ตำรวจขึ้นป้าย เขตพื้นที่ยิงแก๊สน้ำตา ยั่วยุม็อบ-คปท. ท้า อดุลย์ เช็กซีซีทีวีหามือยิงหัวนอต

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       ตำรวจ งัดมุกช่วงสลายเสื้อแดงมาใช้ ระบุเขตพื้นที่ยิงแก๊สน้ำตาจริง แกนนำ คปท. ซัดจงใจยั่วยุม็อบให้เกิดอารมณ์ ท้า “อดุลย์” เช็กกล้องวงจรปิดหามือยิงหัวนอตใส่ป้อมตำรวจทำเนียบฯ อย่ากล่าวหากันลอยๆ พร้อมยินดีให้จับ ด้านผู้ชุมนุมประชดตำรวจตั้งแท่งคอนกรีต-ลวดหนามขวาง ประกาศ “เขตเขมรห้ามเข้า” พร้อมติดธงชาติกัมพูชา

       วันนี้ (10 พ.ย.) บรรยากาศการชุมนุมเวทีของพรรคประชาธิปัตย์ บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวทีกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และเวทีกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ยังคงมีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าร่วมกันอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีสภาพอากาศที่ร้อนจัดก็ตาม

       โดยบรรยากาศในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ผู้ชุมนุมได้รวมกลุ่มบริเวณด้านหน้าเวที เพื่อชมการแสดง และปราศรัยบนเวที โดยบนเวที กปท. ได้ปราศรัยได้ประกาศขอความร่วมมือจากผู้ที่เข้าร่วมชุมนุม ว่า อย่านำสติกเกอร์ที่คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนำไปติดที่รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเป็นรถของทางราชการ อีกทั้งที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ร่วมชุมนุมสามารถไปใช้ห้องสุขาได้ ขณะเดียวกัน ยังได้มีการเชิญชวนประชาชนให้มารวมตัวกันในเวลา 12.00 น. ของวันพรุ่งนี้ เพื่อจะรวมตัวเดินไปที่บริเวณถนนราชดำเนินด้านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

       ด้านเวทีของกลุ่ม คปท. บริเวณแยกมัฆวาน มวลชนยังคงทยอยเข้ามาร่วมชุมนุมอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่พื้นที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ฝั่งสำนักงานสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยังคงเป็นที่ได้รับความสนใจจากประชาชน โดยมีการนำธงชาติกัมพูชามาปักไว้บนแท่งคอนกรีต โดยติดข้อความ “เขตเขมรห้ามเข้า” เพื่อเป็นการแสดงความไม่พอใจที่ทางตำรวจใช้แท่นแบริเออร์ และรั้วลวดหนามติดล้อมรอบทำเนียบรัฐบาล ส่วนทางฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำป้ายขึ้นข้อความว่า “เขตพื้นที่ใช้แก๊สน้ำตา ห้ามฝ่าฝืนบุกรุกเข้ามาโดยเด็ดขาด”

       อีกด้านหนึ่งเมื่อเวลา 14.00 น. นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. แถลงว่า ในวันพรุ่งนี้ (11พ.ย.) เวลา 10.00 น. จะยื่นไปหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้ตรวจสอบว่ามีกลุ่มชายชุดดำ และพลเมืองต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศไทยบริเวณ จ.สุรินทร์ จ.สระแก้ว และ จ.ปราจีนบุรี นอกจากนี้ กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดป้ายขนาดใหญ่บนแท่งแบริเออร์ เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ฝั่งทำเนียบรัฐบาล ระบุข้อความ “เขตพื้นที่ใช้แก๊สน้ำตา ห้ามฝ่าฝืนบุกรุกเข้ามาโดยเด็ดขาด” อยากฝากบอกไปยัง พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ชุมนุมทางการเมืองอย่างสงบ สันติ อหิงสา ไม่มีการใช้อาวุธ และไม่ได้ก่อความวุ่นวาย มีการ์ดอาสาคอยดูแลป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามกดดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดอารมณ์ปะทะกับเจ้า หน้าที่ตำรวจ

       เมื่อถามว่า จะมีการประสานให้เจ้าหน้าที่ปลดป้ายดังกล่าวหรือไม่ นายอุทัย กล่าวว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่ร้องขอ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะการติดป้ายเป็นการจุดชนวนให้พี่น้องที่อยู่แนวหน้าเกิดอารมณ์ แต่เราเห็นแล้วเป็นเรื่องอารมณ์ขัน อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาการชุมนุมสามารถควบคุมมวลชนได้ ส่วนกรณีผู้ชุมนุมใช้กระจกสะท้อนแสงไปยังฝั่งเจ้าหน้าที่ หรือกรณี พล.ต.ต.อดุลย์ ออกมาระบุว่า ผู้ชุมนุมใช้หนังสติ๊กยิงหัวนอตมาป่วนนั้น ยืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้ แต่ขอให้ไปตรวจสอบจากกล้องซีซีทีวี ถ้าพบผู้กระทำผิดจริงจะยินยอมให้เข้ามาจับแน่นอน นอกจากนี้ ในวันที่ 11 พ.ย. เวลา 10.00 น.ทางเครือข่ายฯ จะมีเพื่อนนักศึกษาทุกสถาบัน และเครือข่ายธุรกิจมาร่วมชุมนุม ส่วนกิจกรรมในวันนั้นยังไม่ขอเปิดเผย