สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ย้อนรอยจัดซื้อ ไมค์แพง

ย้อนรอยจัดซื้อ'ไมค์แพง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ย้อนรอยจัดซื้อ "ไมค์แพง" ปมร้อนกลางกระแสปราบโกง

กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่า "รับ(รัฐบาล)น้องใหม่" ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปเสียแล้วกับกรณี "ไมค์แพง" หรือ "ไมค์ขั้นเทพ" ที่ติดตั้งในห้องประชุม 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ที่สำคัญไม่ได้มีเพียงเฉพาะไมโครโฟนเท่านั้นที่ถูกมองว่าราคาแพงระยับ เพราะห้องประชุมแห่งนี้ยังมีอุปกรณ์อีกหลายชิ้นเข้าข่ายชวนสงสัย ไล่ดูในบัญชีราคากลางที่กรมโยธาธิการและผังเมืองประกาศไว้ ก็มี "วีดิโอวอลล์" ราคาเครื่องละครึ่งล้าน โคมไฟ โต๊ะ เก้าอี้ ซึ่งขณะนี้กำลังมีการตั้งข้อสังเกตกันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์

ประเด็นที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง ไม่ได้อยู่ที่ "ราคาแพงเวอร์หรือเปล่า?" เท่านั้น เพราะยังมีคำถามถึง "ความเหมาะสม" และความ "โปร่งใส" ท่ามกลางยาหอม "ปฏิรูปประเทศ-ปราบคอร์รัปชัน" ที่กำลังขับเคลื่อนกันอยู่ในขณะนี้

ล่าสุด นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เจ้าของโครงการ "งานครุภัณฑ์จัดซื้อ งานติดตั้งระบบห้องประชุม" ควงแขน นายชาญชัย ตินติราษฎร์ ผู้แทนบริษัทอัศวโสภณ ได้ออกมาชี้แจงแถลงไขหลายต่อหลายประเด็น ส่วนจะคลายข้อสงสัยหรือเพิ่มข้อสงสัยของสังคม ต้องช่วยกันพิจารณา

ก่อนไปดูคำชี้แจง ขอย้อนกลับไปไล่เรียงความเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับเรื่องราวหรือข้อสังเกตที่เกิดขึ้นก่อน...

กรณีไมค์แพงนี้เริ่มเปิดประเด็นโดยการตั้งข้อสังเกตของผู้สื่อข่าว หลังจากที่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ข้อมูลเกี่ยวกับห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าใช้เทคโนโลยีเดียวกับทำเนียบขาวของสหรัฐ

เทคโนโลยีที่ว่าคือ "ระบบเครื่องเสียงไฮเทค" เฉพาะไมโครโฟน สนนราคาตัวละ 1.45 แสนบาท และไม่ได้มีแค่ห้องประชุม 501 ห้องเดียว แต่ยังมีอีก 2 ห้อง ได้แก่ ห้อง 301 และ 302

รวมแล้วต้องใช้ทั้งหมด 89 ตัว แต่ถ้าหากคิดเหมารวมทั้งระบบไมโครโฟนชุดประชุมของทั้ง 3 ห้องแล้ว ประมาณราคาคร่าวๆ อยู่ที่ 37 ล้านบาท ขณะที่งบประมาณปรับปรุงรวมทั้งหมดทุกอย่างของทั้ง 3 ห้อง ตั้งงบไว้ประมาณ 69 ล้านบาท

กระจอกข่าวค้นหาข้อมูลออนไลน์พบว่า ไมโครโฟนยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ ราคาตกชุดละ 99,000 บาท สร้างข้อสงสัยว่าเหตุใดราคาจึงต่างกันเกือบ 5 หมื่นบาท

เมื่อมีการนำเสนอข่าวออกไป กลุ่มผู้ใช้ "พันทิป" เว็บบอร์ดออนไลน์ชื่อดัง หรือที่ถูกเรียกขานว่า "นักสืบพันทิป" ก็ช่วยกันขุดค้นหาข้อมูลมาแบ่งปันกันอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโลกออนไลน์

ร้อนถึง ม.ล.ปนัดดา หรือแม้แต่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก และทีมโฆษก คสช. ยังต้องออกมาบอกปัดกันพัลวัน โดยเหตุผลของ ม.ล.ปนัดดา คือ ไม่มีเอกสารสักฉบับมาถึง ถ้ามีต้องตรวจสอบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรณีวิธีการพิเศษในการจัดซื้อจัดจ้างปกติ ขณะที่ คสช. บอกว่าไม่ได้รับผิดชอบเรื่องนี้

เผือกร้อนจึงไปไม่พ้นกรมโยธาธิการต้องออกมาชี้แจง ช่วงแรกๆ ก็ยืนกรานกระต่ายขาเดียวว่า ยังไม่มีการลงนามทำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น ย้ำดำเนินการโปร่งใสทุกขั้นตอน ส่วนราคาไมโครโฟนตัวละ 1.45 แสนบาทนั้นก็ไม่เป็นความจริง

ขณะที่ แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล อธิบายสรรพคุณของไมโครโฟนชุดนี้ว่า เสียงชัดใส ป้องกันเสียงรบกวน เป็นได้ทั้งไมค์ธรรมดาและเป็นแบบพิเศษ คือ สามารถเชื่อมต่อกับเชิร์ฟเวอร์ที่เป็นระบบบันทึกข้อมูล ที่สำคัญมีระบบล็อกข้อมูลและการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลด้วย โดยมีซอฟแวร์พิเศษควบคุมการทำงาน

ส่วนหน้าจอที่เห็นมีขนาด 7 นิ้ว มีลำโพงในตัว เป็นระบบสัมผัส โดยจะเป็นระบบแอนดรอยด์พิเศษของบริษัทเอง ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถเข้าชมเว็บไซต์หรือท่องอินเทอร์เน็ตได้ ส่งต่อข้อมูลถึงกันได้ผ่านหน้าจอดังกล่าว

นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมประชุมดูเว็บไซต์อยู่ที่หน้าจอแล้ว ประธานการประชุมต้องการแสดงรูปภาพ หรือนำเสนองานผ่านไฟล์ ก็สามารถกดแทรกขึ้นหน้าจอของทุกเครื่องได้

ทว่าคำชี้แจงนี้ถูกกระแสสังคมโดยเฉพาะในโลกออนไลน์มองว่าฟังไม่ขึ้น พร้อมตั้งคำถามถึงความพอเหมาะพอควร และจำเป็นหรือไม่ที่ ครม.ไทยต้องประชุมผ่านเครื่องไม้เครื่องมือไฮเทคกันขนาดนี้

ที่สำคัญมีการนำเอกสารสรุปผลการประเมินราคาที่กรมโยธาธิการและผังเมืองเผยแพร่บนเว็บไซต์ของกรมเองมาเปิดเผย ปรากฏว่าในรายการสิ่งของก็มีการระบุราคากลางไว้อย่างชัดเจนว่า ราคากลางที่ตั้งไว้เครื่องละ 1.45 แสนบาท

นอกจากนั้นกับข้อสงสัยที่ว่า เมื่อยังไม่มีการทำสัญญาใดๆ ต่อกันแล้วทำไมจึงมี "แท่นและขา" ของไมโครโฟนชุดนี้วางอยู่บนโต๊ะในห้องประชุมแล้ว ซึ่งสื่อมวลชนที่ติดตามไปทำข่าวก็เก็บภาพเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ประเด็นนี้ก็ตอบไม่เคลียร์

ไม่เพียงเท่านั้น ในขณะที่ปม "ไมโครโฟน" กำลังงวดเข้ามา ก็มีการเปิดประเด็นใหม่เกี่ยวกับ "วีดีโอวอลล์" ราคาครึ่งล้าน โดยนำข้อมูลทางเทคนิคของจอพลาสมา ขนาด 60 นิ้ว รวมทั้งขายึดพนังแบบต่างๆ มาเปรียบเทียบให้ดู

จริงอยู่ที่มีราคาเรือนหมื่นเรือนแสน แต่ก็ไม่เชื่อว่าจะมีที่ราคาสูงถึง 5 แสนกว่าบาท อีกทั้งเทคโนโลยีชนิดนี้ก็ล้าสมัยไปแล้ว

ทว่าในประเด็นเหล่านี้ก็มีสมาชิกเว็บบอร์ดส่วนหนึ่งแนะนำให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมให้ละเอียดรอบคอบมากกว่านี้ เพราะจากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาพบว่า การติดตั้งจอวีดิโอวอลล์ขนาดใหญ่ไม่เหมือนกับโทรทัศน์ทั่วไปอย่างที่หลายคนเข้าใจ

จอมอนิเตอร์ที่ใช้ทำวีดีโอวอลล์นั้นมีคุณสมบัติทนทานกว่า เพราะใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยขนาด 46 นิ้ว ราคาอยู่ราวๆ 1.5 แสนบาท ขณะที่เทคโนโลยีพลาสมานั้นก็ไม่ได้ล้าสมัย เพราะยังมีการพัฒนากันอยู่ บางงานจะเหมาะกว่าจอแอลอีดีด้วยซ้ำ นี่ยังไม่รวม "ระบบควบคุมการแสดงผล" ซึ่งใช้ควบคุมภาพและเสียง บางระบบมีมูลค่าหลายล้านบาท....ส่วนนี้ก็เป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่ง

แต่ก่อนที่ความเสียหายจะบั่นทอนชื่อเสียงของรัฐบาลไปมากกว่านี้ ล่าสุดวานนี้ (10 ก.ย.) กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้เปิดแถลงข่าว พร้อมด้วยตัวแทนบริษัทอัศวโสภณ

คำตอบเกี่ยวกับราคาไมโครโฟน นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ยอมรับว่า ราคา 1.45 แสนบาทจริง แต่บริษัทผู้จำหน่ายลดให้ 35% เหลือ 94,250 บาท

ส่วนการจัดซื้อนั้น ไม่ใช่การดำเนินการตาม "วิธีพิเศษ" แต่เป็นการ "ยกเว้น" ตามที่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขอยกเว้นระเบียบการจัดซื้อพัสดุ โดยงบประมาณทั้งหมดเป็นงบที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีโอนมาให้ ซึ่งตั้งแต่รับราชการก็ไม่เคยใช้วิธีจัดซื้อแบบนี้ แต่ก็ยืนยันว่าถูกต้องและพร้อมให้ตรวจสอบ

สำหรับราคากลางที่อยู่ในเว็บไซต์ไม่ใช่ราคากลางที่เอาไปจ้าง เป็นเพียงการของบประมาณในการดำเนินการเท่านั้น ยังไม่ใช่การอนุมัติเบิกเงิน

ทั้งหมดนี้เป็นที่มาที่ไปของ "ไมค์แพง" กระทั่งมาถึงคำชี้แจงของตัวแทนหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องโดยตรง!


เทียบเคียงไมค์ขั้นเทพหลักหมื่นถึง-2-แสน

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

กรณีการจัดชื้อไมโครโฟนสุดไฮเทคยี่ห้อ Bosch รุ่น DCNM-MMD หน่วยละ 139,690 แสนบาท ก้านไมโครโฟนยี่ห้อ Bosch รุ่น DCNM-HDMIC หน่วยละ 1.83 หมื่นบาท เพื่อติดตั้งภายในห้องประชุมคณะรัฐมนตรีใหม่ ภายใต้การรับผิดชอบของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ทำให้ถูกวิจารณ์อย่างในหนักในช่วงที่ผ่านมาว่า เป็นการใช้งบประมาณที่ฟุ่มเฟือย และราคาแพงเกินจริง โดยใช้วิธีพิเศษในการจัดซื้อ ซึ่งตรงกันข้ามกับนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่ให้เน้นความโปร่งใสและเศรษฐกิจพอเพียง

แม้ต่อมาทาง มณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ แถลงยอมรับว่า ราคากลางไมโครโฟนที่บริษัท อัศวโสภณ เสนอราคา 1.45 แสนบาทจริง แต่ไม่ใช่ราคาซื้อขาย เนื่องจากกรมต้องเจรจาต่อรอง และเหลือราคาที่ตัวละ 94,250 บาท

อย่างไรก็ตาม ถึงราคาไมโครโฟนจะลดลงเหลือตัวละ 94,250 บาท แต่หลายฝ่ายยังมองว่าราคายังแพงอยู่ดี เมื่อเทียบกับราคาไมโครโฟนที่หน่วยงานราชการ เอกชนใช้อยู่ในปัจจุบัน

แหล่งข่าวจากดีลเลอร์รับติดตั้งระบบห้องประชุมรายหนึ่ง อธิบายว่า โดยทั่วไปแล้วไมโครโฟนในห้องประชุมจะมีความสามารถไม่แตกต่างกัน ราคาประมาณ 2.5 หมื่นบาท เป็นราคาที่แพงที่สุด

“ราคาไมค์ 1.45 แสนบาทนั้น บอกได้เลยว่าสูงไป บอกได้เลยว่าไม่มีขายที่ไหนในโลกแน่นอน และยี่ห้อบ๊อซเป็นยี่ห้อที่แพงที่สุดในหมู่ไมโครโฟนการประชุม แต่ส่วนตัวที่รู้มารุ่นนี้แพงที่สุดอยู่ที่ 5 หมื่นกว่าบาท เป็นราคาตั้งจากเมืองนอกเท่านั้น และเป็นการใช้งานที่เกินความจำเป็น” แหล่งข่าวระบุ

แหล่งข่าวคนเดียวกัน ระบุอีกว่า ถ้าถามว่าราคาระดับนี้มีเพียงไมโครโฟนของบ็อซยี่ห้อเดียวหรือไม่ คำตอบคือไม่ใช่ แต่เมื่อเทียบสเปกกันแล้วบ๊อซดูมีภาษีมากกว่าในทุกด้าน โดยไมโครโฟนสำหรับการประชุมที่มีความสามารถใกล้เคียงบ๊อซมากที่สุดก็เห็นเป็นของ ซูรี (Shure) รุ่นดีซี 6990พี ที่มีราคาประมาณ 4.3 หมื่นบาท/ตัว

อย่างไรก็ตาม ทางเว็บไซต์ PriceZa.com ได้โฆษณาขายไมค์ Bosch รุ่น DCN Multimedia ราคา 1.99 แสนบาท

ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประจำสำนักงาน บริษัท คิวบิค อาร์ต ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายระบบเสียงคุณภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้อธิบายว่า เบื้องต้นไมโครโฟนมีหลายยี่ห้อ มีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกันไป และราคาไมค์อย่างเดียวไม่รวมก้านไมค์ ฐานไมค์ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นบาท ซึ่งจะแตกต่างกับไมค์ยี่ห้อ Bosch รุ่น DCN Multimedia CN ที่นำมาใช้ในทำเนียบรัฐบาลขณะนี้ เพราะเป็นไมค์นำเข้า เวลานี้มีเจ้าเดียว และวิธีการสั่งซื้อไมค์นำเข้าราคาสูงแบบนี้จะต้องมีรับออร์เดอร์จากลูกค้าก่อนจึงจะสั่งเข้ามาจำหน่าย สินค้าประเภทนี้จะไม่ค่อยมีวางขายทั่วไป

โยธาฯ แจงลดเหลือ 9.4 หมื่น

มณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ชี้แจงกรณีการปรับปรุง ซ่อมแซม บูรณะอาคารบัญชาการ 1 และ 2 ตึกทำเนียบรัฐบาล และบ้านพิษณุโลก ว่า ได้รับงบประมาณรวม 169 ล้านบาท โดยได้รับการยกเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดซื้อพัสดุ เพราะเป็นงานที่ต้องทำเร่งด่วน ส่วนการจัดซื้อไมค์นั้นได้ให้บริษัทที่มีประสบการณ์มาเสนอราคา 3 บริษัท และได้เลือกบริษัท อัศวโสภณ มาเป็นผู้ดำเนินการ เพราะเคยติดตั้งระบบโสตทัศนูปกรณ์ในทำเนียบฯ มาแล้วหลายห้อง

ในส่วนของไมค์ห้องประชุมนั้น ทางบริษัท อัศวโสภณ ได้เสนอรุ่น DCNM-MMD ของ Bosch Security System นำเข้าโดยบริษัท โรเบิร์ต บ๊อช ประเทศไทย ในราคา 1.45 แสนบาท แต่เป็นราคาที่บริษัทเสนอเข้ามายังไม่ได้เจรจาต่อรอง และเมื่อมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมว่าไมค์ที่ใช้มีราคาแพงเกินไป กรมก็ได้ให้ทางบริษัทตัวแทนจำหน่ายยืนยันราคาจากบริษัทแม่ที่เยอรมนี ซึ่งทางบริษัทแม่ได้ยืนยันราคา 1.45 แสนบาท ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่ได้ต่อรองจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยราคาต้นทุนได้ เพราะเป็นความลับทางการค้า

อย่างไรก็ตาม กรมจึงได้สืบค้นข้อมูลทางเว็บไซต์ พบว่าไมค์ในรุ่นดังกล่าวในสหรัฐมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 1,735 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท ถ้าบวกต้นทุนขนส่งและนำเข้าแล้วราคาจะอยู่ที่กว่า 7 หมื่นบาท บวกกำไรของดีลเลอร์และบริษัท อัศวโสภณ ราคาน่าจะอยู่ที่ตัวละ1 แสนบาท ในเบื้องต้นกรมจึงได้ต่อรองลด 35% หรือราคา 9.4 หมื่นบาท ซึ่งเป็นราคาที่กรมยอมรับได้

นอกจากนี้ ยังมีการลดราคาในส่วนประกอบอื่นๆ ที่แตกต่างกัน ทำให้ราคาค่าจัดหาและติดตั้งระบบโสตทัศนูปกรณ์ทั้งหมดคงเหลือ 53.8 ล้านบาท จากประมาณราคาเบื้องต้น 67.9 ล้านบาท สามารถประหยัดเงินได้ 14 ล้านบาท รายละเอียดทั้งหมดจะเผยแพร่ได้ในอีก 2-3 วันนี้


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ย้อนรอยจัดซื้อ ไมค์แพง

view