อย่าปล่อยโอกาสหลุดลอยด้วย Remarketing

โดย : นาวิก นำเสียง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะคุ้นเคยกับชื่อ Remarketing หรือที่เรียกกันว่า "การโฆษณาแบบติดตาม"

เชื่อว่าหลายคนที่เคยได้ยินคำนี้ยังไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไรอย่างลึกซึ้งและที่สำคัญ พวกเขาไม่รู้ว่าจะนำ Remarketing ไปใช้ประโยชน์กับธุรกิจได้อย่างไร จึงไม่แปลกใจที่เราไม่ค่อยเห็นโฆษณาออนไลน์ของธุรกิจไทยที่ใช้ Remarketing สักเท่าไร

Remarketing หรือ การโฆษณาแบบติดตามจะช่วยให้โฆษณาออนไลน์ โดยเฉพาะแบนเนอร์ ไปปรากฏกับผู้เข้าชมที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมาก่อน

เคยสังเกตไหมว่าเมื่อไรที่เข้าเว็บไซต์ของผู้ให้บริการหรือเว็บไซต์ขายของ เช่น ค้นหาที่พักในเว็บไซต์ Agoda เป็นต้น จากนั้นก็จะเห็นโฆษณาโรงแรมที่พักของ Agoda ไปปรากฏตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งเว็บไซต์สังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊คตลอดเวลา เหมือนกับว่ารู้ใจเราไปหมดว่าเราต้องการอะไร หรือค้นหาอะไรอยู่ในขณะนี้ เรียกว่าไม่ปล่อยให้เราคาดสายตาเลย

คุณสามารถติดตั้งโฆษณาแบบติดตามนี้ได้โดยใช้บริการโฆษณาออนไลน์ผ่าน Google Display Network (GDN) หรือ เฟซบุ๊ค เพียงติดตั้งโค้ดที่ได้มาจาก GDN หรือ เฟซบุ๊คในทุกหน้าของเว็บไซต์คุณ จากนั้นทุกครั้งที่คุณสร้างแคมเปญโฆษณาก็ระบุโฆษณาให้เป็นแบบติดตาม เพียงเท่านี้ โฆษณาของคุณจะปรากฏในเว็บไซต์ต่างๆ หรือเฟซบุ๊คกับผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์มาก่อน ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นอาจเป็นลูกค้าหรือลูกค้ามุ่งหวัง

ดังนั้น Remarketing จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการลงโฆษณาที่ต้องไม่ปล่อยให้โอกาสการขายหลุดลอยไป เพราะว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์มีความสนใจในสินค้าและบริการอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าอาจยังไม่ถึงเวลาที่ต้องการซื้อก็ได้ เมื่อโฆษณาของคุณไปปรากฏให้เห็นบ่อยๆ โอกาสปิดการขายก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

แล้วธุรกิจจะได้ประโยชน์อะไรจาก Remarketing บ้าง

1.สร้างการระลึกได้ถึงแบรนด์ (Brand recall)

Remarketing เป็นเครื่องมือที่วิเศษสุดจริงๆ ที่จะย้ำเตือนลูกค้าให้ระลึกได้ถึงแบรนด์ ลูกค้าจะเจอโฆษณาตลอดเวลาในจากหลากหลายเว็บไซต์ของเครือข่ายโฆษณาออนไลน์ หรือแม้กระทั่งในหลากหลายอุปกรณ์ แบบว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหน โฆษณาก็ถึงที่นั้น ลูกค้าที่เห็นโฆษณาบ่อยๆ ก็จะจำแบรนด์ได้ในที่สุด

2.เพิ่ม Conversion Rate ให้สูงขึ้น

Conversion rate เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงสู่ความสำเร็จ ซึ่งคำนวณมาจากอัตราส่วนของความสำเร็จ เช่น จำนวนครั้งที่ซื้อสินค้า จำนวนครั้งที่ได้ผู้สมัครใหม่ เป็นต้น กับจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด ยิ่งมีอัตราที่สูงเท่าไร ก็หมายถึงความสำเร็จของการตลาดออนไลน์มีมากเท่านั้น ดังนั้น Conversion rate จึงมีความสำคัญอย่างมากในการตลาดออนไลน์ และเป้าหมายหลักของนักการตลาดที่จะเพิ่ม Conversion Rate ให้สูงขึ้น

Remarketing จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่ม Conversion Rate ให้สูงขึ้น ด้วยการย้ำเตือนหรือโฆษณาไปยังลูกค้ามุ่งหวังให้กลับมาซื้อสินค้าหรือบริการอีกครั้ง เช่น หากเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ อาจมีลูกค้าที่เลือกสินค้าแต่สุดท้ายไม่ชำระเงินหรือสั่งซื้อสินค้าไม่เสร็จสมบูรณ์ ก็สามารถใช้โฆษณาแบบติดตามกับลูกค้าเหล่านี้ได้ เพื่อให้กลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง

หรืออาจใช้โฆษณาแบบติดตามกับลูกค้าที่เข้ามาดาวน์โหลดเอกสารหรือลงทะเบียนสนใจสินค้าในเว็บไซต์ ลูกค้าเหล่านี้มีความสนใจในสินค้าอยู่แล้ว เพียงแค่เตือนพวกเขาด้วยโฆษณาแบบติดตาม มีโอกาสที่จะกลับมาซื้อสินค้าในที่สุด

3.ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด

ความสามารถในการติดตามลูกค้าที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการเฉพาะเจาะจงจะช่วยให้ปิดการขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น Remarketing สามารถใช้กับลูกค้าที่เข้าชมเว็บไซต์เฉพาะหน้าใดหน้าหนึ่งได้ แต่ละหน้าของเว็บไซต์จะบ่งบอกถึงความสนใจ ดังนั้น Remarketing จึงเป็นเครื่องมือที่จะโฆษณาด้วยข้อความเฉพาะไปยังกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้ดี เช่น โฆษณาด้วยโปรโมชันพิเศษเพื่อจูงใจในซื้อสินค้า กับกลุ่มเป้าหมายที่สนใจสินค้านั้นอยู่แล้ว เป็นต้น

4.สุดท้ายไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป

ลูกค้าที่เข้าชมเว็บไซต์จะมาจากแหล่งที่มาต่างๆ เช่น เสิร์ชเอ็นจิ้น เว็บไซต์สังคมออนไลน์ เว็บไซต์ต่างๆ หรือโฆษณาออนไลน์ เป็นต้น พวกเขาจะไม่ซื้อสินค้าจากการเข้าชมครั้งแรก แต่จะต้องเปรียบเทียบสินค้ากับเว็บไซต์อื่นๆ หรือสนทนากับเพื่อนในเว็บไซต์สังคมออนไลน์ ก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้า ดังนั้น Remarketing สามารถดึงพวกเขาให้กลับมามีส่วนร่วมหรือเป็นลูกค้า ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียของลูกค้าที่มาจากสื่อโฆษณาแรกได้ เพราะว่าพวกนี้มีแนวโน้มสูงในการซื้อสินค้าอยู่แล้ว

ดังนั้นอย่าปล่อยให้ลูกค้าหรือโอกาสการขายหลุดลอยไป ทุกครั้งที่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ นั่นคือโอกาสการขายที่จะต้องปิดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลองใช้ Remarketing แล้วจะเห็นความแตกต่างของการใช้สื่อโฆษณาออนไลน์แบบปกติอย่างชัดเจน

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน