สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สรุปสถานการณ์และแนวโน้มการเมือง

สรุปสถานการณ์และแนวโน้มการเมือง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




จากการเข็นร่าง พ.ร.บ. นิรโทษเหมาเข่งผ่านรัฐสภานำมาซึ่งสู่การประท้วงต่อต้านจากมหาชนในจำนวนที่มากกว่าครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์การเมือง

จนเกิดอาการ “จุดติด” และด้วยสาเหตุของการออกมาประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลของ ส.ส. เพื่อไทย ส่งผลให้ผู้คนออกมาประท้วงต่อเนื่องที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด จนการประท้วงร่างกฎหมายต่างๆ ได้ถูกยกระดับเป็นการ “โค่นล้มระบอบทักษิณ” ในที่สุด ด้วยกระแสมวลชนก็ดีและการลาออกจากความเป็น ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ นายกรัฐมนตรีก็ใช้การยุบสภาเป็นเครื่องมือในการหาทางออกให้กับตัวเองและพรรคพวกพอๆ กับที่เป็นทางออกของปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่มาปรากฏตัวบนท้องถนนแทนที่จะอยู่ในรัฐสภา

การยุบสภาของฝ่ายรัฐบาลจึงถือได้ว่าเป็นการถอยเชิงรุก นั่นคือ ทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองถูกโยนให้ไปปรากฏบนบัตรเลือกตั้งที่การลงคะแนนจะเป็นตัวตัดสินและเป็นทางออก แต่แกนนำมวลชนในนามของ กปปส. ก็ปฏิเสธที่จะรับการหาทางออกผ่านการเลือกตั้งโดยต้องการ “โค่นล้มระบอบทักษิณ” และต้องการให้เกิดการ “ปฏิรูปการเมือง” เสียก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง เพราะมองว่า การเลือกตั้งอย่างที่เป็นอยู่ “ไม่ใช่ทางออกที่แท้จริงของปัญหา” กปปส. และเครือข่ายจึงประกาศคัดค้านการเลือกตั้ง และได้ทำการขัดขวางกระบวนการการเลือกตั้ง เช่น ขัดขวางการสมัคร จนกระทั่งนำมาซึ่งความคิดที่จะเลื่อนเลือกตั้งออกไปของ กกต. เพราะเล็งเห็นว่า ถ้าฝืนให้มีการเลือกตั้งจะเกิดปัญหาความวุ่นวายตามมาไม่จบสิ้น ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลรักษาการเห็นว่า การเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก็ไม่ทำให้เห็นทางออกของปัญหาเท่ากับจะไปเข้าทางฝ่าย กปปส. เสียมากกว่า

หลังจากเล่นเอาล่อเอาเถิดระหว่าง กกต. กับฝ่ายรัฐบาลเกี่ยวกับประเด็นใครคือผู้มีอำนาจในการเสนอการเลื่อนการเลือกตั้ง เรื่องก็ไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญโดยคำตอบที่ได้คือ นายกรัฐมนตรีโดยการหารือกับ กกต. และหลังจากหารือแล้ว นายกรัฐมนตรีตัดสินใจไม่เลื่อนเลือกตั้ง เดินหน้าให้มีการเลือกตั้งต่อไป อันประกอบไปด้วยการเลือกล่วงหน้าและเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งผลก็คือ ยังไม่เสร็จสิ้น ยังมีหลายเขตที่ยังค้างอยู่ จนถึงปัจจุบันที่กำลังหารือเกี่ยวกับการกำหนดวันเลือกตั้งให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ และมีการถกเถียงเกี่ยวกับว่า ตกลงแล้ว กกต. สามารถกำหนดวันและจัดการเลือกตั้งที่เหลือได้เลยหรือนายกรัฐมนตรีจะต้องทูลเกล้าฯพระราชกฤษฎีกาอีก

ในขณะที่การเลือกตั้งยังไม่เสร็จ กกต. ก็ได้ประกาศผลจำนวนบัตรเสียและจำนวนผู้ที่ไปเลือกตั้งและกาช่องไม่ประสงค์จะเลือกใคร ซึ่งการประกาศผลดังกล่าวนี้ย่อมมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงคะแนนที่เหลืออยู่ เข้าข่ายทำให้การเลือกตั้งขาดความเป็นธรรม เพราะการประกาศผลดังกล่าวเท่ากับเป็นการชี้นำ เพราะคนที่ไปลงคะแนนไม่ว่าจะเป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้าหรือวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตัดสินใจลงคะแนนโดยมิได้มีข้อมูลหรือล่วงรู้ว่า จะมีใครกาช่องไม่ประสงค์จะเลือกใครหรือทำบัตรเสียในจำนวนเท่าใด ซึ่งหาก กกต. กำหนดวันเลือกตั้งครั้งต่อไปเมื่อไร การประกาศผลดังกล่าวของ กกต. ก็อาจจะถูกตั้งข้อกล่าวหาได้ทันทีว่าทำให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้นไม่บริสุทธิ์และเป็นธรรม

ล่าสุด ทาง ป.ป.ช. มีมติเรียกนายกรัฐมนตรีรักษาการคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตรรับทราบข้อกล่าวหากระทำผิด ม. 157 จงใจปล่อยให้มีการโกงการจำนำข้าวในสัปดาห์หน้า และที่สุดของกระบวนการ หากไม่สามารถแก้ต่างได้ และ ป.ป.ช. ชี้มูล คุณยิ่งลักษณ์จะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ คณะรัฐมนตรีรักษาการจะต้องหาผู้ที่มาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีรักษาการแทนคุณยิ่งลักษณ์ และถ้าหากคุณยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยและรวมทั้งคุณทักษิณยอมรับสภาพดังกล่าวนี้ได้ นั่นคือ ไม่เข็นมวลชนออกมาต่อต้าน ป.ป.ช. และยอมรับการหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยดี และสนับสนุนให้มีการเดินหน้าเลือกตั้งให้ครบถ้วนกระบวนความเพื่อหาทางออกและให้ประเทศเดินหน้า คำถามที่ตามมาก็คือ กปปส. ยอมรับได้หรือไม่ ?

การถูกตัดสินจากองค์กรอิสระเป็นไปตามกลไกของรัฐธรรมนูญในเรื่องการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจทางการเมือง ซึ่งในที่นี้คือ อำนาจฝ่ายบริหาร เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมาย การหยุดปฏิบัติหน้าที่ของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็ถือได้ว่าเป็นการหยุดในสิ่งที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ” ได้ในระดับหนึ่ง เพราะที่ผ่านมา คุณทักษิณไม่ไว้วางใจให้ “คนอื่น” มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลยหลังจากคุณสมัคร สุนทรเวช เรียกได้ว่า การโค่นล้มระบอบทักษิณเกิดขึ้นบ้าง แต่คงไม่ได้ทั้งหมดในขณะนี้

ถ้า กปปส. ยอมลดเงื่อนไขยอมรับได้ และเข้าสู่วิถีการเลือกตั้งให้เสร็จสมบูรณ์ ส่วนการปฏิรูป จะว่าไปแล้ว ก็เกิดขึ้นแล้วผ่านการถกเถียงหาข้อเสนอจากองค์กรต่างๆ และที่สำคัญ การยอมลดเงื่อนไขและหันกลับเข้าสู่การเลือกตั้งโดยยอมมอบตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถือว่าเป็นการปฏิรูปวิธีการและเป้าหมายครั้งใหญ่ของการชุมนุมที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดในการเมืองไทย

แต่ถ้า กปปส. ต้องการต่อต้าน “โค่นล้มระบอบทักษิณ” ชนิดสุดซอย ยืนยันให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งโดยการเดินหน้าต่อต้านนายกรัฐมนตรีรักษาการคนใหม่ที่มาแทนคุณยิ่งลักษณ์เพื่อต้องการให้มีนายกรัฐมนตรีคนกลางจากมาตรา 3 และมาตรา 7 วิกฤติก็จะยืดเยื้อต่อไป พลเรือนและเจ้าหน้าที่ก็จะบาดเจ็บล้มตายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ยังไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบได้นับตั้งแต่การตายที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงจนบัดนี้ ปมปัญหาจะขมวดสลับซับซ้อนทับถมจนยากที่จะหาความจริงได้ เหตุการณ์ปี 2553 ยังตอบโจทย์ไม่ได้เกี่ยวกับชายชุดดำ มาวันนี้ก็มีกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายเข้ามาอีก ถ้าเช่นนั้น สงครามกลางเมืองและความเสียหายทางเศรษฐกิจครั้งมหาศาลก็เป็นสิ่งที่เห็นอยู่รำไร หรือแม้ว่าจะชนะในอนาคตอันใกล้สามารถมีนายกรัฐมนตรีคนกลางได้ แต่ไม่นานเกินรอ คลื่นใต้น้ำลูกใหญ่ก็จะม้วนกลับมาถาโถมใส่การเมืองไทยอีก และจะส่งผลกระทบต่อสถาบันสูงสุดอย่างยิ่งยวด


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : สรุปสถานการณ์ แนวโน้มการเมือง

view