http://www.108acc.com
  
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

หน้าแรก

วิสัยทัศน์/พันธกิจ

บริการของเรา

LINK 4 A/C

DOWNLOAD

ติดต่อเรา

.......... บทความ 108 ..........

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน (๔)

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน (2)

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน (๓)

ราชกิจจาฯ ประกาศมาตรการคง VAT 7% ออกไปอีก 1 ปี ถึงวันที่ 30 ก.ย.61 ..... คั่นเวลา

บัญญัติ 10 ประการที่ต้อง คำนึงในการวางระบบบัญชี และการควบคุม ภายใน (1)

อะไรคือข้อมูลทางบัญชี ?

องค์กรในมุมมองของนักบัญชี

วิธีการเลือกสำนักงานบัญชี

เจ้าของกิจการควรไปพบ สรรพากรเองหรือไม่

บัญญติ 10 ประการที่ต้อง คำนึงในการวางระบบบัญชี และการควบคุมภายใน (2)

สำนักงานบัญชีในฝัน (2)

สำนักงานบัญชีในฝัน (3)

สำนักงานบัญชีในฝัน (4)

สำนักงานบัญชีในฝัน (5)

สำนักงานบัญชีในฝัน (6)

การสุ่มตัวอย่างทางสถิติในการสอบบัญชี

ค่าทำบัญชีปีละ 2-3 หมื่นบาท คุณไปอยู่ที่ไหนมา

พรก.ยกเว้นการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากร 2558 ยื่นดีไหม

ธุรกิจปั่นป่วน เจอปัญหาขาดแคลนผู้สอบบัญชี จริงหรือ(1)

คุณสมบัตินักบัญชีที่ดี

จรรยาบรรณ ของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี

ธรรมบรรยาย ชุด จริยธรรมกับบัณฑิต - พุทธทาสภิกขุ

คลิปนี้ ชอบมาก

KPI เท่าไหร่ถึงพอ (1)

KPI เท่าไหร่ถึงพอ (2)

สถิติการจ่ายภาษีรายจังหวัด

สถิติการจ่ายภาษีตามภาค

สำนักงานบัญชีในฝัน (1)

สมาชิก

ลืมรหัสผ่าน?
สมัครสมาชิก
Gold charts on InfoMine.com

ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์ อดีตผู้อำนวยการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ

นับแต่เหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 เรายังไม่เคยเห็นฝูงชนนับแสนออกมาแออัดอยู่บนถนนราชดำเนินกลางและราชดำเนิน นอกเช่นเวลานี้ ทั้งฝูงชนจากม็อบสามเสน สวนลุมพินี และอุรุพงษ์ที่ออกมารวมตัวโดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือการคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรมของรัฐบาลเผด็จการในเบื้องต้น  แต่การต่อสู้ของขบวนการประชาชนเดือนพ.ย. 2556 จะยุ่งยาก สลับซับซ้อนมากกว่าการต่อสู้กับเผด็จการทหารที่ถือปืนปี 2516  เพราะครั้งนี้เป็นการต่อสู้กับเผด็จการทุนสามานย์ที่มีเงินเป็นอาวุธและ พยายามรักษาอำนาจทีได้มาอย่างถึงที่สุด

เสียงนกหวีดของชาวสีลมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาดังไปถึงทำเนียบรัฐบาล กรีดลึกเข้าไปในหัวใจของนายกปูยิ่งลักษณ์ที่มีอาการหงุดหงิดกับคนใกล้ชิดแบบ เก็บอาการไม่อยู่  ประชาชนทุกสาขาอาชีพในจังหวัดต่างๆ ได้ออกมาคัดค้านอย่างเปิดเผยประสานกับม็อบกรุงเทพ อาจกล่าวได้ว่า เวลานี้ มีม็อบต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นทั่วประเทศแล้ว และมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญซึ่งไม่เคยปรากฎเช่นนี้มาก่อน เป็นการร่วมมือร่วมใจกันของประชาชนโดยไม่มีใครไปบังคับกะเกณฑ์

แม้พยายามทำสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจของนายกปูยิ่งลักษณ์คงอกสั่นขวัญแขวน หงุดหงิด กินไม่ได้ นอนไม่หลับ คนใกล้ชิดเข้าหน้าไม่ติด หลังจาก “ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ” ออกมาอ่านแถลงการณ์ที่ขี้ข้าเขียนให้ แทนที่สถานการณ์จะดีขึ้น นางกลับโดนด่าจากคนทั้งบ้านทั้งเมือง ป่านนี้นางคงเตรียมหอบลูกหอบผัวไปอยู่กับพี่ชายในต่างประเทศ หรืออาจเลือกไปอยู่อย่างสงบ ๆ ที่เกาะมัลดีฟว์

อย่าไปโทษใครเลย ต้องโทษพี่ชายและตัวนางเองนั่นแหละที่เป็นคนจุดไฟ และเป็นคนเติมฟืนเข้าไปในกองไฟ ใครเตือนอย่างไรก็ไม่ฟังเพราะเชื่อในอำนาจเงินของตัวเอง อย่างไรก็ดี ต้องขอบคุณทักษิณและยิ่งลักษณ์ที่ช่วยทำให้คนไทยที่มีความเห็นต่าง แบ่งเป็นเสื้อสีต่าง ๆ หันกลับมาจับมือสามัคคีกันได้เป็นคร้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมา ร่วมมือต่อต้านร่างกฎหมายฟอกผิดฉบับสุดซอย ที่ทำลายน้ำใจคนไทยทั้งประเทศ

เวลานี้คนไทยตื่นแล้ว ไทยหลับตื่นขึ้นมาอย่างมีพลัง ไทยเฉยก็ไม่เฉยอีกต่อไป ซ้ำยังคึกคักผิดคาด คนหนุ่มสาวและนักศึกษาได้ขยับตัวแล้ว ผู้ชุมนุมเหล่านี้เป็นอารยะชน ที่ออกมาชุมนุมอย่างสงบ สันติ ไม่เผาบ้านเผาเมือง ไม่ปล้นทรัพย์สินของคนอื่น ไม่ใช่อาวุธในการทำร้ายประชาชนและทหารเช่นที่พวกเสื้อแดงทำในปี 2552 และ 2553 รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาด้วยความกลัวเพราะเคยทำกับคนอื่นมาก่อน มีการระดมกำลังตำรวจมา 44 กองร้อย และสำรองไว้อีก 40 กองร้อย เตรียมบดขยี้ประชาชน เกมนี้มีแพ้กับชนะเท่านั้น ไม่มีเสมอ

ในประวัติศาสตร์ไทยนับแต่ปี 2475 ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนที่สามารถต้านทานพลังมวลมหาประชาชนขนาดนี้ได้ ครั้งนี้จะเป็นการทดสอบอีกครั้งหนึ่งว่า ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่ ประชาชนออกมาเป็นเรือนแสนเช่นนี้ รัฐบาลอยู่ได้ให้มันรู้ไป

ทหารไม่ต้องออกมา การที่ทหารออกมาในปี 2552 และ 2553 เพราะขณะนั้นตำรวจไม่ทำหน้าที่ของตน จึงต้องใช้ทหารมารักษาความสงบเรียบร้อยแทน แต่ครั้งนี้ รัฐบาลคุมตำรวจได้เต็มที่ และตำรวจก็กระเหี้ยนกระหือรือที่จะปราบปรามประชาชนอยู่แล้ว ดังนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประชาชนสู้กับรัฐบาลและตำรวจเอง ทหารคอยดูแลไม่ให้ตำรวจทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์แค่นั้นก็พอ

ทั้งหมดเป็นเรื่องของ “ประชาชน” กับ”รัฐบาล” เป็นเรื่องของ “ผู้อยู่ใต้ปกครอง” กับ “ผู้ปกครองเผด็จการ” เป็นเรื่องของประชาชนที่เป็นฝ่าย “เทพ” สู้กับรัฐบาลที่เป็นฝาย “มาร” ประชาชนมี“ความชอบธรรม”ในการต่อสู้เรียกคืนอำนาจกลับคืนมาจากรัฐบาลเผด็จการ ทุนนิยมสามานย์ ที่ทำความฉิบหายให้กับบ้านเมืองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หากปล่อยให้รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศต่อไป บ้านเมืองคงจะฉิบหายมากกว่านี้ ขณะที่รัฐบาลพยายามรักษาอำนาจของตนไว้เต็มที่

กฎหมายฟอกผิดเป็นเพียงโรคหนึ่งในตัวเรา แม้รัฐบาลยอมถอย แต่เชื้อโรคร้ายยังอยู่ในร่างกายซึ่งก็คือประเทศของเรานั่นเอง ประชาชนต้องขจัดเชื้อมะเร็งร้ายออกจากร่างกายเราให้หมดสิ้น เวลานี้ถือเป็นโอกาสอันดีในการให้หมอประชาชนรักษาโรคร้ายทั้งหมดในร่างกาย หากจำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่ก็ต้องทำ แล้วซ่อม สร้าง ร่างกายให้เข้ากับสู่สภาพปกติดังเดิม เป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนจะเป็นผู้นำในการปฏิรูปประเทศและปฏิรูปนักการเมือง กันเสียที

เวลานี้ ความเคลื่อนไหวของประชาชนไปไกลเกินกว่าการต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมแล้ว จากที่ตะโกนว่าไม่เอากฎหมายนิรโทษกรรมในระยะแรก ม็อบทั้งสามแห่งเริ่มตะโกน “ยิ่งลักษณ์ ออกไปๆๆๆๆ” ต่อไปอาจได้ยินเสียงตะโกน “ชินวัตร ออกไปๆๆๆ” ประชาชน ต้องไม่หลงกลหากรัฐบาลถอยร่างกฎหมายนิรโทษกรรม  เพราะนั่นเป็นเพียงการถอยทางยุทธวิธีของรัฐบาลเท่านั้น แต่ระบอบเผด็จการทุนนิยมสามานย์หรือระบอบทักษิณยังดำรงอยู่ ประชาชนต้องการ “การเปลี่ยนแปลงทางยุทธศาสตร์” ที่มีประชาชนเป็นผู้กำหนดทิศทางและอนาคตของประเทศ หากประชาชนชนะ ไม่เพียงล้มล้างกฎหมายฟอกผิดเท่านั้น แต่ยังสามารถล้มการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของสมาชิกวุฒิสภา การแก้ไข ม.190 ที่ตัดทอนอำนาจของประชาชนอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปราณี และไม่ต้องมานั่งใช้หนี้อีก 50 ปี โครงการระยำต่าง ๆ ที่ทำให้บ้านเมืองฉิบหายจะได้ล้มเลิกกันเสียที การคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชนจะได้ยุติ คนที่มีความเห็นต่างจะได้มีที่ยืนในสังคมอย่างสง่าผ่าเผย

เวลานี้เราเดินมาถึง “จุดเปลี่ยนประเทศไทย” แล้ว อย่าปล่อยให้ผ่านจุดนี้ไปโดยไม่ทำอะไรเพราะจะเป็นการเสียโอกาสที่ดีที่สุด เวลานี้ ประชาชนเดินนำหน้าพรรคการเมืองแล้ว ประชาชนเจ้าของประเทศต้องเปลี่ยนประเทศเชิงยุทธศาสตร์ กำหนดทิศทางของประเทศ ด้วยตัวเอง ประชาชนต้องเป็นผู้นำในการยกเครื่อง ซ่อม สร้าง ประเทศให้ไทยกลับมายืนอยู่แถวหน้าของอาเซียนอีกครั้งหนึ่ง เราเสียโอกาสไปมากแล้วเพราะรัฐบาลชุดนี้และจากนักการเมืองชั่วทั้งหลาย ฝ่ายการเมืองต้องตามหลังมวลมหาประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ต้องฟังเสียงประชาชน

ชัยชนะอยู่ใกล้แค่เอื้อม ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนจะเอื้อมมือไปคว้าหรือไม่  โอกาสเช่นนี้มีไม่มากนัก ขอย้ำว่า เกมนี้ให้ทหารอยู่ในที่ตั้ง ให้เป็นเรื่องของประชาชนกับรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ต้องเดินตามหลังมวลมหาประชาชน ถ้าทำได้อย่างนี้ “ไทยสปริง”คงมีโอกาสเกิดขึ้นในประเทศแน่


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม

view

*

view