สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

หน้าใหม่ในการประท้วง โดย ผาสุก พงษ์ไพจิตร

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ ดุลยภาพดุลยพินิจ

การเปลี่ยนโฉมหน้าและชื่อกลุ่มประท้วงบนท้องถนนในช่วงสี่สิบปีที่ผ่านมาเป็นพัฒนาการน่าสนใจมาก และอาจจะบอกถึงอะไรใหม่ๆ ในสังคมการเมืองไทย

ทศวรรษ 2510 นิสิตนักศึกษาเป็นกลุ่มประท้วงที่สำคัญที่สุด ทศวรรษ 2530 กลุ่มเคลื่อนไหวในที่สาธารณะเปลี่ยนไปเป็นองค์กรพัฒนาเอกชน สมัชชาคนจน สมัชชาเกษตรกรรายย่อย

ทศวรรษ 2550 กลุ่มประท้วงและศัพท์แสงที่ใช้เรียกชื่อกลุ่มเปลี่ยนไปอีกอย่างสิ้นเชิง ขณะนี้ใครๆ ก็ประท้วงได้ เหมือนคำโฆษณาของแอร์เอเชียที่ว่า "ตอนนี้ทุกคนสามารถบินได้" "Now Everyone Can Fly"

ปรากฏการณ์ประท้วงบนท้องถนนตอนนี้ มีลักษณะพิเศษเพิ่มขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ

กลุ่มและชื่อมีความหลากหลาย กลุ่มเก่าบางกลุ่มที่อาจสูญเสียความนิยมไปบ้างในอดีต ก็เปลี่ยนชื่อกลุ่มเสียใหม่ก็มี บางทีก็เพื่อเรียกลูกค้าใหม่ๆ ประชา ประชาชน เป็นศัพท์ที่พบซ้ำๆ ในชื่อกลุ่มขณะนี้เช่น กองทัพประชาชน ...สภาประชาชน...ประชาธิปัตย์... นักศึกษาประชาชน...

ในอดีต ชื่อกลุ่มบ่งบอกความเป็นกลุ่มเฉพาะสถานะ หรือเฉพาะอาชีพค่อนข้างชัดเจน เช่น สมัชชาคนจน ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย สมัชชาเกษตรกรรายย่อย

แต่ขณะนี้ต้องบ่งบอกแสดงความกว้างและครอบคลุมถึงความหลากหลายสถานะและต้องมีมิติคนทั่วๆ ไป ด้วยเหตุฉะนี้ จึงใช้คำว่าประชา ประชาชนเพื่อสื่อสารว่าข้าเป็นประชาชนนะ

มีบางกลุ่มใหม่ที่ชื่อยังแสดงอัตลักษณ์เฉพาะตัว ตัวอย่างก็เช่นกลุ่มประท้วงกลุ่มใหม่ล่าสุดในพื้นที่สาธารณะเป็นครั้งแรกภายใต้ชื่อ "กลุ่มราชนิกุล" ทั้งนี้แม้เคยมีกลุ่มเจ้าที่เดินขบวนเรียกร้องมาตรา 7 สมัยต่อต้านทักษิณช่วงแรกๆ แต่ในครั้งนั้นก็ไม่ได้ตั้งชื่อกลุ่มให้แสดงถึงตัวตนอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มนี้ใหม่มาก จนคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเขียนอธิบายว่า ราชนิกุลในสังคมไทยหมายถึงใครบ้าง (เดลินิวส์ 4 พ.ย.2556, น.2)

เหตุใดจึงมีกลุ่มประท้วงใหม่ๆ ในที่สาธารณะเกิดขึ้นตอนนี้

อาจจะเป็นเพราะว่าเรายังไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มที่ กล่าวคือ รัฐสภายังไม่เป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่หลากหลายทั่วทั้งสังคมไทย เพราะพรรคการเมืองมีแต่นักธุรกิจบางประเภท และข้าราชการเกษียณเต็มไปหมด

หลักนิติธรรมที่ว่า ทุกคนอยู่ใต้กฎหมายเดียวกันอย่างเท่าเทียมก็ยังไม่เป็นจริง เพราะว่ายังมีคนบางกลุ่มบางพวกที่อยู่เหนือเงื้อมมือกฎหมาย โดยได้รับการปกป้องไม่ถูกลงโทษเมื่อทำผิด ยกตัวอย่างเช่น ไม่เคยมีผู้ก่อการรัฐประหารหรือผู้ยึดสนามบินที่ถูกลงโทษ แม้ผลของการกระทำนั้นจะสร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจสังคมอย่างล้นเหลือ หรือผู้ที่ซื้อเครื่องสแกนสำหรับท่าอากาศยานในราคาสูงเกินราคาตลาดเป็นอย่างมาก โดยหยิบฉวยเงินภาษีของประชาชนเข้ากระเป๋าตนเองและพรรคพวก ก็ไม่เคยถูกลงโทษแม้จะมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ฯลฯ

แต่สังคมไทยอาจกำลังจะเป็นประชาธิปไตยหรือกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยในที่สาธารณะอย่างกว้างขวางขึ้น เมื่อแม้แต่กลุ่มราชนิกุลก็ร่วมขบวนประชาชนเป็นกลุ่มประท้วงในพื้นที่สาธารณะด้วย

การที่มีคนหลายกลุ่มอ้างว่าเขาเป็นประชา ประชาชน บอกให้เห็นว่าปัจจุบันความเป็นประชาชนสำคัญขึ้นมาแล้ว เพราะมันโยงกับเรื่องสิทธิ

นี่เป็นความก้าวหน้าที่น่าอัศจรรย์ทีเดียว


ที่มา นสพ.มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 15 พ.ย.56


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : หน้าใหม่ การประท้วง ผาสุก พงษ์ไพจิตร

view