ทฤษฎีกบต้ม

จาก โพสต์ทูเดย์

มีนักวิชาการชาวไอริชผู้หนึ่งชื่อ Tichyand Sherman (1993) ได้เสนอแนวคิดทฤษฎีโดยการทดลองนำกบมาต้มในอ่างน้ำ 2 อ่าง เพื่อศึกษาการเปรียบเทียบปฏิกิริยาตอบสนองของกบ

อ่างน้ำที่นักวิชาการท่านนี้นำมาใช้ทดลองนั้น ใส่น้ำต่างกัน ใบแรกเป็นอ่างน้ำร้อนจัด ใบที่สองเป็นอ่างน้ำที่อุ่นสบายๆ และทำให้ค่อยๆ อุ่นขึ้นจนเดือด ได้ทดลองนำกบมา 2 ตัว ตัวแรกใส่ในอ่างน้ำที่ร้อนจัด ส่วนตัวที่สองใส่ในอ่างน้ำอุ่น ที่ทำให้อุ่นขึ้นจนเดือด โดยผู้ทดลองต้องการศึกษาว่า กบตัวไหนจะตายก่อน หรือตัวไหนจะรอดชีวิต

ผลการทดลองปรากฏว่า กบที่ใส่ในอ่างแรก คือ อ่างน้ำเดือด ปรากฏว่ากบรอดชีวิต แต่กบที่ใส่ในอ่างน้ำอุ่นที่ค่อยๆ ร้อนขึ้นกลับตาย ที่เป็นเช่นนี้เพราะเหตุใด เหตุผลคือ กบในอ่างน้ำเดือดจะรู้ว่าน้ำร้อน ด้วยสัญชาตญาณของการเอาตัวรอด จึงรีบกระโดดออกมาทันทีที่สัมผัสน้ำเดือด แต่กบที่อยู่ในน้ำอุ่นจะรู้สึกสบาย แม้ว่าน้ำจะค่อยๆ อุ่นขึ้นก็ไม่ยอมกระโดดออกมา ยังคงอยู่ในอ่างน้ำจนกระทั่งน้ำเดือดจึงตาย

แนวคิดที่ได้จากการทดลองนี้ก็คือ การจะเอาตัวรอดได้ เราจะต้องไวต่อความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เหมือนกบที่ถูกโยนในอ่างน้ำร้อน ส่วนผู้ที่เฉื่อยชาต่อความเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงทีละเล็กละน้อย แต่มันก็เป็นสัญญาณเตือนให้ระวัง ก็มักจะประสบความเสียหาย อย่างเช่นในการทำธุรกิจ เราอาจเพิกเฉยต่อผลประกอบการที่เริ่มปรับลดน้อยลงทีละเล็กทีละน้อย คิดว่าไม่เป็นไร กว่าจะรู้ตัวก็อาจถูกบีบให้ออกจากตลาดที่เราเคยเป็นเจ้าของก็ได้ ตัวอย่างเหล่านี้มีให้เห็นมากมาย อย่างเช่น Kodak เจ้าแห่งฟิล์มที่ไม่ปรับตัวเองต่อการเข้ามาของกล้องดิจิตอลจนในที่สุดต้องล้มละลายไป (ทั้งที่ผู้ที่คิดค้นกล้องดิจิตอล คือ Kodak นั่นเอง)

ในชีวิตเราเองก็เช่นกัน หลายครั้งเราเองก็เป็นเหมือนกบต้ม อย่างเช่น บางคนที่มีหนี้มหาศาล ก็เริ่มจากเป็นหนี้ทีละเล็กทีละน้อย หรือใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายทีละเล็กทีละน้อย เมื่อทำบ่อยๆ เข้าจะกลายเป็นนิสัย สุดท้ายก็กลายเป็นบุคคลที่มีหนี้มากมายจนอาจก่อให้เกิดปัญหากับตนเองและครอบครัวได้ หรืออีกตัวอย่างคือ การไม่ออกกำลังกาย หรือกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เพราะคิดว่าไม่เป็นอะไร ยังแข็งแรงดีอยู่ กว่าจะรู้ตัวก็อาจสายไปแล้วก็ได้

ทฤษฎีกบต้มนี้ ยังสามารถนำมาใช้กับการลงทุนได้เช่นกัน กรณีที่ผู้ลงทุนหลายคนทำผิดพลาด ก็คือการที่หุ้นที่ตนเองลงทุนอยู่ ค่อยๆ ปรับลดลงทีละเล็กละน้อย ก็ประมาทไม่เฉลียวใจว่ามีอะไรเกิดขึ้น กว่าจะรู้ตัวหุ้นตัวนั้นราคาอาจปรับลดลงไป 50-60% แล้วก็ได้

การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หนีไม่พ้น เกิดขึ้นแน่ๆ กับทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นหากเราไม่อยากเป็น “กบต้ม” เราก็ควรเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง อย่าเคยชินกับสภาพปัจจุบันจนไม่ปรับตัว ต้องหมั่นสังเกตและกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง สำคัญที่สุดคือเปลี่ยนแปลงตนเองครับ

สุดท้ายมีคำพูดหนึ่งจากหนังดัง “The Iron Lady” เข้าท่าดี ขอยืมมาใช้เลยนะครับ

“จงระวังความคิด เพราะมันจะกลายมาเป็นคำพูด จงระวังคำพูด เพราะมันจะกลายมาเป็นการกระทำ จงระวังการกระทำ เพราะมันจะกลายมาเป็นนิสัย จงระวังนิสัย เพราะมันจะกลายมาเป็นบุคลิก และจงระวังบุคลิก เพราะมันจะกำหนดเส้นทางชีวิตคุณ” (The Iron Lady)

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน