จากประชาชาติธุรกิจ
ประเด็นหลักสำหรับภาวะการลงทุนใน ตลาดทุนไทยตอนนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องการเมือง ซึ่งกดดันหุ้นไทยอยู่เป็นระยะ ๆ แต่ประเด็นสำคัญ สำหรับภาวะและแนวโน้มการลงทุนทั่วโลกคงยังหนีไม่พ้นเรื่องของธนาคารกลาง สหรัฐ (The Federal Reserve : Fed) ว่าจะเริ่มชะลอขนาดของโครงการ Quantitative Easing หรือ QE หรือที่รู้จักกันในชื่อ QE Tapering เมื่อไหร่ ?
โดย ดร กำพล อดิเรกสมบัติ หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU)
เศรษฐกิจ สหรัฐฟื้นตัวต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในไตรมาสที่ 3 ซึ่งขยายตัวถึง 2.8% (QoQ sa) นับเป็นการขยายตัวที่สูงที่สุด ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2012 เมื่อ
ดูไส้ในของเศรษฐกิจจะพบว่าเป็นการขยายตัวได้ใน เกือบทุกภาคของเศรษฐกิจ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งชี้ประเด็นว่าการที่เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 ขยายตัวได้มาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการสะสมของสินค้าคงคลัง (Inventories) ค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม TISCO ESU เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ดังเห็นได้จากดัชนี้ชี้นำทางด้านการผลิต US Manufacturing PMI (Purchasing Manager Index) ที่ล่าสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาสูงถึง 56.4 ซึ่งนับเป็นการเร่งตัวขึ้น และส่งสัญญาณขยายตัวเดือนที่ 5 ติดต่อกัน
แล้ว ล่าสุดตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐออกมาดีกว่าคาด โดยพบว่าตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐเริ่มกลับมาส่งสัญญาณการฟื้นตัวอีกครั้ง หลังชะลอลงไปในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐมีการปิดตัวลงไปชั่วคราว
โดยตัว เลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payroll : NFP) ในเดือนตุลาคมสูงถึง 204,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ และทำให้ตัวเลขเฉลี่ย 3 เดือนล่าสุดสูงถึง 202,000 ตำแหน่ง ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวเลข NFP นี้สูงกว่า 200,000
นักลงทุนก็จะเริ่มกังวลว่า Fed Tapering อาจเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ เพราะเลข NFP เฉลี่ย 3 เดือนที่ 200,000 นี้เป็นระดับที่เชื่อกันว่า สมาชิกของ Fed จะใช้เป็นระดับมาตรฐานที่บ่งบอกว่าตลาดแรงงานมีการฟื้นตัวที่ชัดเจน และอาจทำการตัดสินใจเปลี่ยนนโยบายการเงินได้ ทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่ Fed อาจเริ่มทำ QE Tapering ในเดือนธันวาคมนี้ โดยจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณการ
ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งเริ่มให้ความเห็นว่า โอกาสที่ Fed อาจจะเริ่มทำ QE Tapering ในเดือนธันวาคมนี้มากขึ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญจะขึ้นอยู่กับตัวเลขการจ้างงานเดือนพฤศจิกายน ที่จะออกมาในวันที่ 6 ธันวาคม ซึ่งหากส่งสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่อง เช่น NFP มากกว่า 200,000 ตำแหน่ง โอกาสที่จะเห็น Fed ประกาศ QE Tapering ในการประชุมวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ ก็น่าจะมีสูงขึ้นไปอีก
ส่วน TISCO ESU ยังคงมุมมอง QE Tapering ในเดือนมีนาคม 2014 แม้ตัวเลข NFP จะฟื้นตัวได้ แต่ตัวเลขอื่น ๆ ยังคงมีสัญญาการฟื้นตัวที่ไม่ชัดเจนนัก เช่น อัตราการมีส่วนร่วมของกำลังแรงงงาน (Labor Force Participation Rate) ซึ่งเป็นตัวเลขแรงงานอีกตัวเลขหนึ่งที่ทาง Fed ให้ความสำคัญยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำเพียง 62.8% ในเดือนตุลาคม (ต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 1978) อีกทั้งอัตราการว่างงานยังไม่มีสัญญาณที่จะลดลงในช่วงข้างหน้า (อยู่ในระดับ 7% ต้น ๆ มาระยะหนึ่งแล้ว)
นอกจากตัวเลขแรงงานที่กล่าวแล้ว ความเสี่ยงทางการคลังในประเด็น Public Debt Ceiling และ Government Shutdown จะกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า TISCO ESU จึงยังคงมุมมองว่า Fed Tapering น่าจะมีขึ้นในช่วง 18-19 มีนาคม 2014
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
