“ศาลรัฐธรรมนูญ” รู้ทัน “วรชัย” เต้าข่าวพบ “เทือก” ขุดบ่อล่อตุลาการพ้นองค์คณะ

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ศาลรัฐธรรมนูญยืนยันไม่มีตุลาการอักษรย่อ “ช.ช้าง” นัดพบกับ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ล้มรัฐบาล ชี้ “วรชัย” ใช้แผนลวงต้องการให้ตุลาการเสียหายแล้วแจ้งความดำเนินคดี แล้วร้องคัดค้านให้พ้นองค์คณะวินิจฉัยคดี เสียงชี้ขาดจะได้แกว่ง ด้านเลขาศาลรัฐธรรมนูญระบุ ขอดูสถานการณ์ก่อนพิจารณาเพิ่มกำลังดูแลความปลอดภัยตุลาการ
       
       วันนี้ (14 พ.ย.) แหล่งข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญยืนยันกรณี นายวรชัย เหมะ ส.ส.มุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน หนึ่งในนั้นอักษรย่อ “ช” ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ล้มรัฐบาลนายสมชาย ได้นัดพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหวังวางแผนที่จะล้มรัฐบาล ว่าไม่เป็นความจริง และเชื่อว่ากระบวนการดังกล่าวต้องการดิสเครดิตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่ศาลฯ จะมีการวินิจฉัยคดีสำคัญก็จะมีข่าวในลักษณะนี้ออกมาเพื่อลดความน่าเชื่อถือ ของศาลฯในการวินิจฉัยคดีนั้นๆ
       
       นอกจากนี้ในการพูดคุยของตุลาการฯยังมองจุดประสงค์ของนายวรชัย ว่า ต้องการที่ให้ตุลาการฯเกิดความรู้สึกว่าเสียหายที่ถูกกล่าวหา แล้วไปแจ้งความดำเนินคดี เมื่อถึงเวลาพิจารณาคดีสำคัญ ตุลาการฯคนนั้นก็จะถูกร้องคัดค้านไม่ให้เป็นองค์คณะพิจารณา เพราะถือว่าเป็นคู่ความกันในดคีอาญา ทำให้ตุลาการฯคนนั้นต้องถอนตัว
       
       เหมือนในอดีตที่ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยคดียุบพรรคประชาธิปัตย์จาก กรณีเงินบริจาค 258 ล้าน แล้วนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่า นายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นทีมกฎหมายสู้คดีดังกล่าว ได้ไปพบกับ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในขณะนั้น ทำให้ นายวสันต์ ฟ้อง นายพร้อมพงศ์ ฐานหมิ่นประมาท และถูกคัดค้านจนต้องถอนตัวในการเป็นองค์คณะพิจารณาคำร้องดังกล่าว ซึ่งการถอนตัวของตุลาการฯ ก็จะทำให้มีผลต่อเสียงชี้ขาดในการวินิจฉัยคดีเหลือเพียง 8 เสียง และมีโอกาสที่เสียงลงมติจะเท่ากันได้
       
       ด้าน นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานฯ ยังไม่ได้มีการเพิ่มกำลังดูแลรักษาความปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนสัปดาห์หน้าที่ศาลฯจะนัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มา ส.ว.ในวันที่ 20 พ.ย.นั้น ก็จะต้องประเมินสถานการณ์กันอีกครั้งหนึ่งว่า มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยหรือไม่ ทั้งนี้เชื่อว่าภาพรวมเหตุการณ์จะเป็นไปด้วยความปกติ

ส.ส.แดง ขู่ไม่รับคำตัดสินศาล รธน.คดีที่มา ส.ว. อ้าง 2 ตุลาการพบ “เทือก” วางแผนล้มรัฐ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ส.ส.เสื้อแดงประกาศล่วงหน้าไม่ยอมรับคำตัดสินศาล รธน.คดีที่มา ส.ว.วันที่ 20 พ.ย.นี้ อ้าง 2 ตุลาการศาลฯ พบ “เทพเทือก” เชื่อมีการวางแผนล้มรัฐบาล ลั่นระดมสมุนแดงนับแสนก่อม็อบกดดันช่วงตัดสินคดี เย้ยม็อบราชดำเนินอารยะขัดขืนแป้ก
         ที่รัฐสภา วันนี้ (14 พ.ย.) นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำคนเสื้อแดง นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี และนายพหล วรปัญญา ส.ส.ลพบุรี ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายสมคิดกล่าวยืนยันว่า ส.ส.42 คนที่ร่วมลงชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย จะทำตามมติพรรค และพรรคร่วมรัฐบาลที่ลงสัตยาบันจะไม่หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาอีก ดังนั้นการชุมนุมจึงไม่ควรหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไขอีก
       
       นายวรชัยกล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะมีนัยสำคัญคล้ายกับการขับไล่รัฐบาลสมัยนายสม ชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และจากนั้นศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชาชน
       
       นายวรชัยอ้างว่า ล่าสุดทราบมาว่ามีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน หนึ่งในนั้นมีอักษรย่อ “ช.” ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ล้มรัฐบาลสมัยนายสมชาย ได้นัดพบกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคประชาธิปัตย์ จังหวะเดียวกับการที่กลุ่ม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 9 คนลาออก จึงเห็นว่าเรื่องดังกล่าวอาจมีการวางแผนที่จะล้มรัฐบาลหรือไม่ โดยใช้ประเด็นการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ 312 ส.ส.และ ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว.มาเป็นเงื่อนไข ทั้งที่ศาลไม่มีอำนาจรับเรื่องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 จะต้องผ่านอัยการสูงสุดก่อน และหากศาลรับเรื่องก็จะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญเสียเอง ดังนั้น เราก็ยอมรับศาลไม่ได้เหมือนกัน และหากเป็นเช่นนั้นจริงจะถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองโดยศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนจะไม่ยอมรับเด็ดขาด
       
       ขณะเดียวกัน ในวันที่ 18-20 พ.ย.ที่คนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมเพื่อฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่เมืองทองธานีนั้น คาดว่าอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ เพราะเชื่อว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุมกว่า 1 แสนคน
       
       ด้านนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ขณะนี้มีชาวบ้านฝากถามว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลาออก 9 คน เงินที่ต้องเสียกับการเลือกตั้งกว่า 80 ล้านบาท พรรคประชาธิปัตย์ คิดอย่างไร ซึ่งการที่มีการระบุว่าจะไม่เอาพื้นที่ดังกล่าวอีกนั้น แสดงว่าจะไม่ส่งตัวแทนลงสมัคร ส.ส. ในเขตพื้นที่ดังกล่าว ใช่หรือไม่
       
       ส่วนที่เสนอให้ประชาชนอารยะขัดขืน โดยการไม่จ่ายภาษีปรากฏว่า ภาคเอกชนและ สื่อมวลชน ไม่ขานรับ และกลับบอกว่า ให้เอาเงินไปฝากที่ศาลแทน ถือว่า เป็นการเพิ่มภาระให้ศาล เพราะศาลไม่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเงิน เรื่องนี้เป็นประเด็นการเมืองใช่หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ ข้อเรียกร้องเรื่องร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถือว่ามีข้อยุติ และประเด็นที่จะใช้เรียกร้องก็หมดไปแล้ว จึงควรยุติการชุมนุม หรือผู้ชุมนุมต้องการโค่นล้มรัฐบาล ต้องการให้มีการรัฐประหารใช่หรือไม่ ถือว่าไม่ถูกต้อง ขอให้ตอบให้ชัดเจน รวมทั้งการที่ ส.ส.และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป่านกหวีดใส่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ไม่ทราบว่าวุฒิภาวะผู้เป่านกหวีดคิดอย่างไร จะเป่ากับคนที่มีความคิดต่างกันทุกคนไม่สามารถทำได้
       
       นอกจากนี้ ยังมีการเป่านกหวีดในที่ประชุมรัฐสภา ถือว่าไม่ควรกระทำเช่นนี้ เป็นเรื่องไม่เหมาะสม ควรมีการดำเนินการทางวินัย เพราะผิดจรรยาบรรณของสมาชิกรัฐสภา ประธานและสมาชิก ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม หากต้องการตรวจสอบก็ควรทำในสภา ไม่ควรใช้กลไกไม่เหมาะสมโดยการนำมวลชนมาขับไล่

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน