จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวการเมือง

“เราจะปฏิวัติประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ” คำประกาศกร้าวของสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ดูจะเป็นมาตรการต่อไปของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ที่จะใช้ผลักดันต่อสู้กับทางรัฐบาล

แต่คำว่าปฏิวัติประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ ดังที่กำนันคนดังในฐานะเลขาธิการ กปปส.ว่าเอาไว้ รูปแบบวิธีการจะออกมาอย่างไร ยังเป็นเรื่องที่ยังต้องการคำตอบ

กิตติศักดิ์ ปรกติ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการปฏิวัติประชาชนเต็มรูปแบบที่ กปปส.จะใช้ดำเนินการว่า ต้องดูว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ จะมีวิธีการอย่างไร กับคำว่าปฏิวัติประชาชนเต็มรูปแบบ เพราะยังไม่อาจเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงในใจของสุเทพได้ แต่โดยรวมหากจะใช้การปฏิวัติโดยประชาชนเหมือนที่ต่างประเทศได้กระทำมา กำลังพลหรือพลังประชาชนของสุเทพ ก็เข้าข่ายที่จะกระทำได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องสามารถหยุดทุกการสั่งงานของรัฐบาลให้ได้ ด้วยพลังอย่างสมัครใจของประชาชน แต่ที่น่าสนใจคือ คำว่าปฏิวัติของสุเทพ มันไปไกลขนาดไหน ยังอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญอยู่หรือไม่

กิตติศักดิ์ ขยายความต่อว่า การปฏิวัติประชาชนก็คือการลุกฮือขึ้นของประชาชน เพื่อทวงคืนอำนาจจากรัฐบาล ที่ผ่านมามีหลายประเทศที่ทำได้สำเร็จ ยกตัวอย่างเห็นได้ชัดคือ แอฟริกาใต้ ไอร์แลนด์ หรือแม้แต่ใกล้ๆ บ้านเราอย่างกรณีของ “เอสตราดา” ประเทศฟิลิปปินส์ ที่ถูกประชาชนลุกฮือขึ้นยึดอำนาจ ด้วยการเข้ายึดสถานที่ราชการที่ใช้บริหารประเทศทั้งหมด แต่ในกรณีของที่ฟิลิปปินส์ อย่าลืมว่าทหารออกมาอยู่เคียงข้างประชาชน ทำให้สำเร็จและขับไล่รัฐบาลออกไปได้

“การปฏิวัติประชาชนที่สมบูรณ์แบบ ก็ต้องเกิดจากความสมัครใจของมวลชนเอง และภาพจะปรากฏว่าระหว่างรัฐบาลที่กุมอำนาจ กับประชาชน เกิดความขัดแย้งกัน เมื่อประชาชนไม่เอาด้วยกับรัฐบาลแล้ว สิ่งต่างๆ ก็จะปรากฏออกมาในการทวงคืนอำนาจกลับสู่ประชาชนอีกครั้ง”

กิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า คำว่าปฏิวัติประชาชนอย่างเต็มรูปแบบของสุเทพนั้น ยังคงเป็นปริศนาอยู่แน่ อีกทั้ง การปฏิวัติด้วยประชาชนก็ยังมีอีกรูปแบบคือการจับอาวุธขึ้นสู้ หรือออกนอกกรอบของรัฐธรรมนูญไปเลย ไม่ใช่อหิงสา สันติวิธี ไร้อาวุธ แต่สิ่งที่สุเทพพูดก็ยังไม่ชัดเจนว่าคืออะไร รูปแบบไหน อย่างเช่น ที่ประเทศฝรั่งเศส จีน หรือรัสเซีย ก็เป็นการปฏิวัติประชาชน แต่พวกเขาทำด้วยอาวุธ ด้วยความรุนแรง

แต่ถึงกระนั้น กิตติศักดิ์ ก็มองว่า พลังประชาชนที่เข้มแข็งจะทำให้เกิดการปฏิวัติประชาชนอย่างสันติได้แน่นอน หากแต่ต้องมีความสมัครใจกัน และมวลชนมากดดันข้าราชการส่วนต่างๆ ไม่ให้รับคำสั่งจาก|ผู้บังคับบัญชาหรือรัฐบาล เมื่อประเทศเดินหน้าบริหารจากรัฐบาลต่อไปไม่ได้ ก็ถึงคราที่ประชาชนจะได้อำนาจนั้นกลับมา และจัดการบริหารให้เข้ารูปเข้ารอย

“สุเทพเคยพูดคุยกับผม และขอคำปรึกษาในด้านกฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมในช่วงแรก ซึ่งผมก็ได้ให้คำแนะนำไปว่าจะสู้อย่างไร ต่อสู้แบบไหน โดยขอให้ยึดหลักให้อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันนานนับเดือนแล้ว”

อีกด้านจาก ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกเช่นเดียวกันว่า สิ่งที่สุเทพกำลังจะทำอย่างที่ประกาศไว้ว่าปฏิวัติประชาชนอย่างเต็มรูปแบบนั้น จะออกไปในทิศทางไหนกันแน่ เพราะมีสุเทพคนเดียวที่รู้ในวิธีการ แต่ที่ผ่านมาการปฏิวัติโดยประชาชนก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในหลายประเทศ ทั้งที่สำเร็จและไม่สำเร็จ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผลลัพธ์ก็เหมือนกันแทบจะทั้งหมด คือการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปประเทศ เฉกเช่นเดียวกับเป้าความสำเร็จของ กปปส.ที่กำลังเดินการไปสู่จุดที่จะปฏิรูปประเทศให้ได้

ณรงค์ กล่าวอีกว่า อำนาจของประเทศจะอยู่ใน 2 ส่วน คือ รัฐบาล และประชาชน และการแบ่งปันอำนาจระหว่างสองส่วนนี้ก็ต้องสัมพันธ์กัน เพราะอย่าลืมว่าประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ ทรัพย์สมบัติต่างๆ ทั้งทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นของประชาชน แต่เมื่อวันหนึ่งรัฐบาลกุมทรัพย์สินนั้นไว้ในกลุ่มทุน หรือในมือตัวเอง การลุกฮือเพื่อปฏิวัติของประชาชนในการทวงสิทธินั้นกลับมา ก็ย่อมจะดำเนินการได้

“สิ่งที่ กปปส.กำลังทำก็อยู่ในขั้นต้น คือการปฏิวัติเพื่อยึดอำนาจบริหารนั้นมาก่อน และตั้งชุดทำงานขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ แต่สิ่งที่สำคัญในการยึดอำนาจนอกจากประชาชนแล้ว อย่าลืมว่ากลุ่มคนสุดท้ายที่จะเปลี่ยนแปลงได้เบ็ดเสร็จและเด็ดขาด ก็คือกลุ่มคนที่ถืออาวุธ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ หรือตำรวจ ต้องเอาด้วยกับประชาชน เพราะเปรี้ยงเดียว ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมดเช่นกัน ดังนั้น ต้องดำเนินการให้สามารถดึงข้าราชการเข้ามาเป็นพวกให้ได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีอาวุธ”ณรงค์ ทิ้งท้าย

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน