จาก โพสต์ทูเดย์
โดย ภัทระ คำพิทักษ์ บรรณาธิการ นสพ.โพสต์ทูเดย์
สุเทพขีดเส้นให้ตัวเองว่า ด้วยอารยะขัดขืนเรื่องนี้ต้องจบภายสิ้นเดือน หลายคนขำก๊าก หลายคนบอกว่า “แป๊ก”
น่าสนใจว่า ถ้าสมมุติว่า สุเทพแป๊กจริงๆ แล้วคนไทยจะใช้เวลานานเท่าไหร่ ถึงจะไม่แป๊ก ?
คนจำนวนมากตื่นขึ้นมาถือนกหวีดในมือ แต่ก็ยังคิดว่าการต่อสู้ทางการเมืองขณะนี้เป็นเรื่อง “เกม” ระหว่างประชาธิปัตย์กับ ทักษิณ ชินวัตร
เรามีฉันทามติว่า เราขอปฏิเสธความรุนแรงและการเปลี่ยนแปลงนอกระบบ ไม่อยากจะเอาการปฏิวัติ รัฐประหาร แต่เราก็อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว
ผมว่า บางทีเราต้องเรียนรู้เรื่องอารยะขัดขืนมากกว่านี้
มหาตมะ คานธี บิดาของ “อารยะขัดขืน หรือ civil disobedience” ใช้วิธีการนี้พาคนอินเดียกอบกู้เอกราชจากอังกฤษ
อารยะขัดขืน คือการไม่ทำตามคำสั่งหรือกฎหมายของรัฐบาลหรือผู้ถืออำนาจ โดยปราศจากความรุนแรงทางกายภาพ ประชาชนได้กระทำการประท้วงโดยปราศจากการใช้กำลัง ถึงแม้ว่าจะถูกคนของรัฐบาลทำร้ายแต่ก็ยังเดินหน้าต่อไป แม้จะได้รับบาดเจ็บหรือถูกทุบตีหรือฆ่าก็ตาม
คานธีใช้เวลาวันละ 1 ชั่วโมงทุกวันเพื่อปั่นด้าย เพื่อสาวเอาจิตวิญญาณของคนอินเดียออกมา จนในที่สุดคนอินเดียก็ทอผ้าขึ้นใช้เอง แต่เขาใช้เวลาถึง 25 ปีเพื่อทำให้คนอินเดียเชื่อมั่นเขาโดยมิมีใครเคลือบแคลง
หลายครั้งคานธียกเลิกการชุมนุม เพราะเล็งเห็นแล้วว่า สถานการณ์จะบานปลายเป็นความรุนแรง
ในปี 1930 ขณะเขามีอายุ 62 ปี คานธีวางแผนต่อต้านการเก็บภาษีซึ่งไม่เป็นธรรม
เป้าหมายคือ ต่อต้านการเก็บภาษีเกลือ ถ้าจะเทียบก็คงเปรียบได้กับพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
เขาก้าวเท้าออกจากบ้านเพื่อเดินเท้าเป็นทางไกลระยะทาง 240 ไมล์มุ่งไปยังฝั่งชายทะเล
หลายคนขำก๊าก แม้แต่พรรคพวกเดียวกันก็ยังไม่เห็นทางสำเร็จ คนหวังดีอ้อนวอนให้เขาเห็นแก่สุขภาพขอให้ออมกำลังไว้เพื่อทำประโยชน์อื่นอันไพศาลกว่าให้กับคนอินเดีย แต่เขาก็ก้าวออกไป
วันที่ 12 มีนาคม 1930 คานธีพร้อมด้วยผู้ติดตาม 80 คน ได้เดินทางซึ่งต่อมากลายเป็นการเดินพลิกประวัติศาสตร์
คานธีเดินได้เพียงวันละ 10 ไมล์ ผ่านหมู่บ้านเป็นพันๆแห่งเพื่อไปยังเมืองพาราณาสี มีคนเดินตามเขามากขึ้นๆ
6 เมษายน ขบวนของคานธีมาถึงชายฝั่งมหาสมุทร คานธีก้มลงหยิบเกลือขึ้นแล้วหันหลังไปพูดกับคนอินเดียนับแสนที่ตามมาแล้วเอ่ยขึ้นว่า "ด้วยเกลือหยิบมือนี้ ข้าพเจ้าขอต่อต้านการบังคับของจักรวรรดิอังกฤษ ขอเราจงร่วมกันต่อสู้เพื่อสิทธิของพวกเรากันเถิด"
สิ้นคำของคานธี คนทั่วประเทศอินเดียลุกขึ้นมาทำเกลือเอง ไม่สนใจกฎหมายที่ห้ามคนอินเดียทำเกลือ
คานธี ถูกจับ หลายคนถูกทุบถูกตี ถูกขังแต่ในที่สุด ลอร์ด เออร์วิน ผู้สำเร็จราชการอังกฤษต้องปล่อยตัวคานธี
พอเขาออกจากคุกก็ถูกเชิญไปเจรจากับ ลอร์ด เออร์วิน ที่จวนผู้สำเร็จราชการอังกฤษ
เมื่อถูกถามว่า จะดื่มน้ำอะไร คานธีขอน้ำอุ่นแก้วหนึ่ง
ครั้นน้ำอุ่นมาถึงเขาล้วงของบางอย่างในชายพก พอ ลอร์ด เออร์วิน ถามว่า “นั่นคือ อะไร” คานธีตอบว่า "ท่านที่เคารพ อย่าบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้นะ นี่เป็นเกลือที่ผมทำโดยผิดกฎหมาย"
คานธีเทเกลือคนลงในน้ำ แล้วก็ดื่มต่อหน้าผู้สำเร็จราชการอังกฤษ...
ถ้าเราขอปฏิเสธความรุนแรงและการเปลี่ยนแปลงนอกระบบ
ถ้าเราเห็นด้วยกับอารยะขัดขืน ต้องตื่นรู้ในอำนาจนกหวีดในมือ
ต้องไม่เผลอหลับโดยคิดว่า เรื่องนี้เป็น “เกม” ระหว่างประชาธิปัตย์กับ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น
ถ้าเราไม่เชื่อเรื่องสันติวิธี ไม่เอาอารยะขัดขืน ก็ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า เราจะกลับไปสู่วิถีเก่า ? หรือมีวิธีอื่นใด?
สุเทพขีดเส้นให้ตัวเองว่า ด้วยอารยะขัดขืนเรื่องนี้ต้องจบภายสิ้นเดือน
หลายคนขำก๊าก หลายคนบอกว่า “แป๊ก”
น่าสนใจว่า ถ้าสมมุติว่า สุเทพแป๊กจริงๆ แล้วคนไทยจะใช้เวลานานเท่าไหร่ ถึงจะไม่แป๊ก ?
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
