ชาวนาผูกคอตายสังเวย “จำนำข้าว” อีกศพ เครียดหนัก-หนี้บาน

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

กำแพงเพชร - ชาวนาผูกคอตายสังเวย “จำนำข้าว” อีกศพ กู้เงินกองทุนมาทำนา จำนำข้าวเป็นเงินแสนกว่าบาท สุดท้ายได้แต่ใบประทวน ไม่มีแม้เงินไปหาหมอ แถมรถติดไฟแนนซ์ หนี้บาน เครียดหนักหาทางออกไม่ได้คิดสั้นฆ่าตัวตายหนีปัญหา คู่ชีวิตรับแม้เงินทำศพยังต้องยืม
       
       วันนี้ (11 ก.พ.) ร.ต.ท.สุกิจ กาวีอ้าย พนักงานสอบสวน สภ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร รับแจ้งจากนางสมจิตต์ กลิ่นซ้อน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านบึงหล่ม ต.คลองน้ำไหล ว่ามีคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 6 บ้านบึงหล่ม ต.คลองน้ำไหล จึงไปตรวจสอบพบศพนางบุญมา สระทองอ้วน อายุ 42 ปี อาชีพชาวนา ลำคอมีร่องรอยถูกรัดโดยรอบ ไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย
       
       สอบสวนนายเฉลิม สระทองอ้วน อายุ 45 ปี สามีนางบุญมาให้การว่า เช้ามืดวันนี้ขณะที่ตื่นนอนและกำลังออกไปทุ่งนา แต่หานางบุญมาไม่เจอ เมื่อเดินไปตามทางข้างบ้านก็พบนางบุญมานุ่งผ้าถุง เสื้อลายดอก ใช้สายเครื่องสูบน้ำเข้านาแขวนคอกับต้นมะขามข้างบ้าน จึงรีบนำตัวลงมาแต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้
       
       นายเฉลิมกล่าวว่า ก่อนหน้านี้นางบุญมาบ่นเรื่องที่เป็นหนี้เงินกองทุนหมู่บ้านที่กู้ยืมกองทุน เงินล้านมา 4 หมื่นกว่าบาทเพื่อนำมาลงทุนทำนา ซึ่งขณะนี้ครบกำหนดส่งคืนแล้ว แต่ผู้ตายยังหาเงินได้ไม่ครบ อีกทั้งเงินจากโครงการรับจำนำข้าว 163,556.53 แสนบาทก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะได้เงิน ประกอบกับเมื่อเร็วๆ นี้ได้ไปตรวจร่างกายพบเป็นโรคความดันโลหิตสูงด้วย ทำให้เกิดความเครียดจนผูกคอตายหนีปัญหา
       
       “ตอนนี้เงินทำศพก็ต้องหยิบยืมมา และใช้เงินเพื่อนบ้านที่ร่วมใส่ซองทำบุญเพื่อจัดพิธี”
       
       ด้านสมจิตรกล่าวว่า ตกใจเมื่อได้รับแจ้งว่านางบุญมาผูกคอตาย เพราะสองวันก่อนผู้ตายได้โทรศัพท์มาปรึกษาว่าไม่มีเงินเลย จะไปหาหมอก็ไม่มี เงินจำนำข้าวก็ไม่ออก รถก็เอาไปเข้าไฟแนนซ์ จะกินไปวันๆ ก็ไม่มี ซ้ำยังเป็นหนี้ร้านค้าอยู่ ไม่คิดว่านางบุญมาจะมาตัดสินใจผูกคอตาย
       
       ภายหลังเจ้าหน้าที่นำศพส่งโรงพยาบาลคลองลานเพื่อชันสูตร แพทย์แจ้งว่าสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากถูกรัดคอ คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะให้ญาติจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

ยิ่งลักษณ์ต้องอ่าน! ย้อนรอยโศกนาฎกรรม 'ชาวนาสังเวยชีวิต' พิษจำนำข้าว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

       ASTVผู้จัดการออนไลน์-กองทัพชาวนาจากทุกสารทิศที่ยาตราทัพ เข้าล้อมเมือง สาเหตุคงหนีไม่พ้นปัญหาการผิดนัดชำระค่าข้าวของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี การผลิต 2556/57 โดยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ให้กับชาวนากว่า 130,000 ล้านบาท ความทุกข๋ยากแสนสาหัสจากพิษจำนำข้าวนี้ส่งผลให้เกิดโศกนาฎกรรมที่ชวนสลดแก่ ชาวนาที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายรายแล้วรายเล่า
       
       ทั้งนี้ ฤดูการผลิตนี้รัฐบาลเริ่มรับจำนำวันที่ 1 ตุลาคม 2556 โดยมีมติคณะรัฐมนตรีตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 แต่ความจริงอันโหดร้ายที่ชาวนาต้องรับกรรมก็คือ รัฐบาลติดหล่มไม่สามารถมีปัญญาหาเงินมาให้ชาวนาได้ โดยวิธีที่รัฐบาลจนตรอกของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำได้เพียงเลี่ยงบาลีหนีปัญหาและผัดวันประกันพรุ่งในการจ่ายเงินชาวนาตลอดมา ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เรียกว่า มาถึงวันนี้ก็ปาไปเข้าไป 5 เดือนเข้าไปแล้ว ส่วนสาเหตุสำคัญเป็นที่รับรู้กันดีว่าเป็นเพราะ การบริหารที่โกงกินมีนอกในต่อโครงการนี้ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นเอง
       
       ขณะเดียวกัน ต้องบอกว่าได้โครงการมหาประชานิยมจำนำข้าวได้พ่นพิษร้ายต่อชาวนาโดยตรงอย่าง หลีกหนีไม่พ้นซึ่งขณะนี้ได้แต่รับกรรมอย่างทุกข์แสนสาหัส อาทิ ไม่มีเงินปะทังชีวิต ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเจอกดดอกเบี้ยเสียจนอยู่ไม่ได้ เกิดความเครียดที่ต้องทนรอเงินจากรัฐบาลที่ไม่รู้ว่าจะได้เมื่อใด จนเกิดเป็นภาระครอบครัวตามมาเป็นลูกโซ่จนนำไปสู่การฆ่าตัวตายเป็นทางออกสวน ทางกลับ คำโกหกของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่พร่ำพรรณนาว่า โครงการรับจำนำข้าวจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนาให้ดีขึ้นอย่างสิ้นเชิง
       
       ASTVผู้จัดการออนไลน์ ได้รวบรวมเรื่องราวโศกนาฎกรรมของชาวนาที่ได้เกิดภาวะเครียดจากพิษร้ายของ โครงการรับจำนำข้าวจนนำไปสู่ทางออกคือการฆ่าตัวตาย มาจนถึงล่าสุดวันนี้่ นับรวมทั้งสิ้นจำนวน 8 รายเข้าไปแล้ว
       
       • 24 มิ.ย.56 นางบุญเหลือ ศรีมุก อายุ 48 ปี ชาวนา หมู่ 4 ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเสียชีวิตจากอาการเครียดและช็อก โดย นางสุกัญญา ปานทันพี่สะใภ้ของผู้ตายได้เล่าว่า ผู้ตายทำนาทั้งหมด 20 ไร่ เป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องเลี้ยงดูลูกชายที่ป่วยเป็นโรคประสาท และนางวุ่น คงแคล้ว แม่วัย 88 ปี โดยผู้ตายนั้นจะมีรายได้จากการทำนาและรับจ้างเพียงเล็กน้อย ส่วนเงินลงทุนทำนามาจากการกู้นอกระบบ เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก็จะนำเงินไปใช้หนี้ ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรงงาน ค่ารถเกี่ยว และยังหนี้อื่นๆ รวมแล้วประมาณ 150,000 บาท ส่วนที่เหลือก็จะเก็บไว้ใช้จนกว่าจะทำนารอบใหม่ เป็นอย่างนี้ตลอดมา
       
       ก่อนเสียชีวิตจากพิษโครงการรับจำนำข้าว นางบุญเหลือ ป่วยเป็นมะเร็งกระดูกจึงต้องนำเงินมารักษาตัว โดยก่อนที่นางบุญเหลือ จะเสียชีวิตก็ได้บ่นกับเพื่อนบ้านและญาติพี่น้อง ว่า ข้าวยังเกี่ยวไม่ได้และราคาข้าวก็ถูกลงคงไม่มีเงินไปใช้หนี้ จึงทำให้นางบุญเหลือเครียดหนัก จนร่างกายทรุด และเกิดอาการช็อกและเสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 24 มิ.ย. 56 นอกจากนี้ข้าวพึ่งจะเก็บเกี่ยวได้เมื่อช่วงเช้าเพียงแค่ประมาณ 10 ไร่ ยังเหลืออีก 10 ไร่ยังเกี่ยวไม่ได้ ต้องรอประมาณเดือน ก.ค.ถึงจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้อีก คาดว่าจะได้เงินมาใช้หนี้ส่วนหนึ่ง ซึ่งก่อนจะเสียชีวิตได้บ่นกับเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องว่าข้าวยังเกี่ยวไม่ ได้ และมารู้ว่ารัฐบาลปรับลดราคารับจำเหลือตันละ 1.2 หมื่นบาททำให้นางบุญเหลือเกิดอาการเครียดเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีภาระหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบถึงกลับไม่ยอมกินข้าวปลาจนร่างกาย ทรุด โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดอาการช็อกหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
       
       • 9 มกราคม 2557 นายเฉลิม จันทร์แดง อายุ 59 ปี ชาวนาหมู่ 2 บ้านหนองถ้ำ ต.ป่ามะคาบ อ.เมืองฯ จ.พิจิตร เกิดอาการช็อก เสียชีวิตในห้างนา กลางทุ่งนา จากความเครียดที่ไม่ได้รับเงินจำนำข้าวกว่า 2 แสนบาท ต้องหันมากู้เงินนอกระบบกว่า 1 แสนบาทเพื่อทำนารอบใหม่ กระทั่งความดันขึ้น
       
       นางลำไย จันทร์แดง ภรรยานายเฉลิม เล่าว่า นายเฉลิมได้ออกจากบ้านมาตั้งแต่เมื่อเย็นของวันที่ 8 ม.ค. เพื่อมานอนค้างดูแลนาข้าว 10 กว่าไร่ และหาปลาตามปกติและจะเข้าบ้านตอนสายอีกวัน แต่วันนี้นายเฉลิมไม่ยอมกลับบ้าน จึงตามมาดูพบว่านอนเสียชีวิตที่ห้างนา
       
       เบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุที่สามีตายในครั้งนี้ เกิดจากอาการเครียด จากการขายข้าวในโครงการรับจำนำข้าว จำนวน กว่า 200,000 บาท นานกว่า 4 เดือนแล้วยังไม่ได้เงิน จนต้องไปกู้หนี้ยืมสินเงินนอกระบบ มาใช้จ่ายในครอบครัว รวมถึงนำมาลงทุนทำนารอบใหม่ อีกกว่า 10 ไร่ เป็นเงินกว่า 100,000 บาทแล้ว
       
       นาที่ทำรอบใหม่ยังเริ่มตั้งท้อง แต่เริ่มขาดน้ำเนื่องจากน้ำในบ่อและคลองเริ่มแห้งขอด ทำให้นายเฉลิม เกิดอาการเครียดและนั่งปรับทุกข์พูดคุยเรื่องนี้ทุกวัน ประกอบกับนายเฉลิม มีโรคความดันอยู่แล้ว จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นสาเหตุ ที่ทำให้นายเฉลิม เครียดจากเรื่องนี้จนทำให้ความดันพุ่งสูงและเสียชีวิตดังกล่าว
       
       • 26 มกราคม 2557 นายทองมา ไกยสวน อายุ 60 ปี ชาวนาหมู่ 3 บ้านโนนสั้น ต.โนนรัง อ.เมืองฯ จ.ร้อยเอ็ด ตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตนเองใต้ต้นประดู่ในสวนละแวกบ้านเสียชีวิต หลังเกิดความเครียดที่กู้เงินจาก ธ.ก.ส. กว่า 4 แสนบาท แต่ไม่ได้รับเงินจำนำข้าวกว่า 1 แสนบาท เพื่อนำมาใช้หนี้ ธ.ก.ส. ที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ 2557
       
       นายถวิล ไกยสวน อายุ 72 ปี ญาติผู้ตายเล่าวว่า นายทองมาเป็นคนขยันทำมาหากินเก็บเงินสร้างบ้านราคากว่า 1 ล้านบาทให้ครอบครัว ต่อมาเมื่อเดือน พ.ค.56 นายทองมาไปขอกู้เงินจำนวน 400,000 บาท จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.สาขา จ.ร้อยเอ็ด เพื่อนำไปสมทบกับเงินที่เก็บสะสมไปซื้อรถตู้มาให้นายสุทัศน์ เถระวัฒน์ อายุ 40 ปี ลูกเขย ขับรับจ้างส่งเด็กนักเรียนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด พร้อมกับนำข้าวหอมมะลิไปจำนำตามโครงการของรัฐบาล
       
       นายถวิลเล่าอีกว่า เมื่อเดือน ม.ค.57 นายทองมาเกิดอาการเครียดเนื่องจากยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าว เป็นช่วงเดียวกับถึงกำหนดเวลาชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเงินกู้ให้ ธ.ก.ส. ระยะหลังนายทองมาไปสอบถามเพื่อนบ้านหลายคนว่าการผูกคอตายจะทำอย่างไรจึงจะ ไม่พลาด แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะฆ่าตัวตาย ขณะที่บรรดาญาติก็พูดให้กำลังใจไม่ต้องคิดมาก ค่อยๆผ่อนชำระไปก็ได้คงไม่มีปัญหาเพราะชาวนาคนอื่นก็ยังไม่ได้เงินจำนำข้าว เหมือนกัน
       
       • 27 มกราคม 2557 นายเมือง พันธุชาติ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 21 บ้านอาวอยพัฒนา ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตายกับต้นขี้เหล็กทางด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้าน หลังเกิดความเครียดที่นำข้าวเปลือก 6 ตันไปจำนำตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล แต่ผ่านไป 2 เดือนยังไม่ได้รับเงิน ต้องหันมากู้เงิน ธ.ก.ส. 1 แสนบาท และกู้เงินนอกระบบกว่า 1 แสนบาท เพื่อใช้ทำนา ใช้จ่ายในครอบครัว และใช้หนี้ค่าปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ซึ่งเจ้าหนี้ทวงถามทุกวัน
       
       นางคำปุ่น พันธุชาติ ภรรยา บอกว่าก่อนสามีจะคิดสั้น มักบ่นให้ได้ยินว่า เสียใจมากที่จำนำข้าวแล้วไม่ได้เงิน อีก ทั้งเพื่อนบ้านก็ขอร้องให้ไปช่วยตามเงินค่าจำนำข้าวที่ ธ.ก.ส.อำเภอขุขันธ์ เพราะรอมานาน 2 เดือนแล้ว เข้าใจว่าสามีคงเครียดหนัก ไหนจะหนี้ที่ต้องจ่าย ธ.ก.ส. 2 แสน และเงินกู้นอกระบบอีก 1 แสน ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง ค่ารถเกี่ยวข้าว แถมชาวบ้านก็มาถามตลอดทั้งวัน
       
       ที่บ้านทำนาได้ข้าวเปลือก 6 ตันกว่าๆ สามีก็ยังพาลูกบ้านไปเข้าโครงการจำนำข้าว ทุกคนต่างก็รอ นี่ผ่านมา 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีใครมาบอกเลยว่าจะได้เงินเมื่อไหร่ เจ้าหนี้มา ทวงถามทุกวัน ในที่สุด สามีตัดสินใจผูกคอตาย ปัญหามันรุมเร้าเหลือเกิน
       
       • 28 มกราคม 2557 นายเหลา สุวรรณทอง อายุ 43 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป อาศัยอยู่ที่หมู่ 8 ต.เมืองฝ้าย อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ตัดสินใจใช้ผ้าขนหนูผูกคอตายกับขื่อบ้าน สาเหตุคาดว่ามาจากปัญหาด้านค่าใช้จ่ายในครอบครัว หลังขอยืมเงิน 1,500 บาทจากเพื่อนบ้านซึ่งเป็นชาวนา เพื่อจะไปซื้อข้าวสารและของใช้ แต่เพื่อนบ้านไม่มีให้ เพราะยังไม่ได้เงินจำนำข้าว
       
       ลูกสาวของผู้ตาย อายุ 14 ปี ให้การว่า พ่อกับแม่ได้แยก ทางกัน ส่วนพี่สาวไปอยู่กรุงเทพฯ จึงอาศัยอยู่กับพ่อเพียง 2 คน ตอนเช้าก่อนเกิดเหตุ พ่อได้ถามว่ามีเงินไปโรงเรียนไหม จึงตอบไปว่าไม่มี พ่อจึงให้เงินมา 30 บาท พอตอนเย็นเลิกเรียนจึงกลับมาที่บ้าน แต่เห็นประตูบ้านปิดอยู่ จึงร้องเรียกพ่อแต่ไม่มีเสียงตอบรับ สุดท้ายตัดสินใจพังประตูเข้ามา แล้วก็พบว่าพ่อผูกคอตายแล้ว
       
       ขณะที่จากการสอบสวนเพื่อนบ้าน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในช่วงบ่าย นายเหลามาขอยืมเงิน 1,500 บาท เพื่อจะไปซื้อข้าวสารและของใช้ แต่เพื่อนบ้านไม่มีให้ เพราะยังไม่ได้เงินจำนำข้าวมา นายเหลาจึงได้ไปขอยืมเงินคนอื่นๆ ในละแวกบ้านอีกหลายคน แต่ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีเงิน เพราะยังไม่ได้เงินจำนำข้าว
       
       • 7 กุมภาพันธ์ 2557 นางปรางค์ ภู่นาท อายุ 81 ปี หมู่7 บ้านคลองสีนวลเหนือ ต.ธัมรงค์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร คาดว่าอาจเกิดจากอาการช็อกจนหัวใจวายเฉียบพลันนางจำนง พูลสวัสดิ์ อายุ 54 ปี ลูกสาวของแม่เฒ่าที่เสียชีวิต ให้การทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวมีด้วยกัน 5 คนโดยพ่อป่วยเป็นอัมพฤกษ์มีฐานะยากจนมาก อาชีพทำนาเป็นกระดูกสันหลังของคนไทยมาหลายสิบปี แต่ปัจจุบันมีหนี้สินพะรุงพะรังจากการเช่าที่นา 40 ไร่อีกทั้งได้นำข้าวเข้าโครงการรับจำนำไว้เพื่อหวังยื้อลมหายใจแต่ก็ไม่เคย ได้เงินเลยนับรวมแล้วก็กว่า 3 แสนบาท ทำให้มารดาที่แก่ชราเป็นห่วงลูกหลานว่าจะลำบากจะอยู่กันอย่างไรซึ่งมารดาเอง ก็มีโรครุมเร้าแต่มีเรื่องไม่ได้เงินจำนำข้าวเพิ่มเติมมาอีกก็เหมือนซ้ำเติม จนมารดาตรอมใจตาย ก็ได้แต่วอนให้ทุกฝ่ายเห็นใจชาวนาก็กำลังประสบปัญหาทุกข์ยากอยู่ขณะนี้ อยากรู้ว่าต้องเห็นคนตายอีกสักกี่ศพกัน
       
       • 10 กุมภาพันธ์ 2557 นางเพ็ญศินี ทองช้อย อายุ 38 ปี ชาวนาหมู่ 3 ต.บ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ตัดสินใจผูกคอตาย จากความเครียดที่ไม่ได้รับเงินจำนำข้าว โดยนายพิชัย อำนาจศักดิ์ กำนัน ต.บ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย กล่าวว่า ตอนนี้ชาวนาเดือดร้อนหนักไม่ได้เงินค่าจำนำข้าวมาแล้วกว่า 5 เดือน ล่าสุดเช้าวันนี้ได้เกิดเหตุสลดขึ้น เพราะมีชาวนาเครียดจัดไม่มีเงินใช้หนี้จนต้องผูกคอตาย ชื่อนางเพ็ญศินี ทองช้อย เป็นชาวนาหมู่ 3 ต.บ้านใหม่สุขเกษม
       
       “ตอนนี้ชาวนาลำบากอย่างถึงที่สุดแล้ว เงินใช้หนี้เก่าก็ไม่มี กินแต่ละวันรวมทั้งทุนทำนารอบใหม่ ก็ต้องไปกู้นอกระบบมาแต่ก็ยังไม่พอใช้ จะให้เงินลูกหลานไปโรงเรียนก็ไม่มี บางคนทนเครียดไม่ไหวจนต้องผูกคอตาย ซึ่งพวกเราเสียใจมาก ส่วนผู้ว่าฯสุโขทัยได้พยายามช่วยเหลือชาวนาทุกทางอย่างเต็มที่แล้ว เราเข้าใจและขอขอบคุณ” นายพิชัย กล่าว
       
       และล่าสุด วันนี้ 11 กุมภาพันธ์ 2557 นางบุญมา สระทองอ้วน อายุ 42 ปี อาชีพชาวนา บ้านเลขที่ 2 หมู่ 6 บ้านบึงหล่ม ต.คลองน้ำไหล จังหวัดกำแพงเพชร ผูกคอตายสังเวยจำนำข้าว สาเหตุกู้เงินกองทุนมาทำนา จำนำข้าวเป็นเงินแสนกว่าบาท สุดท้ายได้แต่ใบประทวน ไม่มีแม้เงินไปหาหมอ แถมรถติดไฟแนนซ์ หนี้บาน เครียดหนักหาทางออกไม่ได้ คิดสั้นฆ่าตัวตายหนีปัญหา คู่ชีวิตรับแม้เงินทำศพยังต้องยืม ( ชาวนาผูกคอตายสังเวย “จำนำข้าว” อีกศพ เครียดหนัก-หนี้บาน )
       
       นายเฉลิม สระทองอ้วน อายุ 45 ปี สามีนางบุญมาให้การว่า เช้ามืดวันนี้ขณะที่ตื่นนอนและกำลังออกไปทุ่งนา แต่หานางบุญมาไม่เจอ เมื่อเดินไปตามทางข้างบ้านก็พบนางบุญมานุ่งผ้าถุง เสื้อลายดอก ใช้สายเครื่องสูบน้ำเข้านาแขวนคอกับต้นมะขามข้างบ้าน จึงรีบนำตัวลงมาแต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้
       
       นายเฉลิม เล่าว่า ก่อนหน้านี้นางบุญมาบ่นเรื่องที่เป็นหนี้เงินกองทุนหมู่บ้าน ที่กู้ยืมกองทุนเงินล้านมา 4 หมื่นกว่าบาท เพื่อนำมาลงทุนทำนา ซึ่งขณะนี้ครบกำหนดส่งคืแล้ว แต่ผู้ตายยังหาเงินได้ไม่ครบ อีกทั้งเงินจากโครงการรับจำนำข้าว 163,556.53 แสนบาท ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะได้เงิน ประกอบกับเมื่อเร็วๆนี้ได้ไปตรวจร่างกายพบเป็นโรคความดันโลหิตสูงด้วย ทำให้เกิดความเครียด จนผูกคอตายหนีปัญหา

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน