สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

นายกฯอยากปฏิรูปการศึกษาแจกแทบเล็ตป.2

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"ยิ่งลักษณ์" อยากปฏิรูปการศึกษาและแจกแท็บเล็ต ป.2 ปิ๊งไอเดียดึงอาชีวะช่วยสอนแทนครูที่อาวุโส ระบุลดปัญหายกพวกตีกัน

เมื่อเวลา 11.40น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมติดตามนโยบาย "แท็ปเล็ตป.1" รวมทั้งรับฟังปัญหาทางการศึกษา ที่โรงเรียนเหล่าหญ้า ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิชย์ รมช.ศึกษาธิการ นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) ฯ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำนักงานการศึกษาพื้นที่ และผู้บริหารโรงเรียนบ้านเหล้าหญ้าร่วมประชุมด้วย

โดยนายอภิชาติ ในฐานะเลขาธิการกพฐ. รายงานความคืบหน้าถึงการแจกแท็บเล็ตว่า คาดว่าจะแจกล็อตใหม่ให้กับเด็กป.1 ตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ค. 2557 เป็นต้นไปหรืออย่างช้าก็มิ.ย. 2557 และแท็บเล็ตล็อตใหม่คุณภาพจะดีขึ้นด้วย ทั้งนี้จากการสำรวจความคิดเห็นของคุณครูผู้สอนพบว่า 92.5% มีความพึงพอใจกับการสอนด้วยแท็บเล็ต เพราะทำให้เด็กมีพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด

เลขาฯกพฐ. รายงานด้วยว่า ปัญหาอื่นๆของแท็บเล็ตก็ยังมี อาทิ ความไม่เข้าใจในการใช้ของครูผู้สอนที่มีความอาวุโส หรืออายุมากกว่า 55ปี ทำให้มีปัญหาเรื่องการถ่ายทอด จึงต้องให้ครูรุ่นใหม่เข้ามาช่วยสอน ซึ่งเป็นครูที่จบมาทางด้านเทคโนโลยีการศึกษา แต่ก็ไม่สามารถบรรจุเป็นครูได้เพราะกฎหมายของคุรุสภาไม่รองรับเข้าเป้นครูวิชาชีพ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงศึกษากำลังช่วยแก้ปัญหาให้อยู่ ส่วนเรื่องแท็บเล็ตเสียแล้วต้องส่งซ่อมที่ศูนย์บริการนั้นก็ยังมีปัญหาในเรื่องของการที่มีการย้ายที่ตั้งของศูนย์โดยไม่แจ้งให้โรงเรียนทราบ และพบว่าอะไหล่เริ่มจะไม่เพียงพอ เพราะมีปัญหาที่แบตเตอรี่ ที่หากเปลี่ยนก็ราคาสูงพอพอกับการเปลี่ยนเครื่องใหม่

ขณะที่ นายกฯ กล่าวมอบนโยบายว่า นโยบายนี้ที่คิดออกมาเพื่อให้แค่เด็กป.1 ใช้เท่านั้น หากเห็นว่ามีความจำเป็นต้องให้เด็กป.2ได้ด้วยอันนี้ก็ต้องมาคุยกันใหม่ ว่าจะให้เด็กป.2ด้วยหรือไม่ เพาะถ้าจะเพิ่มก็ต้องเพิ่มงบประมาณในอนาคตด้วย เพราะราคาขนาดนี้ใช้ปีเดียวถือว่าคุ้มค่าแล้วสำหรับเด็กป.1 ไม่ต้องหรูหรา ไม่ต้องซ่อมให้เตรียมเครื่องใหม่ได้เลย

นายกฯ กล่าวอีกว่า เสนอให้มีการเปิดกว้างให้บริษัทที่ทำคอนเท้นส์ทางด้านไอทีเข้ามาพัฒนาแอพพลิเคชั่นทางการศึกษาแบบฟรีๆ และโชว์โลโก้ของเขาได้ด้วย ส่วนเรื่องการซ่อมนั้นหากต้องซ่อมก็น่าจะบูรณาการกับทางสถาบันอาชีวะศึกษามาช่วยซ่อม ช่วยสอน ให้ทำเป็นโครงการประมาณว่า "พี่สอนน้อง" เพื่อให้เขาเกิดความสามัคคี และช่วยแก้ปัญหาเรื่องช่วงวัยของนักเรียนกับครู และช่วยลดปัญหาการยกพวกตีกัน เพราะพ่อแม่เห็นพี่มาช่วยสอนน้องก็ชื่นใจดีกว่าให้เขาไปทำอย่างอืนที่ไม่สมควร

ด้านเลขาฯกพฐ. กล่าวขอบคุณนายกฯว่า นอกจากจะได้ช่องทางแล้วยังได้งบประมาณเพิ่มอีกด้วย พร้อมกันนี้ยังรายงานถึงปัญหาครูขาดแคลนไม่เพียงพอกับจำนวนของเด็กนักเรียนบางจังหวัด อาทิ อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ สิงห์บุรี

ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า ต้องปฏิรูปการศึกษาที่ต้องบูรณาการระหว่างสกอ. และกพฐ.ร่วมกัน แล้วจัดระบบกำลังคนใหม่ เพราะในอนาคตการเติบโตของประเทศจะอยู่ที่ต่างจังหวัดมากกว่าเมืองหลวง ดังนั้นอะไรที่ไม่ได้มาตรฐานก็ขอให้ตัดใจ แต่การตัดใจในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการยุบโรงเรียน แต่ต้องตัดใจปรับบทบาทอย่างจริงจัง แต่ทั้งนี้ด้วยข้อจำกัดของรัฐบาลในขณะนี้ทำไม่ได้ แต่วันนี้จึงต้องมารับฟังกัน

จากนั้นนายกฯได้ทักทายและเยี่ยมชมการเรียนการสอนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่2 พร้อมถามถึงคำขวัญวันเด็ก ซึ่งนักเรียนได้ท่องคำขวัญที่นายกรัฐมนตรีมอบให้ประจำปีพร้อมระบุว่า เป็นเด็กดีต้องกตัญญู และมีหน้าที่ต้องเรียนหนังสือ เป็นเด็กดี ขอให้เชื่อฟังคำสอนของคุณครูและให้กำลังใจกับเด็กนักเรียนทุกคน สร้างความตื่นเต้นให้กับเด็กนักเรียน ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับเด็กนักเรียน


"แท็บเลต" นักเรียนส่งมอบไม่ทัน-ส่อทิ้งประมูล

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เด็ก ป.1-ม.1 น้ำตาตก จัดซื้อ "แท็บเลต" ลอต 2 ส่อวืดส่งมอบไม่ทัน ใกล้เดดไลน์ทั้ง 3 โซน แต่ไม่มีใครส่งของครบ บริษัทจีนที่ชนะประมูล "โซน 1-โซน 2" อ้าง รง.ผลิตชิ้นส่วนไฟไหม้-ขอเว้นVAT แบะท่าทิ้งงาน "บลิส-เทล" พันธมิตรจัสมิน ยันทยอยส่งของแล้ว

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริหาร นโยบาย 1 คอมพิวเตอร์พกพาหรือแท็บเลตต่อ 1 นักเรียน (OTPC) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดการประมูลแท็บเลตเพื่อการศึกษาประจำปีการศึกษา 2556 ลอต 2 แบ่งเป็น 4 โซน คือโซน 1 (ภาคกลางและภาคใต้) จำนวน 431,105 เครื่อง โซน 2 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จำนวน 373,637 เครื่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โซน 3 (ภาคกลางและภาคใต้) จำนวน 426,683 เครื่อง และโซน 4 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จำนวน 402,889 เครื่อง สำหรับครูและนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ใช้งบประมาณ 4,611 ล้านบาท ปรากฏว่าได้ผู้ชนะ 3 บริษัท คือบริษัท เซินเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด ในโซน 1 และ 2 (เสนอราคาประมาณ 2,000 บาท จากราคากลาง 2,720 บาท และ บมจ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ ชนะโซน 4 เสนอราคา 2,169 จากราคากลาง 2,920 บาท และบริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด

ผู้ชนะโซน 3 เสนอราคา 2,908 จากราคากลาง 2,920 บาท แต่เนื่องจากมีข้อท้วงติงว่าผู้ชนะเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางน้อยเกินไป จึงจะมีการยกเลิกการประมูลโซนนี้ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์กับคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) กรมบัญชีกลางจึงยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร

ขณะที่โซน ที่ 1, 2 และ 4 อยู่ระหว่างการส่งมอบสินค้า ซึ่งตามสัญญาต้องส่งทั้งหมดภายในวันที่ 25 ธ.ค. 2556 สำหรับโซน 1 และ 2 และวันที่ 23 ธ.ค. 2556 สำหรับโซน 4 แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ ทั้งสองบริษัทยังไม่มีการจัดส่งสินค้าแต่อย่างใด โดยการจัดส่งในข้อตกลงกำหนดเป็น 4 รอบ คือหลังเซ็นสัญญาภายใน 30 วัน, 45 วัน, 60 วัน และ 90 วัน

"เหลือเวลาอีกไม่ถึงสัปดาห์ จึงไม่มีทางที่ผู้ชนะประมูลจะจัดส่งสินค้ากว่า 4 แสนเครื่องได้ทัน และมีโอกาสสูงที่ผู้ชนะประมูลบางรายจะทิ้งงาน โดยยอมจ่ายค่าปรับวันละ 2 แสนบาท และให้ยึดแบงก์การันตี 60 ล้านบาท (300 วัน) นับตั้งแต่วันที่เลยกำหนด"

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้มีการสอบถามความคืบหน้าไปยังบริษัทที่ชนะการประมูล ซึ่งทั้งคู่ชี้แจงตรงกันว่า โรงงานที่ผลิตหน่วยความจำภายในเครื่อง หรือ DRAM เกิดไฟไหม้ ทำให้ไม่สามารถนำชิ้นส่วนดังกล่าวมาประกอบในเครื่องได้ และที่ไม่ใช้ชิ้นส่วนจากโรงงานอื่น เพราะต้นทุนสูงกว่ามาก

"อิงถัง ยังถามด้วยว่า จะงดเว้นการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และให้มีการตรวจรับสินค้าที่จีนได้หรือไม่ ซึ่งเราก็ตอบกลับไปว่าไม่ได้ เพราะไม่มีเหตุผลเพียงพอ เราสอบถามตลอดว่าทำไมไม่ส่ง ถ้าถึงวันสุดท้ายในสัญญายังไม่ครบ ก็คงต้องปรับวันละ 2 แสนบาท ซึ่งในภาพรวมคงต้องพิจารณาการเปลี่ยนรูปแบบการจัดซื้อใหม่ จากที่ซื้อเป็นลอตใหญ่แล้วมีปัญหา ก็อาจใช้วิธีกระจายซื้อแทน เช่น ให้แต่ละโรงเรียนเสนอจำนวนมายังกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเบิกงบฯซื้อตามสเป็กที่กำหนด จะได้ไม่เกิดปัญหาเดิม"

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า งบประมาณของกระทรวงศึกษาฯประจำปี 2557 ได้มีการอนุมัติเพื่อให้จัดซื้อแท็บเลตลอตใหม่

วง เงินกว่า 5,000 ล้านบาทแล้ว แต่วิธีประมูล, สเป็กเครื่อง รวมถึงกรอบเวลายังไม่มีการพิจารณา และการประกาศยุบสภาของรัฐบาลอาจมีผลกระทบต่อโครงการด้วย เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่า หากเป็นนโยบายรัฐบาลจะไม่สามารถดำเนินการต่อได้ในช่วงเป็นรัฐบาลรักษาการ

ด้าน แหล่งข่าวจาก บมจ.บลิส-เทล ซึ่งรับผิดชอบเรื่องการผลิตแท็บเลตให้ บมจ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ ผู้ชนะการประมูลโซน 4 กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันได้มีการส่งมอบเครื่องไปให้จัสมินฯแล้วกว่า 80,000 เครื่อง และยังมีที่ผลิตเสร็จแล้วอีกกว่าแสนเครื่องรอการจัดส่ง ยังเหลืออีกประมาณ 3 แสนเครื่องที่อยู่ระหว่างการผลิต ซึ่งได้สั่งให้โรงงานในประเทศจีนชะลอการผลิตออกไปก่อน เพราะ สพฐ.เลื่อนเวลาส่งมอบไปเป็นปลายเดือน ก.พ. 2557 เนื่องจากมีปัญหาในการประมูลโซน 3 และต้องการให้นักเรียนชั้น ม.1 ทั่วประเทศได้ใช้แท็บเลตพร้อมกัน

นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมศูนย์ซ่อมไว้รองรับการให้บริการหลังการขายในโครงการนี้แล้ว ส่วนการประกันเครื่องมีกำหนด 1 ปีตามข้อกำหนดทางเทคนิค

"โครงการนี้ ก็มีกำไร แต่ต่างฝ่ายต่างไม่คุ้มเท่าไหร่ นักเรียนได้แท็บเลตที่มีคุณภาพแค่เครื่อง 2 พันบาท แถมต้องเอาไปเวียนใช้ต่ออีก ส่วนผู้ผลิตก็เสียเวลา และหากรับงานอื่น ก็น่าจะได้กำไรมากกว่านี้"


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : นายกฯ ปฏิรูปการศึกษา แจกแทบเล็ต ป.2

view