จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ Education Ideas บริษัทที่ปรึกษา เอพีเอ็ม กรุ๊ป

มี 3 สถานการณ์ที่พบบ่อย จนทำให้ผู้นำรุ่นเยาว์ล้มเหลวในการพัฒนา

สถานการณ์แรก คือผู้ปกครอง ครูอาจารย์ หรือโค้ชที่ไม่ได้เป็นผู้นำนั้นไม่ตระหนักถึงความถนัดในการเป็นผู้นำในตัวเด็ก หรือวินิจฉัยอย่างผิด ๆ ว่าเป็นทัศนคติแบบกบฏ

สถานการณ์ที่ 2 คือผู้ปกครอง ครูอาจารย์ และโค้ชที่เป็นผู้นำนั้นครอบงำผู้นำรุ่นเยาว์ ไม่เต็มใจแบ่งปันอำนาจ และข่มผู้นำรุ่นเยาว์ให้เชื่อฟังตน

ส่วน สถานการณ์ที่ 3 คือผู้ใหญ่ทั้งที่เป็นและไม่เป็นผู้นำตระหนักถึงความสามารถในการเป็นผู้นำในตัวเด็ก แต่ไม่ทราบวิธีพัฒนาความสามารถดังกล่าว พวกเขาหวังว่าสักวันจะมีผู้ตระหนักถึงศักยภาพที่แฝงเร้นในเยาวชนที่มีอิทธิพลต่อผู้อื่น และปลดปล่อยออกมาได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง

เพราะฉะนั้น เราจึงกำหนด 8 แนวทางในการเลี้ยงดูและพัฒนาผู้นำต่อไปนี้ คือ

1.มองบุตรหลานของท่านในฐานะผู้นำรุ่นเยาว์-มองให้เห็นศักยภาพในตัวพวกเขา การพัฒนาความเป็นผู้นำของบุตรหลาน เริ่มจากความคิดว่าท่านมองบุตรหลานของท่านอย่างไร ในฐานะผู้ปกครองท่านจะเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในชีวิตบุตรหลาน อย่างน้อยก็จนพวกเขาเข้ามหาวิทยาลัย หรือบ่อยครั้งอาจนานกว่านั้น

ดังนั้น แม้ท่านต้องการชื่นชมบุตรหลานในทุกขั้นของการพัฒนา ท่านก็ควรนึกภาพเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นด้วย มองบุตรหลานของท่านในฐานะบุคคลที่สักวันจะมีผู้อื่นจ้างงาน แต่งงานด้วย และในฐานะผู้ที่จะมีอิทธิพลต่อผู้อื่น บ่อยครั้งเกินไปที่เรารักลูก แต่กลับจำกัดพวกเขาไว้กับภาพที่เรามองเห็น

เรายังคงเห็นภาพเขาเป็นเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นภาพที่เราเห็นเขาครั้งแรก ดังนั้น จึงต้องมองข้ามจุดแข็งและความถนัดเฉพาะตัวของเขาไป

2.ปฏิบัติต่อบุตรหลานของท่านในฐานะผู้นำรุ่นเยาว์-เหตุที่เราต้องเริ่มมองบุตรหลานในฐานะผู้นำ เพราะเรื่องนี้จะส่งผลโดยตรงกับวิธีที่เราปฏิบัติต่อพวกเขา ซึ่งวิธีที่เราปฏิบัติต่อพวกเขาจะมีอิทธิพลต่อภาพที่เขามองตัวเอง และผลที่ตามมา

3.สร้างโอกาสการนำในบ้าน-ท่านสามารถปรับเปลี่ยนสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้กิจกรรมประจำวันกลายเป็นโอกาสการฝึกฝนความเป็นผู้นำได้ ท่านสามารถมอบโอกาสล่วงหน้าให้บุตรหลานได้ พัฒนาความเป็นผู้นำ โดยเปลี่ยนบทบาทตัวเองจากการเป็นผู้ปกครองไปเป็นโค้ชผู้นำในงาน และกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

4.พูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์การเป็นผู้นำที่ได้พบในโรงเรียน ข่าว ภาพยนตร์ และงาน-เกือบทุกวันท่านจะได้พบเหตุการณ์ในชีวิต เรื่องราว และสื่อต่าง ๆ ที่ให้โอกาสในการพูดคุยเรื่องความเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นการสรุปประเด็นสั้น ๆ หรือการพูดคุยที่ยาวนานกว่านั้น

เป้าหมายคือการทำให้บุตรหลานของท่านตระหนักถึงสถานการณ์ที่ผู้นำมีอิทธิพลต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะในทางดีหรือทางร้าย เพื่อสร้างแนวโน้มในจิตใต้สำนึกให้พวกเขาสามารถอ่านสถานการณ์การเป็นผู้นำออก

5.หาโอกาสการนำในชุมชน-การสร้างโครงการส่งเสริมความเป็นผู้นำขึ้นในบ้านอาจพัฒนาไปสู่สถานการณ์ที่คล้ายกันในชุมชนได้โดยธรรมชาติ จุดนี้คือจุดที่ผู้นำหน้าใหม่จะเกิดความมั่นใจได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อท่านเริ่มเข้าไปมีบทบาทในสังคมละแวกบ้าน และองค์กรที่ท่านคุ้นเคย ท่านจะช่วยให้ผู้ใหญ่คนอื่น ๆ เข้าใจแนวคิดด้วยว่าผู้นำที่เป็นเด็กและเยาวชนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความสำคัญได้ด้วยตัวเอง

6.แนะนำบุตรหลานของท่านให้ผู้นำคนอื่น ๆ รู้จัก-ผู้นำย่อมแยกแยะได้ว่าใครเป็นผู้นำเหมือนตน เด็กที่มีความถนัดในการเป็นผู้นำจะรู้สึกใกล้ชิดโดยธรรมชาติในระดับหนึ่งกับผู้นำคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะอายุเท่าไร เมื่อท่านพบปะกับผู้ที่เป็นผู้นำในองค์กรหรือสายงานต่าง ๆ

ท่านควรพยายามหาทางให้บุตรหลานของท่านได้พบบุคคลเหล่านั้น แม้ผู้ปกครองจำนวนมากจะยังแสดงออกถึงทัศนคติว่าเด็ก ๆ นั้นให้เห็นหน้าได้ แต่ไม่ควรให้พูด โดยเฉพาะเมื่อพบผู้มีอำนาจหรือมีความสำคัญในองค์กร แต่ความกังวลดังกล่าวนี้มาจากความไม่มั่นใจของตัวเองมากกว่า

เพราะผู้นำส่วนใหญ่รับมือกับการพบปะเด็ก ๆ ได้ดี โดยเฉพาะเด็กที่มีความถนัดในการเป็นผู้นำ เพราะผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่เห็นคุณสมบัตินี้ในตัวพวกเขาเช่นกัน ผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่จะรู้สึกเป็นเกียรติ และผู้นำที่ดีจริง ๆ จะใส่ใจกับเด็กที่ตนพบปะ สบตา และจับมือด้วย

ท่านจะทราบได้ว่าท่านพบผู้นำที่ดีเมื่อเขาก้มตัวลงในระดับสายตาเด็ก และเริ่มพูดคุยกับผู้นำรุ่นเยาว์คนดังกล่าว โดยเพิกเฉยกับท่านชั่วขณะ

7.ช่วยบุตรหลานของท่านหาที่ปรึกษา-เราทุกคนในฐานะผู้ปกครองมีข้อจำกัดในสิ่งที่เราให้บุตรหลานของเราได้ ในการทำตัวเป็นแบบอย่าง และสื่อสารประสบการณ์ คำกล่าวต่อไปนี้พูดกันจนเกร่อ แต่เป็นความจริงต้องใช้คนทั้งหมู่บ้านในการเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง สิ่งหนึ่งที่ผู้ปกครองทำได้ในการบ่มเพาะผู้นำรุ่นเยาว์ คือช่วยพวกเขาหาที่ปรึกษา

8.มองหาการฝึกอบรมความเป็นผู้นำ ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ-เมื่อเราพบว่าลูกมีความสามารถพิเศษทางดนตรี เราควรให้ลูกไปเรียนดนตรี เมื่อเราเห็นความสามารถทางวิชาการ เราก็ให้เขาเข้าหลักสูตรเรียนล่วงหน้า และหลักสูตรสำหรับผู้มีพรสวรรค์และความสามารถ

เมื่อเราสังเกตเห็นความสามารถทางกีฬา เราจ้างโค้ชมืออาชีพและมองหาทีมที่มีระดับการแข่งขันสูง แต่ความท้าทายที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ต้องเผชิญ เมื่อพวกเขาเห็นความถนัดในการเป็นผู้นำในตัวบุตรหลาน คือการหาหลักสูตรฝึกอบรมความเป็นผู้นำแบบเข้มข้น หรือสิ่งที่คล้ายกัน

เพราะแทบไม่มีหลักสูตรที่สอนลักษณะนิสัยและความสามารถในการเป็นผู้นำอยู่เลย

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน