแต่คุณต้องเลี้ยงผมนะแต่มีข้อแม้ว่าคุณเป็นหนี้บุญคุณผมด้วยนะทำไมจะอ่านไม่ออก

สำหรับผม ผมผมมองว่าหนึ่ง พี่น้องที่บาดเจ็บล้มตายเราไม่สามารถเอาชีวิตคืนมาได้เราได้แต่เยียวยา การจ่ายไป7.5 ล้านบาทก็เป็นประวัติศาสตร์มากสุดเพราะเราต้องการเยียวยาของผู้ที่มีชีวิตอยู่

สอง เราต้องการให้บ้านเมืองลดความโกรธแค้นเพราะบ้านเมืองต้องเข้าสู่ความปรองดอง การเยียวยาก็ลดความเคียดแค้นในสังคมและพร้อมที่ให้อภัยแก่กัน

สามต้องการคืนความเป็นธรรมให้กับความไม่เป็นธรรมการสอบสวนโดยเอาศัตรูมาเป็นกรรมการสอบสวนจะเป็นธรรมได้อย่างไร

แต่ วันนี้บ้านเมืองวุ่นวายเพราะนักการเมืองเฮงซวยเราต้องเริ่มต้นวันนี้จะ ทะเลาะกันเพื่อสนองพรรคการเมืองสองขั้ววันนี้จึงต้องมีคนเสียสละผมไม่อยากมี เรื่องมีราวอยู่เมืองนอกมา 7 ปีแล้วถามว่าอยู่อีกก็ไม่เป็นไร

(มีเสียงตะโกนกลับมาว่า“ท่านนายกฯต้องกลับบ้านครับ”)

ผม อยากกลับบ้านครับธรรมชาติคนเราก็อยากกลับบ้านผมเป็นหนี้คนไทย ผมว่าผมอยากตอบแทนบุญคุณที่ต่อสู้ให้บางคนถึงกับเสียชีวิตบาดเจ็บ วันนึงผมต้องตอบแทนบุญคุณความที่การเมืองเป็นอย่างนี้ กติกาบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ทำให้คนที่พร้อมจะเสียสละให้ประชาชนเข้ามายากมันเป็นบรรยากาศของคนที่ไม่มี อะไรจะเสียมากกว่า

ผม เชิญคนไปเป็นรัฐมนตรีเค้าไม่อยากมา เชื่อมั้ยว่าหลายตำแหน่งคนที่ทำงานอยู่ไม่เหมาะสมเลยอยากเปลี่ยนแต่หาคน เปลี่ยนได้น้อยไม่ใช่คนไทยไม่เก่งแต่เค้าไม่อยากเข้ามาเพราะบ้านเมืองเป็น อย่างนี้กฎหมายบ้านเมืองเป็นอย่างนี้

ถ้าบ้านเมืองยังตั้งแก๊งค์ตั้งฝ่าย มีแดงมีเหลือง มีประชาธิปัตย์มีไทยรักไทย มีไพร่มีอำมาตย์ วันนี้ต้องมีแค่ไทยกับไทยนานเกินไปแล้ว 8 ปีแห่งความขัดแย้ง การบริหารประเทศทุกหน่วยมีความแตกแยกกันหมด ประเทศก้าวหน้าช้า แต่นายกฯปูเหนื่อยกว่าผมเยอะ ตอนผมรัฐธรรมนูญก็ดีกว่านี้ 10 เท่า เพราะเป็นรัฐฉบับประชาชนข้อดีของนายกฯปูคือไม่ตอบโต้ ส่วนผมรุนแรงมา รุนแรงไปยอมรับว่าไม่ดี นี่คือจุดอ่อนพอจุดแข็งนายกฯปู เป็นอย่างนี้ประชาธิปัตย์เขาก็ไปไม่เป็นเพราะนายกฯปูไม่ตอบโต้

วันนี้ อบอุ่นจริงๆ ต้องขอบคุณเพื่อนตำรวจและทุกๆ คน Thank you for your support.


ใจ'เผยเพื่อไทยตั้งใจหักหลังวีรชน

"ใจ อึ๊งภากรณ์"เผยพรรคเพื่อไทยตั้งใจหักหลังวีรชนตั้งแต่แรก ย้ำนิรโทษกรรมเหมาเข่งอนุญาตให้ทหาร-นักการเมืองเข่นฆ่าปชช.อีก

อาจารย์ ใจ อึ้งภากรณ์ เขียนโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ตั้งแต่การเลือกตั้งในปี ๒๕๕๔ ยิ่งลักษณ์ ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ตั้งใจจะจับมือกับทหารมือเปื้อนเลือด และหักหลังวีรชนเสื้อแดงที่เสียชีวิต พร้อมกับทอดทิ้งนักโทษการเมืองคดี 112 เป้าหมายคือการประนีประนอมกับทหาร ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอำนาจในสังคมไทยและพร้อมจะอ้างอิงสถาบันกษัตริย์ที่อ่อนแอเพื่อความชอบธรรมของทหารเอง ทักษิณและเพื่อไทยต้องการจะกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของ"สมาคมอำมาตย์" และเลิกความขัดแย้งที่เกิดจากการทำรัฐประหาร ๑๙ กันยา

เรื่องนี้ผู้เขียนเตือนไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี ๒๕๕๔ หลังการเลือกตั้งแค่หนึ่งเดือน คือเขียนไว้ตอนนั้นว่า"เราเริ่มเห็นภาพของข้อตกลงระหว่างอำมาตย์กับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้ และเพื่อให้แกนนำเพื่อไทยถูกกลืนกลับไปเป็นพรรคพวกของอำมาตย์เหมือนเดิม เพราะพรรคไทยรักไทยในอดีตก็เคยเป็นพวกเดียวกับอำมาตย์ก่อนที่จะทะเลาะกัน"สัญญาณสำคัญที่ยิ่งลักษณ์ส่งออกมาคือการไปคบค้าสมาคมยิ้มแย้มแจ่มใสกับ"ประยุทธ์"และ"เปรม" พร้อมกับการใช้ 112 ต่อไป และสำหรับเสื้อแดงที่หมดปัญญาและได้แต่แก้ตัวให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมาอย่างต่อเนื่อง ผู้เขียนเคยเสนอในปีนั้นว่า"รัฐบาลนี้ไม่ได้อ่อนแอถ้ารู้จักทำแนวร่วมกับมวลชนเสื้อแดงที่ทำให้รัฐบาลนี้ชนะการเลือกตั้งแต่แรก"แต่การอาศัยพลังมวลชนไม่ใช่วัตถุประสงค์ของรัฐบาลตั้งแต่ชนะการเลือกตั้ง เพราะมันจะ"เสี่ยง"กับการสร้างสังคมไทยที่ก้าวหน้าและมีประชาธิปไตยมากกว่านี้

"ทักษิณ"พร้อมจะถุยน้ำลายใส่ไพร่เสื้อแดงที่ต่อสู้กับทหารและพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ตนเองได้กลับบ้าน แต่"สมยศ" "ดา ตอร์บิโด"และนักโทษ 112 คนอื่น จะไม่ได้กลับบ้าน คนที่ต้องไปอยู่ต่างแดน เพราะกฏหมายชั่วช้าเผด็จการนี้ก็ไม่ได้กลับบ้านเช่นกัน

ที่เขียนแบบนี้ไม่ได้พยายามสื่อว่าคนเสื้อแดง"ตายฟรี"หรือ"ติดคุกฟรี"แต่อย่างใด เพราะถ้าคนธรรมดาไม่สู้ เสรีภาพจะไม่มีวันเกิด เราต้องรู้ทันพวกข้างบนว่าเขาย่อมหักหลังคนเล็กๆเสมอ ในขณะเดียวกันเราต้องไม่ลืมว่าคนเสื้อแดงจำนวนมากไม่ได้สู้เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เพียงแต่ว่าเราปล่อยให้พวก"ผู้ใหญ่"กำหนดแนวทางการนำ แทนที่เราจะนำตนเอง

แกนนำนปช. ไม่เคยออกมาเสนอให้ยกเลิก112 และไม่เคยเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษ 112 ยิ่งกว่านั้นไม่มีการเคลื่อนไหวต่อต้านการหักหลังของรัฐบาลเลย สรุปแล้วแกนนำนปช. ไม่ต้องการให้เสื้อแดง"ก้าวพ้น" การเป็นลูกน้องทักษิณ นั้นคือสาเหตุที่คนก้าวหน้าเสนอให้เคลื่อนไหวอิสระจากนปช. มานาน ปัญหาคือคนที่ก้าวหน้าไม่ยอมจัดตั้งทางการเมือง พร้อมจะมีแค่กลุ่มกระจัดกระจายที่แยกกันเคลื่อนไหวและมีคำแถลง"หางว่าว"ที่มีหลายสิบองค์กร แต่เกือบไม่มีมวลชน องค์กรผีนั้นเอง ส่วนคนที่อยากจัดตั้งองค์กรทางการเมืองอย่างจริงจังก็เล็กเกินไปในขณะนี้

ใครที่วิเคราะห์สังคมไทยจากมุมมองชนชั้น และพร้อมจะเปิดหูเปิดตาถึงธาตุแท้ของทักษิณ ยิ่งลักษณ์ หรือพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทย จะสามารถเข้าใจตรงนี้มาแต่แรก ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง อย่าลืมว่าทักษิณเป็นนายทุนใหญ่ที่มีส่วนในการเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าในปาตานี หรือในสงครามต้านยาเสพติด และอย่าลืมว่าทักษิณก็เป็นคนที่ใช้"เสื้อเหลือง"ก่อนพันธมิตรฯ ทักษิณและเพื่อไทยก็พร้อมจะใช้ 112 ต่อไป ไม่ใช่แค่ไม่ยกเลิกเท่านั้น

คนที่ตอนนี้มีจุดยืนเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพ โดยการต่อต้านกฏหมายนิรโทษกรรม"เหมาเข่ง"ของรัฐบาลเพื่อไทย มีสองประเภท ประเภทแรกเป็นคนที่มีการจัดตั้งทางการเมือง คืออยู่ในกลุ่มฝ่ายซ้ายที่มีการร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองจากจุดยืนชนชั้น องค์กร"เลี้ยวซ้าย"เป็นตัวอย่างที่ดี ประเภทที่สองเป็นปัจเจกชนที่กระตือรือร้นที่จะรักษาอุดมการณ์ท่ามกลางการถูกชักชวนให้"หมอบคลานหรือเลิก"จากพวกที่หันหลังให้วีรชน ปัจเจกชนแบบนี้น่าเคารพ แต่เขามีจุดอ่อน เพราะส่วนใหญ่ขาดการวิเคราะห์แบบรวมหมู่ของคนที่เป็นสมาชิกองค์กร ปัจเจกชนแบบนี้หลายคนจึงเสียจุดยืนไปแล้ว หมดบทบาทก้าวหน้าทางการเมืองโดยสิ้นเชิง

อาจารย์ สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ยังคงอุดมการณ์ แต่ล่าสุดเขียนถึง"แนวร่วมของคนก้าวหน้ากับพรรคเพื่อไทย" ที่อาจถึงจุดจบแล้ว การมองแนวร่วมแบบนั้นมีปัญหา เพราะเคยพาคนไปตั้งความหวังเท็จกับยิ่งลักษณ์ ทักษิณ หรือแม้แต่แกนนำนปช. ผู้เขียนและ"เลี้ยวซ้าย"เตือนว่าเราต้องไม่ทำแนวร่วมกับพรรคนายทุนมาตั้งแต่แรกเริ่มการก่อตั้งของเสื้อแดง เราเสนอแทนว่าควรทำแนวร่วมกับ"มวลชน"เสื้อแดง ไม่ใช่กับพรรคเพื่อไทยหรือแกนนำนปช. และแนวร่วมนี้เรายังทำได้กับเสื้อแดงที่ปฏิเสธกฏหมายเหมาเข่ง

การที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยรวมทักษิณเข้าไปในการนิรโทษกรรม มีปัญหาอีกแง่หนึ่งด้วยคือ เปิดช่องทางให้พวกสลิ่มปฏิกิริยาที่สนับสนุนรัฐประหาร สามารถออกมาสร้างภาพด้วยการปฏิเสธกฏหมายเหมาเข่ง สรุปแล้วมันไม่มีอะไรดีเลย

เลือกตั้งครั้งต่อไป คนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตยไม่ควรลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทยเป็นอันขาด และแน่นอนไม่ควรเลือกพรรคประชาธิปัตย์ บางคนอาจสงสัยว่าจะทำอะไรดี คำตอบง่ายๆ คือ"กาช่องไม่เลือกใคร"การเลือกตั้งสำคัญ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของ"การเมือง"

เวลาคัดค้านการนิรโทษกรรมเหมาเข่ง เราต้องยืนยันว่ามันจะไม่นำไปสู่สันติภาพแต่อย่างใด เพราะมันเป็นการประกาศอนุญาตให้ทหารและนักการเมืองเข่นฆ่าประชาชนอีกในอนาคต เพราะฆาตกรของรัฐลอยนวลเสมอ ๑๔ ตุลา, ๖ ตุลา, พฤษภา ๓๕, ตากใบ และราชประสงค์ คือหลักฐาน

เวลาคัดค้านการนิรโทษกรรมเหมาเข่ง เราต้องยืนยันอีกด้วยว่าปัญหาสำคัญ คือการปล่อยให้นักโทษ 112 ติดคุกต่อไป โดยไม่มีการยกเลิกกฏหมายนี้ อย่าลืมว่านักโทษ 112 เป็นนักโทษทางความคิด ไม่เหมือนพวกเสื้อเหลืองที่ใช้ความรุนแรงในการปิดสนามบินแต่ไม่เคยติดคุก

ทุกวันนี้ผู้ที่น้อมรับหรือสนับสนุนกฏหมายนิรโทษกรรมฆาตกร ไม่ว่าจะด้วยข้อแก้ตัวอะไร ล้วนแต่เป็นศัตรูทางการเมืองกับฝ่ายประชาธิปไตย และเป็นศัตรูทางการเมืองกับผมด้วย


'พานทองแท้'โยนลิ่วล้อพาพ่อไปผิดทาง

พานทองแท้ ชินวัตร,ทักษิณ ชินวัตร,พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

พานทองแท้" โยนลิ่วล้อพา "ทักษิณ" ไปผิดทาง ชี้พ่ออยู่ไกลมองสถานการณ์ไม่ออก หวังแค่ชาติสมานฉันท์ วอนวุฒิสภาแก้ปัญหา

นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊คชื่อ Oak Panthongtae Shinawatra แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ที่ลุกลามหลังสภาผู้แทนราษฎรผ่านการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย โดยระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณมองสถานการณ์ไม่ออก รวมทั้งคิดถึงบ้านคิดถึงครอบครัว พอมีใครมาแนะนำก็ย่อมเกิดความหวัง

"ใช่ครับพี่"........"ดีครับผม"........"เหมาะสมครับนาย "
มักจะลงท้ายด้วยคำว่า........."ฉิบหายแล้วครับท่าน"........ทุกทีไปครับ....!!!!

คนเป็นลูก ถ้าไม่เห็นถึงหลุมพราง,ขวากหนาม และอันตรายที่จะเกิดขึ้น มีหรือครับที่จะไม่อยากให้พ่อกลับบ้าน มองจากฝั่งเมืองไทยนี้ก็เห็นกันจะๆว่า สะพานที่ทอดอ่อยเหยื่อมาให้นี้ มันผุพังสิ้นดี คนเป็นลูกถ้าไม่มั่นใจเกินร้อย ว่าใครก็ไม่สามารถผ่านทางนี้ไปได้ ไม่มีวันตะโกนห้ามพ่อกลับครับ..!!

คุณพ่อผมอยู่ไกล "ไม่อยู่หน้างานมองสถานการณ์ไม่ออกครับ" เมื่อบวกกับความคิดถึงครอบครัว คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน ใครมาแนะนำอย่างไร ท่านย่อมเกิดความหวัง หวังที่หนึ่งคือต้องการให้ส่วนรวมเกิดความสมานฉันท์ เมื่อมีความสมานฉันท์แล้ว หวังที่2ก็คือ หากได้กลับบ้านด้วยก็ยินดีครับ

เมื่อไปไม่ถึง2 ขอแค่หนึ่ง สุดซอยไปไม่ได้ ครึ่งซอยไปไม่ถึง ขอแค่ต้นซอยก็ยังดีครับ ตัวบุคคลเอาไว้ก่อน แต่พี่น้องประชาชนที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย แต่กลับต้องโทษนั้น ขอไว้เถอะครับ อย่าไปเอาผิดเขาเลย

กระบวนการต่อไปอยู่ที่การตัดสินใจของวุฒิสภาครับ จะคว่ำกันไปเลยกว่าจะกลับมาพิจารณากันใหม่ ก็ต้องรอไปอีก180วัน ผมว่ามันนานเกินไปครับ หากวุฒิสมาชิกจะมีเมตตา ต่อพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน จะเหลืองจะแดงยังไง อยากให้อภัยกันไว้ก่อน เมื่อความสมานฉันท์เกิดขึ้น ความเป็นสยามเมืองยิ้มกลับมาอีกครั้ง ประเทศชาติก็จะเดินหน้าต่อไปได้ครับ

ประเทศไทยของเรา จะ"เดินหน้า" หรือจะ"เผชิญหน้า" อยู่ที่การตัดสินใจของวุฒิสมาชิกทุกท่านครับ


'ทักษิณ'ไม่ได้กลับแต่ต้องปกป้องรัฐบาลนี้

อาจารย์พิชิต โพสต์น่าสนใจมาก...ไม่มีทางเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมอีกเลย "ทักษิณ"อาจไม่ได้กลับ แต่ต้องปกป้องรัฐบาลยิ่งลักษณ์

นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาธรรมศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กชัดเจนแล้วว่า พวกสลิ่มเหลืองไม่ยอมหยุด และได้ยกระดับการเคลื่อนไหวไปเป็นโค่นล้มรัฐบาลแล้ว สร้างสถานการณ์ให้ลุกลามจนตุลาการมีเงื่อนไขสุกงอมที่จะเช็คบิลรัฐบาล ถ้าถึงขั้นรัฐประหารอีกทีก็ยิ่งดี นี่แหละ "เซ็ตซีโร่" ของจริง คุณทักษิณดูไว้

ผมได้เขียนไว้ในโพสต์ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขอนำบางส่วนมาลงซ้ำ

"แต่ถ้าพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมาเข่งติดขัดและแท้ง ณ ขั้นตอนใดก็แล้วแต่ คุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยจะเสียหายอย่างที่กู้คืนได้ยาก เพราะเสื้อแดงที่หนุนเหมาเข่งและเชื่อน้ำลายของพรรคว่า"มีลับ ลวง พราง มีซุปเปอร์ดีล ฯลฯ" จะผิดหวังอย่างแรง หลายคนคง "ตาสว่างครั้งที่สอง"

ส่วนเสื้อแดงที่ค้านเหมาเข่ง ก็คงสมน้ำหน้า ม็อบฝ่ายตรงข้ามยิ่งได้ใจ ได้กระแสรุกไล่มากขึ้น รัฐบาลจะเจอกับตุลาการในคดีจำนำข้าว และคดีประมูลโครงการน้ำ ทหารจะกระด้างกระเดื่อง นายกฯยิ่งลักษณ์โดนเชือดแน่นอน แต่ที่เสียหายหนักที่สุดคือคุณทักษิณ สูญเสียน้ำยา หมดความน่าเชื่อถือ เสียเพื่อนและเสื้อแดงไปจำนวนมาก โดดเดี่ยวมากขึ้นได้ศัตรูเพิ่มรอบทิศ ไม่ได้ล้างคดีที่ติดตัว จะไม่ได้กลับบ้านอีกนานมาก หรือไม่ได้กลับเลย"

และที่ไม่ได้กล่าวถึงก็คือ เพื่อนของเราที่อยู่ในคุก ก็จะอยู่ไปอีกยาวนานมาก เพราะนับแต่นี้ไป จะไม่มีทางเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมอีกเลยไม่ว่าในรูปแบบใด เพราะฝ่ายนั้นได้ปั่นกระแสไปถึงจุดที่นิรโทษกรรม = ยกโทษให้คนโกง สำเร็จเป็นวาทกรรมติดปากผู้คนไปเรียบร้อยแล้ว ต้องรอให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะเด็ดขาด เพื่อนจึงจะได้ออกจากคุก ซึ่งคงจะอีกนาน

ผมรู้ว่า พวกเราจำนวนมากโกรธคุณทักษิณ และพรรคเพื่อไทยอย่างยิ่ง แต่ถึงที่สุดเราจะปล่อยให้รัฐบาลนี้ล้มไม่ได้ ปล่อยให้พวกมันเชือดนายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ได้เด็ดขาด

แต่เราจะปกป้องรัฐบาลนี้ได้ก็ต่อเมื่อคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยปรับทัศนคติและท่าทีต่อเพื่อนมิตร แกนนำและมวลชนเสื้อแดงก่อน ไม่เช่นนั้นพฤติกรรมหน้าไหว้หลังหลอกแบบยัดไส้เหมาเข่ง และกระทืบคนกันเองที่กล้าขัดแย้งเพราะหวังดี ก็จะเกิดขึ้นอีก!


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ทักษิณ นอร์เวย์ เหตุผล ดันร่างนิรโทษสุดซอย ประเทศช้ำ

view