สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ย้อนรอยสัญญาข้าวจีทูจีลวง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ย้อนรอยมหากาพย์ขายข้าวจีทูจี ฉบับ "ลับ-ลวง-พราง" ป.ป.ช.สาวลึก! พบข้อมูล"เก๊"

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกมาแถลงถึงความคืบหน้าในการไต่สวนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมว.พาณิชย์ กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวว่า ข้อเท็จจริงการจากการไต่สวนได้ความว่าการเจรจาที่อ้างว่าเป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ระหว่างรัฐบาลกับผู้แทนหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจีน ปรากฏว่าพยานหลักฐานยังไม่มีน้ำหนักให้เห็นได้ว่าเป็นการซื้อขายแบบจีทูจีและพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลอื่นมีส่วนร่วมกระทำความผิดในการโครงการดังกล่าว จึงต้องไต่สวนเพิ่มในบุคคลและคณะบุคคล 5 กลุ่มหลัก

หนึ่งในนั้นมีบริษัทสยามอินดิก้า ที่พบว่าการจ่ายเงินจีทูจีล้วนเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้ และบริษัทตัวแทนจีนล้วนเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้อย่างแยกไม่ออกเช่นกัน การไต่สวนพบว่าสัญญาขายข้าวมีถึง 4.8 ล้านตันแต่ส่งมอบกันจริงเพียง 3.7 แสนตันเศษ ทำให้รัฐเสียหายและเป็นสัญญาลวง

แน่นอนว่าชื่อของ บริษัท สยามอินดิก้า แยกไม่ออกจาก“เสี่ยเปี๋ยง” นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเคยเป็นบริษัทส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยสมัยรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร แม้ว่าจะเป็นคนละบริษัทกัน แต่กรรมการและผู้ถือหุ้นหลายคน ในบริษัท สยามอินดิก้า เคยเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้งมาก่อน อาทิ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร อดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำนวน 43,739,000 หุ้น เป็นอดีตผู้ก่อตั้ง กรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด จำนวน 232,560 หุ้น

ในช่วงปี 2551 บริษัท สยามอินดิก้า เคยเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านการเงินกับ บริษัท เพรซิฯโดยการเข้าไปทำสัญญาซื้อหนี้ ของบริษัท เพรซิเดนท์ ฯ จากธนาคารกรุงไทย ในราคา 1,050 ล้านบาท จากมูลหนี้ 1,286 ล้านบาท

เป็นบริษัทสยามอินดิก้าที่ถือตั๋วไปเบิกข้าวจีทูจี จากกรมการค้าต่างประเทศ แทบเป็นเพียงรายเดียว ในยุครัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ขณะที่“ผู้มีอำนาจ”ของบริษัท “GSSG IMP AND EXPORT CORP” จากเมืองกวางเจา ประเทศจีน เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศ คือ นายรัฐนิธ โสติกุล ก่อนส่งมอบอำนาจดำเนินการแทน ให้นายนิมล รักดี ชาว อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร โดยแหล่งที่มาของเงิน ที่นำมาใช้ในการซื้อข้าว ก็มาจากในประเทศไทย โดยมีชื่อนายสมคิด เรือนสุภา เป็นผู้ดำเนินการออกแคชเชียร์เช็ค และจากการตรวจสอบพบว่าบริษัทนี้ซื้อขายหลายอย่างและหนึ่งในนั้นเป็นเครื่องกีฬา ไม่ได้เชี่ยวชาญการค้าข้าวมากนัก

น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายไว้ว่า "รัฐนิธ" ชื่อเล่นว่า “ปาล์ม”อายุ 32 ปี เพิ่งผ่านการเรียนหลักสูตรวุฒิบัตรผู้ช่วยและผู้ปฏิบัติงานของสมาชิกรัฐสภารุ่นที่ 6 สถาบันพระปกเกล้า และเป็นผู้ช่วยส.ส.ในลำดับที่ 3 ของนางรพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

ขณะที่“นิมล” มีชื่อในวงการว่า “เสี่ยโจว” เป็นมือขวา“เสี่ยเปี๋ยง” หรือ อภิชาติ เจ้าของบริษัทเพรสซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ที่ผูกขาดการซื้อข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว ในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วน“สมคิด”ที่ปปช.ประกาศไต่สวนเพิ่มวานนี้ เป็นคนของบริษัทสยามอินดิก้า เพราะเคยได้รับมอบอำนาจจากเสี่ยเปี๋ยง ไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท สยามอินดิก้า เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2547

ปปช.ชี้ข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่าจีทูจีไม่มีอยู่จริง แต่เป็นการกำหนดรูปแบบขึ้นมา เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคา ทำให้เกิดความเสียหายจากการขายในราคาตํ่ากว่าราคาตลาด

จากข้อมูลพอมองเห็นได้ว่าการขายข้าวจีทูจีถูกจัดฉากขึ้น โดยตั้งหรือหาหัวบริษัทตัวแทนจากจีนเข้ามาเป็นอีกองค์กรหนึ่ง เพื่อให้ครบองค์ประกอบ แต่มีการซื้อขายหรือโยนกันไปมา สยามอินดิก้า ตัวแทนจีเอสเอสจี ซึ่งเป็นคนของบริษัทสยามอินดิก้า เป็นลักษณะเครือข่ายข้าวจีทูจีรัฐ ไม่มีการระบายข้าวออกไปจริง หรือขายออกไปแต่น้อย แต่เพื่อเลี่ยงวิธีการประมูลปกติ

ตัวเสี่ยเปี๋ยงหรืออภิชาติเอง มีความใกล้ชิดกับคนในรัฐบาล โดยอภิชาติเคยถูกชี้มูลความผิดคดีบ้านเอื้ออาทรร่วมกับบุคคลใกล้ชิดในรัฐบาลมาแล้ว

ขณะที่ผู้แทนจากกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะคู่สัญญารัฐต่อรัฐที่จะต้องถูกไต่สวนเพิ่มนั้น ในการทำสัญญาต้องตรวจสอบให้รอบคอบและการเบิกจ่ายข้าวออกจากคลังแต่ละครั้ง ต้องแน่ใจว่าเป็นไปตามสัญญา และต้องดูว่ากระบวนการทำสัญญาถูกต้องหรือไม่ การที่จะอ้างว่าขายข้าวหน้าโกดังแล้วจบ โดยไม่ได้พิจารณาว่ากระบวนการทำให้รัฐเสียประโยชน์หรือไม่ เจ้าหน้าที่จึงอาจปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ย้อนรอย สัญญาข้าวจีทูจี ลวง

view