สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ข้อควรระวังช่วงพ้นฮันนีมูน

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ปกรณ์ พึ่งเนตร



สามสัปดาห์แรกของการยึดอำนาจ ดูเหมือนอะไรๆ จะเข้าทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปหมด

โดยเฉพาะผู้สนับสนุนกับผู้ที่ไม่ได้คัดค้านมีเป็นจำนวนมาก ส่วนกลุ่มที่ต่อต้าน เท่าที่เปิดตัวออกมามีไม่มากนัก

แต่ก็ต้องเข้าใจว่ายังมีผู้ที่ยังไม่เปิดตัวอีกไม่น้อย...

เป็นธรรมดาที่ช่วงแรกๆ อะไรๆ มักดูดี การปฏิบัติในระยะแรกหลังยึดอำนาจ เป็นการเข้ามาปลดล็อกปัญหาเฉพาะหน้า จากที่"ติดขัด-คั่งค้าง"เพราะการมีรัฐบาลรักษาการที่ไม่มี"อำนาจเต็ม"มาอย่างยาวนานถึง 5-6 เดือน สิ่งที่ต้องตัดสินใจจึงไม่ยาก และมีคนได้ประโยชน์เป็นไปในลักษณะ"ถ้วนหน้า"

เช่น การปลดล็อกจ่ายเงินจำนำข้าว หรือการกำหนดนโยบายพลังงานในระยะสั้น ด้วยการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล และราคาก๊าซภาคขนส่งต่อไป...หลายคนอาจวิจารณ์การตัดสินใจของ คสช. แต่มองอีกมุมหนึ่งก็เป็นภาพสะท้อนหรืออาจถึงขั้นเป็น"สัจธรรม"ของนโยบายลักษณะประชานิยมก็ได้ คือ เมื่อประกาศใช้ไปแล้ว...เลิกยาก!

นอกจากปฏิบัติการปลดล็อก ก็มีนโยบายคล้ายๆ"จัดระเบียบสังคม"เริ่มตั้งแต่การจับอาวุธสงครามอย่างต่อเนื่อง มโหฬาร ตามด้วยยาเสพติด นี่ก็แว่วๆ ว่าจะจัดระเบียบวินแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์ รถตู้ ที่ใช้พื้นผิวจราจรสาธารณะเป็นสถานที่จอดพักรอผู้โดยสาร หลังประสบความสำเร็จจากการจัดระเบียบ"แท็กซี่ป้ายดำ"ที่ภูเก็ตมาแล้ว

นโยบายพวกนี้มีประชาชนหนุนหลัง จึงสำเร็จได้ไม่ยาก เมืองไทยอยู่กันแบบละเลยมานาน แตะไปตรงไหนก็โดนหมด เห็นสกู๊ปข่าวที่ทีมข่าวสามมิติลงพื้นที่ไปตามดูมาตรการจัดระเบียบ"แท็กซี่ป้ายดำ"ที่ภูเก็ตแล้ว ต้องบอกว่าน่าตกใจจริงๆ

ปัญหาส่วย สินบน แทรกซึมเข้าไปทุกระบบ ตั้งแต่หัวยันหาง จนเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยแทบไม่ทำงาน การบังคับใช้กฎหมายอยู่ในขั้นล้มละลาย มาเฟียอิทธิพลถูกสถาปนาคู่กับอำนาจรัฐ และแสดงอำนาจบาตรใหญ่ตั้งแต่ก้นซอยจนถึงรัฐสภา

แทบจะเป็น "รัฐล้มเหลว" หรือfailed stateอยู่รอมร่อ!

ถ้าพิจารณาจากปฏิบัติการของทหารในเรื่องเหล่านี้ในห้วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังยึดอำนาจ ก็ต้องขอบคุณเขา...

แต่ปัญหาคือจะสานต่อและโอนความรับผิดชอบไปยังภาคปฏิบัติของหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบงานจริงตามอำนาจหน้าที่อย่างยั่งยืนสถาพรได้อย่างไร เพราะความจริงก็เป็นที่รู้กันว่า ทหารอยู่แบบนี้ไม่ได้ตลอด ต้องมีวันถอยกลับเข้ากรมกอง และปล่อยให้ระบบการปกครองที่เป็นสากลได้ขับเคลื่อนต่อไป

นี่คือโจทย์ใหญ่ของ คสช. เพราะเมื่อนานไป"ผู้คุ้มกฎ"ก็ต้องอ่อนล้า แว่วๆ ว่าคลื่นวิทยุชุมชนบางแห่งบางสถานีที่เคยถูกปิด เริ่มส่งเสียง มีการเปิดการสื่อสารแบบ"เคลื่อนที่"หรือ"โมบายยูนิต"กันบ้างแล้ว เช่นเดียวกับบ่อนการพนัน ว่ากันว่า 10 วันแรกหลังยึดอำนาจ ทุกอย่างเงียบกริบ แต่พอเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวกลับมา โดยเฉพาะ"โต๊ะพนันบอล"รับกระแสบอลโลก

เรื่องแบบนี้ต้องระวังในระยะยาว เพราะเมื่อพ้น"ฮันนีมูน พีเรียด"หรือช่วงเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ไปแล้ว และ คสช.เริ่มไปแตะนโยบายหรือโครงการที่ยากขึ้น มีผู้ได้ประโยชน์กับเสียประโยชน์ก้ำกึ่งกัน ถึงวันนั้นเรื่องเล็กอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่บ่อนทำลาย คสช.ได้ไม่ยาก

เหมือนปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่หนึ่งในไม่กี่ปัญหาที่ คสช.ยังไม่พูดถึงเลย (บางคนบอกว่าเพราะมอบงานให้แม่ทัพภาค 4 ที่ ผบ.ทบ.ไว้วางใจไปแล้ว) เผอิญได้ไปอ่านรายงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่นำเสนอคณะรัฐมนตรีก่อนยึดอำนาจได้ไม่นาน

เนื้อหาในรายงานตอนท้ายๆ พูดถึงรากเหง้าของปัญหาชายแดนใต้ ซึ่งมีการสรุปมุมมองของกองทัพ และ กอ.รมน. ปรากฏว่าเป็นมุมมองที่คมชัดและเข้าใจปัญหาดีมาก แต่ก็น่าแปลกใจที่เหตุใดเราจึงยังเอาชนะไม่ได้ในสงครามที่ปลายด้ามขวาน

นี่คือสภาพการณ์ของการแปรนโยบายและความตั้งใจดีไปสู่ภาคปฏิบัติอย่างยั่งยืน ซึ่งยังคงเป็นปัญหา และหวังว่า คสช.จะรอบคอบเพื่อปิดจุดอ่อนเหล่านี้!


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ข้อควรระวัง ช่วงพ้นฮันนีมูน

view