สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

5 ข้อควรระวัง-อุบัติเหตุทางเทคโนโลยี

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล

"อย่าใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการเลี้ยงลูก" ประโยคคลาสสิกที่ยังใช้การได้ในทุกยุคทุกสมัย

หลังเหตุการณ์ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์กรณีที่ลูกชายตัวดีใช้โทรศัพท์มือถือแม่เล่นเกมคุกกี้รัน แล้วพลั้งเผลอไปซื้อไอเทม จนโดนบิลเรียกเก็บเงินเป็นจำนวนถึง 203,477.06 บาท แม้ท้ายที่สุดผู้ให้บริการยินยอมไม่คิดค่าบริการ เนื่องจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทว่าประเด็นนี้มีบทเรียนที่น่าสนใจ

ธาม เชื้อสถาปนศิริ ผู้จัดการกลุ่มงานวิชาการ โครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อเพื่อ สุขภาวะของสังคม และเครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ(มีเดียมอนิเตอร์) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรียกว่า "อุบัติเหตุเทคโนโลยี" สะท้อนถึงความประมาทของผู้ใช้ และระบบป้องกันอันหละหลวมของผู้ให้บริการ

"ผมขอตั้งข้อสังเกตไว้ 3 ประเด็นใหญ่ คือ เกมคุกกี้รันเป็นเกมที่เล่นได้ทั่วไปและเป็นเกมที่มีการใช้จ่ายด้วยเงิน ซึ่งเดี๋ยวนี้เกมออนไลน์ถูกทำขึ้นมาเพื่อมุ่งเน้นให้ขายได้ในเกม เช่น ไอเทมต่างๆ

ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองเองก็ไม่ได้มีความรู้ถ่ายทอดข้อควรระวังในการใช้โทรศัพท์มือถือ ข่าวดังกล่าวชัดเจนแล้วว่าเด็กใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ปกครอง เชื่อว่าเกินครึ่งของเด็กไทยเข้าถึงข้อมูลโทรศัพท์มือถือโดยการใช้โทรศัพท์มือถือของพ่อแม่ เป็นการให้ลูกเล่นเพื่อฆ่าเวลา โดยที่พ่อแม่ไม่รู้ไม่เห็น

สุดท้าย ผู้ประกอบการรู้ดีว่าโทรศัพท์ถูกจดภายใต้ชื่อเสียงเรียงนามของใครใช้โปรโมชั่นแบบไหน เหตุการณ์นี้คุณแม่บอกว่าใช้โปรโมชั่นแพ็กเกจ 299 บาท แต่ระบบไม่ฉลาดพอที่จะตรวจสอบความผิดปกติได้ว่ามีการใช้เงินซื้อผ่านทางออนไลน์เกินกว่า 3 เท่าของบิลปกติบนเครือข่ายผู้ให้บริการต้องมีระบบคัดกรองแจ้งเตือนและตัดทันทีที่ผิดปกติ ทั้งหมดนี้จึงถือเป็นความซวยของผู้บริโภคที่ไม่รู้เท่าทัน แถมไม่มีระบบคุ้มครองใดๆ"

ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อออนไลน์คนนี้ยกตัวอย่างในต่างประเทศว่ามีหน่วยงานที่ออกมาตรการคุ้มครองในกรณีที่เด็กๆเอาโทรศัพท์พ่อแม่มาใช้และซื้อของออนไลน์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยจะคุ้มครองด้วยการจ่ายเงินคืนให้ (Refund) เต็มร้อยเปอร์เซนต์

"คนที่รับผิดชอบจริงๆคือผู้ประกอบการที่ให้บริการคอนเทนต์นี้ ต้องมีระบบตัดบิลเมื่อถึงยอดการใช้จ่ายที่เกินปกติ ให้ถือเป็นโมฆะไปเลย"

ธาม กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ยังถือเป็นบทเรียนสอนใจพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายว่า "อย่าใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการเลี้ยงลูก"

"สมัยก่อนอาจเป็นการทิ้งลูกให้อยู่หน้าจอโทรทัศน์เพียงลำพัง เด็กจึงเสพความรุนแรง หรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ยุคต่อมา ไม่ให้เงินลูกไปเล่นร้านเกมออนไลน์ แหล่งซ่องสุม ตอนนี้กลายเป็นว่าพ่อแม่ซื้อสมาร์ทโฟน หรือแทบเล็ตให้ลูก หวังให้ลูกอยู่ใกล้หูใกล้ตา แต่ไม่รู้หรอกว่าคุณกำลังยื่นดาบสองคมให้ลูก พ่อแม่ต้องรู้เท่าทันว่าสื่อแต่ละประเภทมีพิษมีภัยแฝงอยู่ในนั้น โรงเรียนเองก็มีส่วนสำคัญที่จะต้องมีมาตรการ ตกลงทำความเข้าใจกับพ่อแม่ผู้ปกครองเรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือของลูกๆด้วย"

ทิ้งท้ายด้วยคำแนะนำ 5 ข้อควรระวัง "อุบัติเหตุทางเทคโนโลยี"ที่ผู้ปกครองควรตระหนักไว้

1.อย่าหักดิบด้วยการห้ามไม่ให้ลูกเล่นเกม เป็นมาตรการที่รุนแรงเกินไป ทางที่ดีคือกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม เช่น ให้ลูกเล่นเกมได้ไม่เกิน 45 นาทีต่อวันเท่านั้น มากกว่านั้นเสี่ยงตกอยู่ในภาวะติดเกม

2.สถานที่เล่นควรอยู่ในที่ใกล้หูใกล้ตา เช่น ห้องรับแขก ไม่ใช่เล่นในที่ที่พ่อแม่ไม่รู้เห็น

3.อย่าให้เกมเป็นเครื่องมือรางวัล ทันทีที่หมดเวลาเล่นเกม ควรให้มีกิจกรรมเสริมทันที เช่น ทำงานบ้าน ทำการบ้าน ออกกำลังกาย เพื่อเป็นสิ่งต่อรองกับลูก ห้ามให้การเล่นเกม เสมือนเครื่องมือรางวัลเพื่อตอบแทนความดี เช่น ลูกสอบได้ที่หนึ่ง พ่อแม่ซื้อไอโฟนให้ มิฉะนั้นเด็กจะคิดว่าต้องทำความดี เพื่อให้ได้เล่นเกม 

4.พ่อแม่ต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยี ต้องรู้จักการตั้งค่าระบบความปลอดภัยต่างๆในโทรศัพท์ เช่น ตั้งค่ารหัสการจ่ายบัตรเครดิต ตั้งค่าพาสเวิร์ดป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

5.วางกฎระเบียบเรื่องการใช้โทรศัพท์มือถืออย่างเคร่งครัด สอนปลูกฝังความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับระเบียบวินัยและมารยาทต่างๆ เช่น ห้ามคุยโทรศัพท์เสียงดัง ห้ามดูภาพโป๊ ห้ามแชทด่าเพื่อน หรือแกล้งคนอื่น เป็นต้น

รู้ไว้ใช่ว่า จะได้ไม่มานั่งเสียใจทีหลัง


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : 5ข้อควรระวัง-อุบัติเหตุทางเทคโนโลยี

view