นริศร-แจงศาล ชอบเสียบบัตรหลายใบ ทำประจำ

จาก โพสต์ทูเดย์

ศาลรธน.เริ่มไต่สวนพยานค้านร่างกู้เงิน2ล้านล้าน "รังสิมา" ยืนยันสส.เพื่อไทย เสียบบัตรแทนกัน ขณะลงมติมาตรา6,20 ด้าน "นริศร" ตอบกวน "ชอบเสียบบัตรหลายใบ ทำเป็นประจำ

คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานคำร้องคัดค้านร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนโครงสร้างด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ว่าขัดต่อรัญธรรมนูญหรือไม่

ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญ เริ่มไต่สวนพยานปากแรกคือ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีตสส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ให้การไต่สวนประเด็นคลิปเสียบบัตรแทนกัน เมื่อวันที่20ก.ย.2556 เป็นภาพการเสียบบัตรของ นายนริศร ทองธิราช สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ขณะลงมติมาตรา6 ,20 และยืนยันว่าผู้เป็นประธานการประชุมสภาในขณะนั้นคือ นายวิสุทธิ์ ชัยอรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง

จากนั้นศาลรัฐธรรมนูณ ให้นายนริศร ขึ้นไต่สวนแก้ข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าเป็นบุคคลในคลิปวีดีโอจริง แต่เป็นการเสียบบัตรสำรอง เนื่องจากมีบัตรหลายใบ เพราะมักทำหายอยู่เป็นประจำ ซึ่งไม่สามารถตอบคำถามของตุลาการได้ว่าเป็นการประชุมในวาระมาตราใด จากนั้นศาลถามว่าทำไมถึงมีการเสียบหลายใบ นายนริศร ตอบว่า "ผมชอบเสียบหลายใบ ทำอย่างนี้เป็นประจำ ทำมา10ปี"

จากนั้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ขึ้นให้การในกรณีที่มีส่วนในกระบวนการตราร่างพ.ร.บ.กู้เงิน ว่า การที่พยานระบุมีบัตรหลายใบนั้นไม่เป็นความจริง เพราะข้อเท็จริงคือบัตรจริงที่มีรูปถ่ายประจำตัวจะต้องมีเพียงหนึ่งใบเท่านั้น หากลืมหรือหายจะต้องทำใบใหม่ หรือออกบัตรสำรอง ซึ่งบัตรสำรองมีลักษณะแตกต่างจากบัตรจริงเพราะเป็นสีชมพู แต่ในคลิปเป็นบัตรลักษณะเดียวกันหมด อีกทั้งระบบคอมพิวพ์เตอร์ จะบันทึกว่ามีการกดลงคะแนนได้ครั้งเดียว ไม่สามารถกดปุ่มได้หลายครั้ง จึงชัดเจนว่าภาพในคลิปเป็นการกดบัตรลงคะแนนขอลบุคคลอื่นๆหลายครั้ง

อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญ ได้พักการไต่สวนในช่วงเช้า และให้เริ่มไต่สวนในภาคบ่ายอีกครั้งในประเด็นการตรากฎหมายมีเนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

ทำเป็นประจำ

จาก โพสต์ทูเดย์

ศาลรัฐธรรมนูณ ให้นายนริศร ขึ้นไต่สวนแก้ข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าเป็นบุคคลในคลิปวีดีโอจริง แต่เป็นการเสียบบัตรสำรอง เนื่องจากมีบัตรหลายใบ เพราะมักทำหายอยู่เป็นประจำ ซึ่งไม่สามารถตอบคำถามของตุลาการได้ว่าเป็นการประชุมในวาระมาตราใด จากนั้นศาลถามว่าทำไมถึงมีการเสียบหลายใบ นายนริศร ตอบว่า "ผมชอบเสียบหลายใบ ทำอย่างนี้เป็นประจำ ทำมา10ปี"

ศาล รธน.ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนร่าง พ.ร.บ. 2 ล้านล้าน "รังสิมา" เบิกความ "นริศร" กดบัตรแทนกัน

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 มกราคม ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 9 คน นำโดยนายจรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานในคำร้องที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกพรรค ประชาธิปัตย์ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ว่า ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ขนส่งของประเทศ มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 169 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

โดยมีพยานบุคคลที่เข้าร่วมรับฟัง ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายกรณ์ จาติกวนิช ประธาน ส.ส.กทม.พรรค ปชป. นายวิรัตน์ กัลยาศิริ นายราเมศ รัตนเชวง ทีมกฎหมายพรรค นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา นางสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายนริศร ทองธิราช อดีต ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย (พท.) นายชนรรค์ พุทธมิลินประทีบ รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ น.ส.จุฬารัตน์ สุธีสร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา

นายจรูญระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะไต่สวนพยานที่รู้เห็นเรื่องการเสียบบัตรแทนกันในการลงมติร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท 2 ราย น.ส.รังสิมา และนายนริศร เท่านั้น องค์คณะศาลรัฐธรรมนูญ มอบให้นายเฉลิมพล เอกอุรุ และนายบุญส่ง เป็นผู้ดำเนินการไต่สวนพยาน

นายเฉลิมพลกล่าวว่า สำหรับการไต่สวนนั้น ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาแยกออกเป็น 2 ประเด็น 1.กระบวนตรากฎหมายชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ และ 2.เนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

น.ส.รังสิมาได้ขึ้นเบิกความพร้อมขอให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเปิดคลิปวิดีโอที่นำมาประกอบการพิจารณาว่า จากการที่เป็น ส.ส.มาถึง 4 สมัย ได้ติดตามเหตุการณ์การเสียบบัตรแทนกันมาทุกสมัย เห็นว่าเหตุการณ์นี้เป็นการทำผิดกฎหมาย แต่ก็ยังมีการทำแบบนี้มาตลอด เนื่องจากไม่สามารถมีหลักฐานเอาผิดได้ ซึ่งคลิปวิดีโอนี้เห็นว่าเป็นภาพของนริศร ทองธิราช อดีต ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย จริง โดยเห็นจากด้านข้างแต่ก็รู้ว่าเป็นนายนริศรจริง แต่นายนริศร กลับไม่ยอมรับว่าเป็นการกระทำของตัวเอง ดังนั้น จึงต้องนำคลิปวิดีโอนี้มาอธิบายเพื่อชี้ให้ศาลเห็นว่าเป็นนายนริศรจริง ไม่ผิดตัว

"จากภาพของคลิปวิดีโอเกิดขึ้นในระหว่างการพิจารณามาตรา 6 และมาตรา 20 ในวันที่ 20 กันยายน 2556 ของวาระ 2 ตามจริงตนได้ถ่ายไว้ทุกมาตรา แต่บางมาตราก็เห็นหน้าไม่ชัดกับไม่สามารถเข้าไปถ่ายภาพในขณะที่เสียบบัตรได้ แต่ครั้งนี้พยายามถ่ายให้เห็นให้ชัด จึงขอยืนยันว่าคนในภาพเป็นนายนริศร จริง เพราะรู้จักมาตั้งแต่เป็น ส.ส.สมัยแรก เห็นข้างหลังก็จำหน้าได้ มีความสนิทสนมกัน"

นายนริศร ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา ได้ขึ้นเบิกความโดยกล่าวยอมรับว่าเป็นบุคคลในคลิปวิดีโอจริง เนื่องจากมีบัตรสำรองหลายใบ ชอบทำบัตรหายบ่อย ที่ผ่านมาก็ชอบเสียบบัตรแสดงตนหลายครั้ง ทำเป็นประจำ เป็นพฤติกรรมส่วนตัวที่ทำมาเป็น 10 ปี ในภาพวิดีโอวันนั้นกำลังอยู่ระหว่างการแสดงตนและลงมติ แต่เรื่องอะไรตนจำไม่ได้

องค์คณะได้สอบถามว่า การมีบัตรหลายใบเนื่องจากทำหายบ่อยครั้ง ดังนั้น การแสดงตนก็ต้องเสียบบัตรเพียงหนึ่งใบแต่เหตุใดจึงเสียบหลายครั้ง และถ้ามีบัตรจริงเหตุใดจึงพกบัตรสำรอง และได้มีการสื่อสารกับบุคลที่นั่งรอบข้างบ้างหรือไม่ ส่วนที่พยานอ้างว่าให้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส.ตามมาตรา 130 ของรัฐธรรมนูญ พยานก็เห็นว่าผิดกฎหมายเป็นการทุจริตฉ้อฉลหรือไม่

นายนริศรตอบว่า ชอบทำอยู่แล้ว เป็นอย่างนี้มาตลอด ก็อาจจะมีคนอื่นทำแบบนี้แต่ไม่มีการถ่ายคลิปวิดีโอไว้ และไม่สามารถตอบได้ว่าคนข้างๆ คือใคร เพราะไม่ได้พูดคุยกันและไม่รู้ว่าเป็นใคร 

"ส่วนตัวเคารพนับถือกับ น.ส.รังสิมา คลิปแรกสมัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว.มั่นใจว่าไม่ใช่ผม แต่คลิปอันนี้ชัดเพราะเห็นหน้าเลย เห็นข่าวลงในหนังสือพิมพ์คนก็มาถามว่าเป็นเหยื่อทางการเมืองหรือไม่ ก็รู้สึกเฉยๆ เพราะไม่ได้ทำตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้างมา"

องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้เรียกนายอภิสิทธิ์ ขึ้นมาเบิกความเนื่องจากนายอภิสิทธิ์เป็นผู้มีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์ด้วย โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พฤติกรรมการเสียบบัตรเพื่อแสดงตนและลงมติทำกันอย่างกว้างขวาง สมาชิกพยายามประท้วงหรือหยิบยกแต่ไม่ได้รับการสนใจ การที่พยานบอกว่ามีบัตรหลายใบ ใช้เพื่อลงคะแนน หรือแสดงตนในคราวเดียวกัน แต่ในข้อเท็จจริงมีบัตรเพียงหนึ่งใบเท่านั้น หากลืมหรือทำหายต้องทำบัตรจริงใบใหม่ เมื่อมีใบใหม่บัตรเก่ารหัสก็จะต้องถูกยกเลิก ขณะเดียวกันหากลืมเจ้าหน้าที่ก็จะออกบัตรสำรองสีชมพูไม่มีรูปถ่าย แต่ในคลิปพบว่าเป็นบัตรเหมือนกันไม่ใช่บัตรสำรอง 




ที่มา : มติชนออนไลน์

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน