สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

มีบ้างไหม..ความจริงใจ

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ปกรณ์ พึ่งเนตร



เมื่อวาน ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะอดีตกรรมการ คอป. เขียนบทความโพสต์ในเฟซบุ๊ค ชื่อว่า

"การปฏิรูปประเทศต้องเริ่มทันที"มีข้อความหลายตอนที่น่าสนใจ และดูเหมือนเป็น"สาระ"ที่หลายฝ่ายหลงลืมกันไป โดยเฉพาะฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้ง

ผมขอยกบางช่วงบางตอนมาให้อ่าน สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน ดังนี้"หากทุกฝ่ายจริงใจกับการปฏิรูปดังที่กล่าวอ้างอยู่ และจริงใจต่อประเทศ ก็ต้องรีบดำเนินการทุกอย่างเพื่ออำนวยความสะดวกให้กระบวนการปฏิรูปได้เริ่มต้นได้จริง"

กับอีกท่อนที่ว่า"ในกระแสความขัดแย้งเป็นธรรมดาอยู่เองว่าข้อคิดเห็นต่างๆ แม้จะดีสักเพียงใด ย่อมไม่สามารถได้รับการยอมรับจากคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง หากเสนอโดยคู่ขัดแย้ง ดังนั้นหากทุกฝ่ายจริงใจต่อการปฏิรูป ผมขอเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งยอมที่จะมาคุยกันในเวทีกลาง"

พร้อมกันนั้นก็ได้อธิบายคำว่า"เวทีกลาง"ว่าไม่ได้หมายถึง"คนกลาง"ในฐานะ"ปัจเจก"ซึ่งหาได้ยากขึ้นทุกที แต่หมายถึงเวทีที่ประกอบด้วยบุคคลกลุ่มหนึ่ง ซึ่งโดยรวมมีสภาพของความเป็นกลางเพียงพอที่คู่ขัดแย้งไว้วางใจ จากนั้นก็จัดทำ"เส้นทางสู่การปฏิรูป"หรือ Roadmap for Reform ที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม และที่สำคัญคือสามารถทำได้ในกระแสความขัดแย้ง

ดร.กิตติพงษ์ ถือเป็น"กูรู"ด้านการจัดการความขัดแย้งคนหนึ่ง เพราะนอกจากองค์ความรู้ที่สั่งสมมาจากความสนใจส่วนตัวแล้ว ยังศึกษาอย่างจริงจังเรื่อง"ยุติธรรมชุมชน"กับ"ยุติธรรมสมานฉันท์"แล้วนำมาทดลองผลักดันใช้จริงเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งตั้งแต่ในระดับท้องถิ่น และในระดับปัจเจก ตั้งแต่สมัยเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ปัจจุบันก็ยังขับเคลื่อนอยู่

ขณะที่ในช่วงทำงาน คอป. ยังได้ร่วมทำงานกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกอย่างมาร์ตติ อาห์ติซารีอดีตประธานาธิบดีฟินแลนด์ เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพเมื่อปี 2551 และโคฟี อันนันอดีตเลขาธิการยูเอ็นด้วย

ข้อความบางช่วงบางตอนจากบทความของดร.กิตติพงษ์เท่าที่ผมยกมา จะเห็นได้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดของการปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการเมือง และสร้างความปรองดอง ยุติความขัดแย้ง ก็คือ"ความจริงใจ"โดยเฉพาะความจริงใจของผู้มีอำนาจ และของคู่ขัดแย้งเอง (ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายที่มีอำนาจในบ้านเมือง)

วันนี้แทบทุกฝ่ายได้ออกมาแสดงความจริงใจที่จะทำให้ปัญหาบ้านเมืองจบลง ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย 7 องค์กรภาคเอกชน หรือแม้แต่กองทัพ บางฝ่ายถึงกับเปลืองตัวก็ยอม ทว่ายังหาความจริงใจไม่ได้เลยจากพวกที่โดดเข้าไปอยู่ในวังวนความขัดแย้ง ทั้งตัวคู่ขัดแย้งเอง และบรรดากองเชียร์ของแต่ละฝ่าย

โดยเฉพาะกลุ่มนักวิชาการที่มีความรู้ท่วมหัวทั้งหลาย ซึ่งวันนี้กลายเป็นแบ่งข้างสาดวาทกรรมเข้าใส่กัน

ยิ่งไปกว่านั้น คือ"ผู้มีอำนาจ"โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตรบ้านเมืองวิกฤติขนาดนี้ ยังลอยตัวหนีไปหากำลังใจในพื้นที่ที่ห่างไกลจากปัญหามากที่สุด ทั้งๆ ที่การลงสมัครรับเลือกตั้งพร้อมเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการตัดสินใจของตัวคุณยิ่งลักษณ์เอง ไม่ได้มีใครไปบังคับ การเป็นผู้นำประเทศมีหน้าที่แก้ปัญหา ไม่ใช่หนีปัญหา แม้ว่าปัญหานั้นจะมาจากคู่ขัดแย้งทางการเมืองของตนก็ตาม

เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยที่ยังคงท้าทายไม่หยุดหย่อน มวลชนจำนวนล้านออกมายืนกรานไม่เอา"ตระกูลชินวัตร"ก็ยังส่ง คุณยิ่งลักษณ์ กับคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์อดีตนายกฯ เป็นผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 และ 2 เหมือนช่วยหาประเด็นให้ม็อบมากขึ้นไปอีก

ขณะที่ กปปส.ก็ไม่ยอมลดราวาศอก ถึงขนาดปิดสถานที่สมัครรับเลือกตั้ง ปิดสถานีตำรวจ ซ้ำยังอาจลามไปปิดหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 2 ก.พ.57 ด้วย เป็นการยกระดับการชุมนุมและข้อเรียกร้องไปเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าจุดจบของคำว่าพออยู่ตรงไหน

ทั้งๆ ที่ข้อเสนอ"สภาประชาชน"ของตนเองก็ไม่ได้เป็นรูปธรรมอะไรไปกว่า"สภาปฏิรูปประเทศไทย"ของรัฐบาล

ดูเหมือนอุปสรรคสำคัญของประเทศนี้จะยังเป็นคนกลุ่มเดิมๆ


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : มีบ้างไหม ความจริงใจ

view