สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ผลตอบแทนสูงสุดไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ จับช่องลงทุน

โดย ดร.ตรีพล ภูมิวสนะ ผอ.ฝ่ายลงทุนต่างประเทศและบริหารผู้จัดการกองทุน กบข.



ตำรา ลงทุนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยง แต่การลงทุนนอกตำรานักลงทุนกลับพุ่งเป้าไปที่ผลตอบแทนสูงสุดเป็นสำคัญ ทั้งที่การคำนึงถึงความเสี่ยงหลายมุมมองเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเป็นการมองอนาคตซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง สิ่งที่ผมมักพูดบ่อย ๆ ในเรื่องความเสี่ยง ก็คือถ้าเรารู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ความเสี่ยงย่อมเป็นศูนย์ ดังนั้น การลงทุนเพื่อมุ่งเน้นผลตอบแทนที่สูงสุดย่อมทำได้ไม่ยาก เมื่อเราไม่รู้อนาคต สิ่งสำคัญสำหรับการลงทุน คือต้องพิจารณาลักษณะการกระจายตัวของผลตอบแทน

ในเรื่องนี้ผมขอยก ตัวอย่าง สถานการณ์ลงทุนในตลาดหุ้นปัจจุบัน หากมองแนวโน้มระยะกลาง หุ้นน่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่าตราสารหนี้ ถามต่อไปว่า แล้วตลาดหุ้นไหนล่ะที่น่าจะให้ผลตอบแทนคาดหวังสูงกว่ากันในปี 2557 ระหว่างตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนา หรือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

หากถามผม โดยส่วนตัวผมชอบหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมากกว่า เพราะสัดส่วนของผลตอบแทนต่อความเสี่ยงสูงกว่า

แม้ ว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาจะเติบโตได้รวดเร็วกว่า และแนวโน้วเศรษฐกิจโลกที่กำลังจะฟื้นตัวน่าจะผลักดันให้การส่งออกของประเทศ กำลังพัฒนาดีขึ้นตามด้วย ขณะเดียวกัน ตัวเลขมูลค่าการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาสูงกว่าของกลุ่มประเทศพัฒนาถึง 4% และมีการคาดการณ์กันว่า ผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาปี 2557 จะเติบโตเฉลี่ย 10-12% แถมในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ผลตอบแทนของตลาดประเทศกำลังพัฒนาดีกว่าตลาดประเทศพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญเริ่มมีผู้จัดการกองทุนหันมาเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดประเทศกำลัง พัฒนามากขึ้นอีกด้วย

แต่ใช่ว่าหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะขาดความ น่าสนใจ IMF ได้คาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาในปี 2557 จะเติบโตขึ้น 2% จากระดับ 1.2% ในปี 2556 ซึ่งทุกประเทศในกลุ่มนี้ล้วนเติบโต

หมด ยกเว้นญี่ปุ่น ซึ่งเวลานี้แขวนอยู่บนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายอาเบะ ส่วนผลประกอบการของบริษัทในยุโรป สหรัฐ และญี่ปุ่น ยังโตขึ้นโดยเฉลี่ย 8-10%

สภาพคล่องในระบบยังคงมีสูง บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสหรัฐ ยังมีสภาพคล่องสูงและมีเงินสดพร้อมซื้อหุ้นกลับหรือจ่ายปันผล ส่วนยุโรปเศรษฐกิจน่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้งและส่งผลบวกต่อรายรับและรายได้ ของบริษัทต่าง ๆ ขณะที่นโยบายผ่อนคลายทางการเงินอย่างต่อเนื่องของญี่ปุ่นน่าจะทำให้ ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงอีก ซึ่งจะส่งผลบวกต่อหุ้นญี่ปุ่น และแม้ราคาหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วในขณะนี้จะไม่ถูกเหมือนก่อนแล้ว แต่ความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ตลอดจนสภาวะการลงทุนยังเอื้อให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก

เมื่อ อ่านมาถึงตรงนี้ ท่านผู้อ่านคงมองว่าตลาดประเทศกำลังพัฒนาน่าจะดูดีกว่า แต่อย่าลืมว่าในปี 2557 ยังมีปัจจัยที่น่ากังวล คือการถอนคิวอีของสหรัฐ หากเป็นเช่นนั้น คำตอบน่าจะเปลี่ยนไป

เนื่องจากในช่วงที่มีคิวอี แต่ละประเทศในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาได้รับอานิสงส์จากเงินไหลเข้าเป็นจำนวน มาก เศรษฐกิจก็ค่อนข้างดี ค่าเงินแข็งค่าขึ้น แต่หาก

ปี 2557 สหรัฐถอนคิวอีจริง เงินทุนจะเริ่มไหลกลับบางส่วน และอาจกระทบต่อตลาดทุนในประเทศกำลังพัฒนา เหมือนเช่นที่เราเห็นกันในเดือนพฤษภาคม-สิงหาคมที่ผ่านมา หลังเฟดประกาศว่าอาจจะลดคิวอีตลาดประเทศกำลังพัฒนา ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ต่างลดลงเป็นอย่างมาก

นี่ถือเป็นการจำลอง สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในปี 2557 การกระจายตัวของผลตอบแทนที่คาดหวังจากตลาดประเทศกำลังพัฒนาน่าจะมีโอกาสต่ำ กว่าที่คาดได้มากกว่า (Negative Surprise)

เมื่อพิจารณาทุกปัจจัย ความเสี่ยงแล้ว แม้ว่าผลตอบแทนที่คาดหวังจากตลาดประเทศพัฒนาแล้วจะไม่สูงเช่นประเทศกำลัง พัฒนา แต่เราก็ต้องกระจายการลงทุนไปในประเทศพัฒนาแล้วเช่นกัน

ก็อย่างที่ผมบอกตั้งแต่ต้นแหละครับว่า ผลตอบแทนสูงสุดอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน

ผลตอบแทนคาดหวังมักมาพร้อมกับโอกาสที่จะผิดหวัง หรือภาษานักลงทุนเรียกว่า "ความเสี่ยง" นั่นเองครับ


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ผลตอบแทนสูงสุด คำตอบสุดท้าย

view