จาก โพสต์ทูเดย์
อคส. แจงคลังเก็บข้าวรัฐอ.ลำนารายณ์ จ.ลพบุรีพัง ล่าสุดอยู่ระหว่างการซ่อม ลั่นถ้าข้าวหายต้องรับผิดชอบ
นายชนุตปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่าโกดังเก็บข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ที่อ.ลำนารายณ์ จ.ลพบุรี พังเสียหายว่า คลังลำนารายณ์ หลัง 1 จ.ลพบุรีเก็บข้าวนาปรังชนิดปลายข้าวขาว เอ วันเลิศ ซึ่งความเสียหายของคลังสินค้าดังกล่าว อคส.รับทราบมาโดยตลอด และขณะนี้ เจ้าของคลังสินค้าอยู่ระหว่างการซ่อมแซม ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ได้รับแจ้งว่า กองข้าวล้ม วันที่ 19 ม.ค.เจ้าหน้าที่อคส. ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคลังเก็บข้าวดังกล่าว ได้เข้าไปดูความเสียหาย และแจ้งให้จังหวัดทราบแล้ว ขณะเดียวกัน เจ้าของคลังสินค้า ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบข้าว ได้ตรวจสอบ พบว่า ปริมาณข้าวครบถ้วน และไม่เกิดความเสียหายใดๆ
หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 20 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดูความเสียหายซ้ำอีกครั้ง โดยระหว่างวันที่ 18-20 ม.ค. เจ้าของโกดังได้พยายามเข้าไปจัดกองกระสอบข้าวใหม่ แต่โครงสร้างของคลังเก็บข้าวเสียหายมาก จึงไม่กล้าเข้าไปจัดกองอีก เพราะเกรงว่าตัวอาคารจะพังเสียหายลงมาอีก จากนั้น วันที่ 21 ม.ค. ได้มีวิศวกรเข้าไปดูโครงสร้างอาคาร เพื่อดำเนินการแก้ไข อย่างไรก็ตาม เจ้าของโกดังได้มีการป้องกันข้าวที่อาจเกิดการสูญหายขึ้น โดยได้ทำรั้วล้อมรอบบริเวณคลังสินค้า และมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. เจ้าของโกดังได้หาช่างเข้าไปซ่อมแซม โดยได้เอาเสาไปค้ำยันโครงสร้างแล้ว และจะปรับปรุงโครงสร้างต่อไป ส่วนกระสอบข้าวของรัฐนั้น ได้มีการขนออกมาวางไว้ในบริเวณใกล้เคียง โดยได้ทำเรื่องขออนุญาตจากอคส. และจังหวัดมาแล้วเมื่อวันที่ 19 ม.ค.อย่างไรก็ตาม หากอคส.ไปตรวจสอบ และพบว่า ข้าวสารเสียหาย หรือสูญหาย เจ้าของคลังต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
“ในการตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนที่จะนำมาฝากเก็บไว้ในคลังสินค้าดังกล่าว พบว่า คุณภาพและปริมาณข้าวตรงตามที่รับจำนำมา ซึ่งเจ้าของคลังสินค้าเป็นผู้จัดหาบริษัทตรวจสอบคุณภาพ (เซอร์เวย์) มาเอง แต่หากหลังจากนี้ พบปริมาณ และคุณภาพไม่ตรงตามที่รับจำนำมา เจ้าของคลังสินค้าต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น”
ด้านนายนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการทำสัญญาขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ว่า ในสัญญาซื้อขายข้าวกับบริษัท เป่ยต้าหวง ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจจากเมืองฮาบิน มณฑลเฮย์หลงเจียง ปริมาณ 1.2 ล้านตันนั้น บริษัท เป่ยต้าหวง ได้แสดงความกังวลในสัญญาดังกล่าว อาจจะมีปัญหาภายหลังได้ หลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังตรวจสอบการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ ที่ไม่ได้ระบายให้กับรัฐบาลกลางของประเทศจีน แต่มีการขายให้กับรัฐวิสาหกิจจากมณฑลอื่นๆ ด้วย
“ ป.ป.ช. ยังเข้าใจว่า การระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ต้องทำระหว่างรัฐบาลกลางเท่านั้น ไม่สามารถทำกับรัฐบาลท้องถิ่นได้ ซึ่งจีนได้มีการปกครองที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว จึงทำให้บริษัท เป่ยต้าหวง แสดงความกังวลในสัญญาว่าจะสามารถซื้อขายกันได้อีกหรือไม่ ซึ่งในอาทิตย์หน้า กระทรวงพาณิชย์จะมีการเจรจากับเป่ยต้าหวงอีกครั้ง และอาจจะยกเลิกสัญญาระหว่างกันก็ได้ ส่วนการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลในเดือนม.ค.นี้ สามารถระบายได้แล้ว 1 ล้านตัน ทั้งการขายให้ผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ มาขอซื้อจากกระทรวงพาณิชย์โดยตรง และการขายในเอเฟต หรือตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย"
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
