สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

คลังเสี่ยงกู้เงินจำนำข้าว

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
สุพรรณี พุฒิพิสุทธิ์



ขณะนี้ ชาวนาที่เข้าโครงการรับจำนำของรัฐบาลรักษาการจำนวนกว่า 1 ล้านรายเริ่มมีความหวังที่จะได้รับเงิน

หลังจากเก็บใบประทวนที่มีค่าเป็นเพียงตัวเลขจำนวนมากถึง 1 แสนล้านบาทเป็นระยะเวลานานมากกว่า 4 เดือน ขณะที่ แรงกดกันในการหาเงินของฝ่ายรัฐบาลก็ลดลงไปด้วย เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้รัฐบาลพิจารณาการกู้เงินดังกล่าว แม้จะทำภายใต้เงื่อนไขว่า ต้องไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 181

เมื่อวันอังคารสัปดาห์ที่ผ่านมา ในวันเดียวกันก่อน กกต.มีมติเรื่องดังกล่าว คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแผนก่อหนี้ให้กระทรวงการคลังสามารถกู้เงินจำนวน 1.3 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในโครงการจำนำข้าวได้ และภายในสัปดาห์เดียวกัน คณะกรรมการกฤษฎีกาก็มีความเห็นในทิศทางเดียวกันกับคณะรัฐมนตรี ทำให้หน่วยงานด้านเงินกู้เห็นว่า มีหลักประกันต่อการกู้เงินครั้งนี้

หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลจะมีความยากลำบากในการหาแหล่งเงิน แม้ความเสี่ยงในการปล่อยกู้จะมีค่าเท่ากับศูนย์ เพราะกระทรวงการคลังรับภาระการชำระหนี้และค้ำประกันทั้ง 100% โดยกระแสคัดค้านการนำเงินฝากของประชาชนไปปล่อยกู้ให้แก่โครงการนี้เกิดขึ้น เพราะไม่ต้องการเสี่ยงกับโครงการที่อาจขัดต่อกฎหมาย และเป็นโครงการที่ ป.ป.ช.ตรวจพบการทุจริต

ที่เห็นได้ชัด คือ การจับมือคัดค้านของบรรดาพนักงานและสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ 4 แบงก์รัฐ ประกอบด้วยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออมสิน กรุงไทย และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยเฉพาะ ธ.ก.ส.เองนั้น ได้มีการนัดแต่งดำประชุมวิสามัญสมาชิกทั่วประเทศ เพื่อแสดงพลังคัดค้าน ถึงขั้นขับไล่บอร์ดและผู้บริหารหากมติบอร์ดยืนยันการปล่อยกู้

เมื่อเกิดกระแสคัดค้านการปล่อยกู้ในกลุ่มแบงก์รัฐขนาดใหญ่ต่อโครงการดังกล่าว แน่นอนว่า ความกังวลที่จะปล่อยกู้แก่โครงการนี้สำหรับแบงก์เอกชนก็เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ได้เดินทางมาปิดล้อมสำนักงานใหญ่ ธ.ก.ส.และ ธนาคารออมสินในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา หากเกิดกรณีเช่นเดียวกัน ก็หวั่นจะกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อผู้ฝากเงิน

ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง รายหนึ่งประเมินให้ฟังว่า ผู้บริหารแบงก์ต่างๆ กังวลว่า หากเกิดการตีความในอนาคตว่า การกู้เงินดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 181 อาจเข้าข่ายว่า ผู้กู้ ซึ่งก็คือรัฐบาลรักษาการในปัจจุบัน อาจเป็นผู้กู้ที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นผู้กู้ตัวจริง หากปล่อยกู้ไปแล้ว ก็อาจเป็นความเสี่ยงต่อแบงก์

และไม่ใช่แต่ผู้บริหารแบงก์รัฐหรือแบงก์พาณิชย์ ที่จะกังวลเกี่ยวกับการปล่อยกู้ครั้งนี้ แต่ในแง่ของข้าราชการ ที่จะต้องเป็นผู้เสนอเรื่องการกู้เงินก็กังวลกับกรณีที่อาจเกิดความผิดพลาด เนื่องจาก เงินกู้นี้ ถือว่า ผูกพันไปถึงรัฐบาลชุดต่อไป ซึ่งจะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว นอกจากนี้ แม้โครงการรับจำนำจะเป็นโครงการที่รัฐบาลอนุมัติก่อนยุบสภา แต่เป็นการอนุมัติพร้อมกับกรอบวงเงินที่จะนำมาใช้ว่า จะต้องอยู่ในกรอบ 5 แสนล้านบาท ฉะนั้น การที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งจะอนุมัติวงเงินกู้ใหม่ ถือว่า เป็นการใช้เงินเกินกรอบที่กำหนด

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องดิ้นรนให้การกู้เงินครั้งนี้เกิดขึ้น อย่างน้อยก็ต้องมีคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับการจ่ายเงินให้กับชาวนา ซึ่งเป็นคะแนนเสียงสำคัญก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น แต่การเสนอเรื่องอนุมัตินั้น เป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำ โดยรองปลัดกระทรวงการคลังที่รับผิดชอบสายงานนี้จะต้องเป็นคนลงนาม และ แน่นอนว่า หากความผิดพลาดเกิดขึ้น จะไม่เห็นนักการเมืองในรัฐบาลนี้อยู่ร่วมรับผิดชอบแน่นอน


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : คลังเสี่ยง กู้เงินจำนำข้าว

view