Back Office" สุดยอดกองหนุนสำหรับสุดยอดองค์กร

โดย : วรวัจน์ สุวคนธ์

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ในช่วงเดือนนี้ ทุกสายตาทั่วโลกต่างจับจ้องไปที่ประเทศบราซิลในฐานะเจ้าภาพมหกรรมฟุตบอลโลก สีสันของการแข่งขันที่เกิดจากยอดทีมของทุกทวีป

มุ่งหน้ามาชิงชัยความเป็นที่หนึ่ง กองเชียร์ของแต่ละชาติแม้แต่ชาติที่ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันก็มีสีสันไม่แพ้กัน หากจะมีใครสักคนถามผมว่าปัจจัยไหนที่จะทำให้ทีมๆ หนึ่งได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก จะเป็นนักฟุตบอลระดับ “ดารา” ทีมไหนยิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งดี? หรือจะเป็นทีมที่ไม่มีใครเก่งโดดเด่นแต่มีวินัยและทีมเวิร์คที่ดี? หรือจะเป็นทีมเจ้าภาพที่ได้เปรียบเรื่องความคุ้นเคยสภาพแวดล้อมและกองเชียร์? ผมขอตอบตามตรงว่าผมไม่ทราบ แต่สิ่งหนึ่งซึ่งผมให้ความสนใจไม่แพ้นักฟุตบอลและกองเชียร์ก็คือ “ทีมงานเบื้องหลัง” ของนักกีฬาแต่ละชาติว่ามีทีเด็ดแค่ไหนในการผลักดันนักฟุตบอลไปสู่ชัยชนะ

ไม่กี่วันที่ผ่านมาผมอ่านข่าวเกี่ยวกับทีมชาติของอังกฤษที่ยกพลไปยังประเทศบราซิลชนิดที่เรียกได้ว่า “ชุดใหญ่” จริงๆ เพราะนอกจากจะมีนักฟุตบอลทั้งตัวจริงตัวสำรองและสตาฟโค้ชแล้ว อังกฤษยังระดมบุคลากรเบื้องหลังไปอย่างเต็มที่ ทั้งทีมแพทย์ นักวิทยาศาสตร์การกีฬา นักโภชนาการ นักกายภาพบำบัด พ่อครัว ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการผสมน้ำเกลือแร่! โดยตำแหน่งงานสุดท้ายจะทำการวิเคราะห์อัตราการสูญเสียเหงื่อของนักฟุตบอลแต่ละคนซึ่งส่งผลต่อความล้าในการแข่งขัน จากนั้นจะทำการผสมน้ำเกลือแร่ตามสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับนักฟุตบอลแต่ละคนเพื่อให้นักฟุตบอลสามารถลงเล่นในสนามได้นานที่สุด ขวดน้ำเกลือแร่ที่ข้างสนามแต่ละขวดจะมีชื่อของนักฟุตบอลในทีมแต่ละคนติดไว้ตามสูตรที่ผสมให้เฉพาะแต่ละคน

ส่วนทีมแพทย์เองนอกจากดูแลปัญหาการบาดเจ็บแล้วก็คอยดูแลไม่ให้นักฟุตบอลป่วยเป็นไข้มาลาเรียเนื่องจากเมืองที่ต้องลงแข่งขันนั้นตั้งอยู่ในเขตป่าทึบเขตร้อน การล้มป่วยของนักฟุตบอลเพียงคนเดียวอาจหมายถึงความพ่ายแพ้ของทีม ส่วนทีมชาติอิตาลีก็ไม่น้อยหน้าด้วยการลงทุนจ้างนักกายภาพบำบัดมืออาชีพชาวญี่ปุ่นร่วมทีมไปด้วยเพื่อช่วยดูแลปัญหากล้ามเนื้อและความฟิตของนักฟุตบอล เนื่องจากที่ผ่านมาทีมชาติอิตาลีมักประสบปัญหานักฟุตบอลบาดเจ็บง่ายจากความไม่ฟิตอยู่เสมอ

เช่นเดียวกับโลกของการทำงานครับ ในทุกสถานที่ทำงานนั้น หน่วยงานมักจะถูกแบ่งออกเป็นสองหน่วยงานหลักๆ คือหน่วยงาน Front และ Back Office ในความเข้าใจง่ายๆ ของคนทั่วไปนั้น หน่วยงาน Front คือหน่วยงานที่สำคัญที่สุดในฐานะ “ทัพหน้า” ในการทำภารกิจเพื่อสร้างรายได้หล่อเลี้ยงองค์กร เช่น ฝ่ายขาย ฝ่ายบริการ ชื่อเสียงและรายได้ขององค์กรมีที่มาจากการทำงานของหน่วยงานเหล่านี้ ในขณะที่หน่วยงาน Back Office นั้นเป็น “ทัพหลัง” มีหน้าที่บริหารจัดการอยู่เบื้องหลังเพื่อสนับสนุนการทำงานของทัพหน้า เช่น ฝ่ายคลังสินค้า ฝ่ายการเงิน ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายปฏิบัติการข้อมูล ถูกมองว่ามีผลกระทบต่อชื่อเสียงและรายได้ขององค์กรน้อยกว่า จึงถูกให้ความสำคัญเป็นรองและได้รับการจัดสรรทรัพยากรด้อยกว่ามาตลอด เช่น ได้รับงบประมาณพัฒนาบุคลากรน้อยกว่า สภาพแวดล้อมในการทำงานไม่ได้รับการปรับปรุง อุปกรณ์เครื่องใช้ในการทำงานล้าสมัยกว่า มีสิทธิมีเสียงน้อยกว่า ซึ่งผมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเช่นนี้

ในการทำงาน ไม่มีองค์กรใดที่สรรหาคนมาทำงานโดยไม่มีเป้าหมาย ทุกชีวิตมาร่วมงานกับองค์กรเนื่องจากองค์กรเห็นความจำเป็นที่จะมีบุคคลคนนั้นและตำแหน่งงานนั้นในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นงาน Front หรือ Back Office ทุกตำแหน่งล้วนมีความสำคัญและความจำเป็นต่อการอยู่รอดขององค์กรทั้งสิ้น บทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันไม่ได้หมายความว่าหน่วยงานใดจะเป็นส่วนเกินหรือส่วนที่ถูกลืม นักบริหารจะต้องให้ความสำคัญในการจัดสรรทรัพยากรเพื่อดูแลพนักงานทุกหน่วยงานอย่างเที่ยงธรรม สมเหตุสมผล ตลอดจนพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถ ไม่ใช่แต่เฉพาะในงานที่พนักงานคนนั้นรับผิดชอบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพัฒนาให้มีความสามารถที่หลากหลายและหมุนเวียนตำแหน่งงานเพื่อให้พนักงานมีความรู้ความสามารถสูงขึ้น

เราไม่ต้องการแค่คนทำงานเก่งที่โต๊ะของตัวเอง แต่เราต้องการสร้างให้พนักงานเป็น “ผู้นำ” ที่เก่งขององค์กรในรุ่นถัดๆ ไป ไม่ว่าจะมาจากหน่วยงานใดก็ตาม ทุกหน่วยงานมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และเมื่อร่วมแรงร่วมใจจนถึงวันที่องค์กรประสบความสำเร็จเหมือนทีมฟุตบอลที่ได้แชมป์ ทั้งนักฟุตบอลและนักโภชนาการจะต้องชูถ้วยรางวัลด้วยกัน เพราะนี่คือความสำเร็จที่ทุกคนร่วมกันสร้างขึ้นมา

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน