จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ

วันนี้ผ่านไปสองปีกว่าแล้ว เราควรมาตรวจสอบผลงานของรัฐบาลอีกครั้ง โดยสะท้อนจากคนที่ออกมาต่อต้านและเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกว่า พวกเขามีเหตุผลอะไร เป็นเหตุผลที่ฟังได้ไหม นี่คือคำตอบ ซึ่งสรุปได้ว่า รัฐบาลประสบความล้มเหลวมากกว่าความสำเร็จในสัดส่วน 80 ต่อ 20 เขาจาระไนได้อย่างละเอียดจนเห็นภาพชัดเจน เช่น

ล้มเหลวในนโยบายป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐอย่างจริงจัง ตรงกันข้ามเป็นที่รู้กันทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศว่ารัฐบาลชุดนี้ทุจริตคอร์รัปชั่นมากที่สุด จนภาคเอกชนทนไม่ไหวต้องจัดตั้งองค์กรต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นขึ้นเอง

ล้มเหลวในเรื่องการจัดการน้ำอย่างบูรณาการและเร่งรัดขยายพื้นที่ชลประทาน เพียงเข้ามาเป็นรัฐบาลไม่กี่เดือน เมืองไทยก็เกิดน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างล้นเหลือ เพราะการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาด น้ำท่วม ฝนแล้งยังมีเช่นปกติ ที่รัฐบาลเคยโฆษณาว่า ลาก่อน น้ำท่วม ฝนแล้ง เป็นเพียงป้ายหาเสียงเท่านั้น

ล้มเหลวในนโยบายแก้ไขปัญหาความไม่สงบและนำสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว แม้จัดให้มีการพูดคุยสันติภาพ นอกจากความรุนแรงไม่ลดลง แต่กลับมีมากขึ้น และไม่มีท่าทีว่าสถานการณ์ดีขึ้นทั้งที่ทุ่มทรัพยากรของชาติไปมากมาย

ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ที่คุยว่าราคาน้ำมันจะลดลง 7 บาทนั้น ทำได้เพียง 1-2 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นก็แพงอย่างเก่า

ล้มเหลวในนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มกำลังซื้อในประเทศ ที่คุยว่าจะลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ปรากฏว่าเมื่อประชาชนล้วงกระเป๋า แทนที่จะพบเงินเพิ่มขึ้น กลับไม่มีเงินเหลือเลย ประชาชนหมดกำลังซื้อ รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการรับจำนำข้าวถูกราคาสินค้าที่แพงขึ้นแทบทุกอย่างเอาไปจนหมด ซ้ำหนี้สินครัวเรือนยังเพิ่มอีก ทั้งหนี้ในระบบและนอกระบบ ความเดือดร้อนของชาวบ้านและคนรากหญ้าไม่ได้รับการแก้ไขเลย

ล้มเหลวในนโยบายลดอัตราภาษีนิติบุคคลเพื่อกระตุ้นการลงทุน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน คนที่ได้ประโยชน์จากการนี้คือ บริษัทขนาดใหญ่ที่รวยอยู่แล้ว แต่การลงทุนจากแหล่งในและนอกประเทศลดลง

ล้มเหลวในนโยบายการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าและขยายโอกาสให้ประชาชน ทำให้คนรากหญ้าเป็นหนี้มากขึ้น เช่นเดียวกับนโยบายรถคันแรกที่ทำให้คนเป็นหนี้มากขึ้น

ล้มเหลวในนโยบายยกระดับราคาสินค้าการเกษตรที่จะส่งผลต่อความเป็นอยู่ของเกษตรกรที่ดีขึ้น ปรากฏว่าราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำถ้วนหน้า ทั้งราคายาง มันสำปะหลัง อื่นๆ แม้ราคาข้าวได้รับการประกัน แต่ชาวนาไม่ได้รับในราคาประกันตามที่คุยไว้

ล้มเหลวในนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เพราะรายได้น้อยลงจากการที่ไม่สามารถทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยได้ นโยบายเติมความรู้ด้วยการจัดหาเครื่องแท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน ดูเหมือนว่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชั่นกันตั้งแต่แรก

ล้มเหลวในนโยบายเร่งรัดและผลักดันการปฏิรูปการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง เพราะประชาชนถูกกีดกันจากการมีส่วนร่วมทางการเมืองมาโดยตลอด รัฐบาลให้มีการปฏิรูป เพราะถูกกดดันจาก กปปส. ไม่ใช่ทำด้วยความจริงใจ

ล้มเหลวในนโยบายสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย แทนที่คนไทยจะปรองดองกัน กลับแตกแยกกันมากขึ้นจากการกระทำของรัฐบาล ประชาธิปไตยไทยเหลือเพียงแต่ชื่อไว้ให้รัฐบาลใช้เป็นวาทกรรมหลอกลวงประชาชน แต่รัฐบาลได้ทำลายหลักการและเสาหลักประชาธิปไตยในเกือบทุกด้าน รัฐบาลได้ทำลายระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการโดยสิ้นเชิง

ล้มเหลวในนโยบายส่งเสริมประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภายใต้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีการคุกคาม จาบจ้วง บ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรงที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และรัฐบาลไม่แสดงท่าทีที่จะผลักดันให้ดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับการคุกคามที่จะแยกดินแดน การจัดตั้งกองกำลังของตนเพื่อต่อสู้กับทหาร จนประชาชนมองว่า รัฐบาล ตำรวจ ผู้บ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งผู้ทำผิดมักจะเป็นมวลชนของรัฐบาล ทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลและองค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช.มีการปลุกระดมมวลชนของตนให้ออกมาต่อต้าน ข่มขู่คุกคามศาลและองค์กรอิสระเหล่านี้

รัฐบาลคุกคามต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ได้รับการรับรองตามระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรงทางการเมืองอย่างกว้างขวาง มีการคุกคามต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนที่เห็นต่างทางการเมืองเกิดขึ้นแทบจะเป็นรายวัน และดูเหมือนจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตำรวจไม่เคยจับกุมได้เลย จนคนมองว่ารัฐบาลและตำรวจมีส่วนรู้เห็นให้เกิดความรุนแรงที่มุ่งกระทำต่อฝ่ายค้านและฝ่ายต่อต้าน

ส่วนที่ประสบความสำเร็จนั้น เห็นจะมีในเรื่องนโยบายปราบปรามยาเสพติดที่มีการจับกุมยึดยาเสพติดได้มากมาย แต่สถานการณ์แพร่ระบาดของยาเสพติดในไทยดูเหมือนจะรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ส่วนนโยบายสินค้าโอท็อปก็ไม่เด่นดังเท่ากับรัฐบาลทักษิณ

คนที่คัดค้านและเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก ไม่เคยปกปิดตนเอง เขาพร้อมที่จะบอกกับทุกคนว่า ในสายตาของเขา รัฐบาลชุดนี้ทำความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างใหญ่หลวง หากอยู่ต่อไปบ้านเมืองจะยิ่งเสียหายไปใหญ่ แต่การเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างสงบ สันติ ปราศจากความรุนแรง ไม่เคยด่าพ่อล้อแม่นายกฯ หรือรัฐมนตรีคนใด ไม่เคยคิดใช้ความรุนแรง เผาบ้านเผาเมือง เอาระเบิดไปขว้างใส่รัฐบาล ฯลฯ เขาใช้สิทธิเสรีภาพตามหลักการประชาธิปไตยในการปฏิเสธรัฐบาลที่ไม่ทำตามสัญญาประชาคม เมื่อไม่ยอมออกดีๆ ก็ต้องไล่ออก

เห็นภาพนายกฯ เดินทางไปเยี่ยมที่ทิ้งขยะที่ถูกไฟไหม้ บางคนเลยให้สมญารัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่า เป็น “รัฐบาลขยะ” ไปเสียเลย นอกจากไม่มีประโยชน์แล้ว ยังทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนเสียอีก

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน