สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ส่วยสีลม-เทศกิจ-สก-มาเฟียตัวจริง

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวทั่วไปโพสต์ทูเดย์

ภายหลังเจ้าหน้าที่ทหารนำกำลังเข้าควบคุมตัว “พิพัฒน์ ลาภปรารถนา” ประธานสภากรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตบางรัก พร้อมด้วย “ประเสริฐ พรมมิ” เลขานุการมูลนิธิอุปถัมป์บางรัก หลังจากทั้งสองถูกผู้ค้าบริเวณหน้าทางเข้าวัดหัวลำโพง สามย่าน แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม. ร้องเรียนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินเป็นค่าคุ้มครอง เพื่อไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจ สำนักงานเขตบางรัก มารบกวน หรือจับกุมดำเนินคดีในระหว่างที่ตั้งแผงค้าหรือรถเข็นสินค้าบนทางเท้า

แม้เรื่องดังกล่าวจะยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด เพราะยังอยู่ในชั้นของการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ได้ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า อำนาจหน้าที่ของ สก. นั้นมีมากเพียงใดในการตั้งตัวเป็นมาเฟียในพื้นที่ได้หรือไม่

เมื่อเปิดข้อกฎหมายว่าด้วยอำนาจหน้าที่ของ สภากรุงเทพมหานคร หรือ สก. ถือเป็นองค์กรนิติบัญญัติของกรุงเทพมหานครเกี่ยวกับกิจการในอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งกฎหมายกำหนดให้มีอำนาจหน้าที่ ควบคุม ตรวจสอบและดูแลการบริหารราชการกรุงเทพมหานครของฝ่ายบริหารอันมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นหัวหน้าคณะฯ รวมถึงมีอำนาจใน การขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินเหลื่อมปีงบประมาณเกินปีงบประมาณถัดไป และ5. อำนาจในการอนุมัติ เช่น ร่วมกับฝ่ายบริหารในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

ทั้งนี้โครงสร้างของ สก. ทั้งหมดมีจำนวนทั้งสิ้น 57 คน ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ที่มีสิทธิเลือกตั้ง จาก 50 เขต และมีวาระในการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี

ดังนั้น สก. 1คน นอกจากจะมีความใกล้ชิดกับประชาชนที่เป็นฐานเสียงในแต่ละพื้นที่แล้ว เมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่ง สก. จะทำให้มีอำนาจการตรวจสอบเจ้าหน้าที่กทม. ซึ่งเพียงพอที่จะสร้างความเกรงใจให้กับประชาชนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ของรัฐได้

สอดคล้องกับข้อมูลจาก แหล่งข่าวภายในศาลากลางกทม.  เปิดเผยว่า ในทางปฏิบัติ สก. มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่กทม.ได้ แต่โดยหลักแล้ว สก.ต้องเข้ามาช่วยเหลือการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ แต่ปรากฏว่า การมีอำนาจตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้ ทำให้เกิดความเกรงใจขึ้น ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่เทศกิจ เกรงใจไม่กล้าเข้าไปจับกุมผู้ค้าแผงลอยที่ล่วงล้ำทางเท้าเพราะรู้ว่ามี สก.บางคนดูแลอยู่ หรือการเก็บค่าแผงลอยในย่านถนนสีลม ที่มีอยู่กว่า 1,000 แผงมีการเรียกเก็บค่าเช่า ค่าหลอดไฟ เข้าไปมีส่วนในการจัดการตลาดนัด รวมถึงป้ายโฆษณาเถื่อนที่ติดอยู่ตามถนนต่างๆ ก็ต้องเสียเงินให้กับทาง สก.เหล่านี้ทั้งสิ้น

“การสืบสวนภายในพบว่าข้อมูลว่า หลายพื้นที่มีลักษณะการเรียกเก็บค่าเช่าแผง ทำตัวเป็นมาเฟียคุมพื้นที่ในแต่ละเขตจริง ซึ่งทราบอีกว่าทาง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เก็บรวบรวมข้อมูลผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชั่นไว้หลายคนแล้ว” แหล่งข่าวกล่าว

โพสต์ทูเดย์ ลงพื้นที่หาสอบถามผู้ค้าแผงลอยและได้พบกับ “นิด” (นามสมมุติ) แม่ค้าขายอาหารบริเวณด้านหน้าวัดหัวลำโพง กล่าวว่า มีการเก็บเงินค่าตั้งแผงร้านค้าจริง ในส่วนของที่ร้านเราถูกเก็บเงินไปคิดราคาตางรางเมตรละ 400 บาท ราคานี้คือพื้นที่บริเวณติดริมรั้ววัดหัวลำโพง และคิดราคาเมตรละ 200 บาท ในจุดบริเวณฝั่งตรงข้ามวัดหรือติดริมถนน รวมแล้วต้องจ่ายเงิน 600 บาท/วัน ถ้าเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือมีการจัดงานที่วัดหัวลำโพง ก็จะถูกบวกเพิ่มค่าวางแผงค้าอีกเป็น 2 เท่า

“จะมีคนมาเก็บเงินค่าตั้งแผงไปส่งต่อ แต่ไม่รู้ว่าเงินที่ถูกเก็บไปนั้นถูกส่งให้ใคร พอมีข่าวว่าทหารเข้ามาจัดการไม่ให้มีการเก็บเงินค่าตั้งแผงเราก็ดีใจนะ เพราะรายได้ต่อวันก็ไม่เท่าไหร่” แม่ค้ากล่าว

ด้านมาตรการป้องกันและแก้ปัญหามาเฟียแผงลอยทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ทางกทม. กำลังดำเนินการจัดระเบียบแผงลอยรุกล้ำพื้นที่ทางเท้า คืนให้กับประชาชนได้ใช้สัญจรตามปกติ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการเกิดมาเฟียเก็บค่าตั้งแผง

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า มาตรการจัดระเบียบผู้ค้าแผงลอยทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ได้มีการเจรจาทำความเข้าใจกับทางผู้ค้าแผงลอย ให้ออกจากพื้นที่ภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้

ขณะเดียวกัน ต้องเร่งแก้ปัญหามาเฟียแผงลอย อาทิ แผงลอยริมถนนสีลม ให้ได้โดยเร็ว โดยกลุ่มมาเฟียแผงลอย เกิดจากพ่อค้าหาบเร่ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ รวมถึงกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเก็บเงินกันเองแล้วนำไปให้กลุ่มอิทธิพลเข้ามาคุ้มครองเอง ทำให้มีเงินวิ่งอยู่ในระบบมาเฟียเฉลี่ยวันละ 100-200 บาท/แผง

“การจัดระเบียบคืนทางเท้าให้ประชาชน จะไม่ยอมให้ผู้ค้าฝ่าฝืนกฎหมายมาตั้งร้านกีดขวางทางเดินอีกต่อไป การที่ผู้ค้าจะอ้างว่าต้องการบริเวณค้าขายหากินนั้นไม่ถูกต้อง เพราะทำให้มีผลกระทบต่อการจราจร เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตคนเดินทางเท้า เช่นที่อนุสาวรีย์มีคนเดินทางมาขึ้นรถโดยสารวันละ 2 แสนคน เขาเดินบนฟุตบาธไม่ได้เลย เพราะพ่อค้าแม่ค้า200 กว่าแผงยึดทางเท้าหมด อย่างนี้จะอ้างเรื่องความยากจนไม่ได้ เพราะมีคนเดือนร้อนจำนนวนมาก ผมเข้าใจความยากจน แต่พ่อค้าก็ต้องเข้าใจกฎระเบียบด้วย ฉะนั้นกทม.จะยอมไม่ได้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกับ และเจ้าหน้าที่เทศกิจต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ส่วยสีลม เทศกิจ สก มาเฟียตัวจริง

view